ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ต่อโทรศัพท์พูดคุยกับ ต่ง จวิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีนเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ซึ่งนับเป็นการหารือโดยตรงครั้งแรกในรอบเกือบ 18 เดือน
การพูดคุยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ต่างพยายามหาวิธีบริหารจัดการความขัดแย้ง และตกลงที่จะฟื้นฟูการสื่อสารโดยตรงระหว่างกองทัพของ 2 มหาอำนาจเมื่อปีที่แล้ว
ถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ออสติน “ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเคารพเสรีภาพการเดินเรือในทะเลหลวง (high seas) ซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายระหว่างประเทศให้การรับรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้”
ข้อพิพาททางการทูตและเหตุเผชิญหน้าทางทะเลระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นพันธมิตรกลาโหมของสหรัฐฯ ทำให้น่านน้ำทะเลจีนใต้เสี่ยงที่จะกลายเป็นจุดปะทะระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน
ด้านกระทรวงกลาโหมของจีนแถลงว่า รัฐมนตรี ต่ง จวิน ได้บอกกับ ออสติน ว่าจีนและสหรัฐฯ ควรจะต้องหาวิธี “เข้ากันให้ได้” และ “ค่อยๆ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน” ด้วยการสานความสัมพันธ์เชิงร่วมมือที่ “ไม่ขัดแย้งและไม่เผชิญหน้า” ระหว่างกองทัพทั้งสอง
ต่ง ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยอมรับจุดยืนของจีนในทะเลจีนใต้ ตลอดจนเคารพอธิปไตย สิทธิ และผลประโยชน์ทางทะเลของจีนในน่านน้ำแถบนี้ พร้อมกับย้ำว่าประเด็นไต้หวันถือเป็น “แกนหลัก” ของผลประโยชน์หลักของจีน
เพนตากอนระบุว่า รัฐมนตรีทั้งสองยังได้หารือเรื่องสงครามยูเครน เกาหลีเหนือ และเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ต่อหลักการจีนเดียว (One China policy)
ออสติน มีโอกาสได้พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมของจีนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2022 โดยพบกับ พล.อ.เว่ย เฟิงเหอ นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนที่เมืองเสียมเรียบของกัมพูชา
ก่อนที่ ไบเดน และ สี จะจัดประชุมซัมมิตกันที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจส่อเค้าย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จากข้อพิพาทหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาไต้หวัน เรื่อยไปจนถึงกิจกรรมทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้
กองทัพสหรัฐฯ เผยเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้วว่า ตั้งแต่ช่วงปี 2021 เป็นต้นมาเครื่องบินทหารของจีนได้บินโฉบเข้าใกล้อากาศยานของสหรัฐฯ ในระยะอันตรายเกือบ 200 ครั้ง
เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ พยายามเปิดช่องทางสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีน เพื่อลดความเสี่ยงเกิดเหตุกระทบกระทั่งหรืออุบัติเหตุที่ไม่ตั้งใจ
“รัฐมนตรี ออสติน ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเปิดช่องทางสื่อสารระหว่างกองทัพของสหรัฐฯ และสาธารณรัฐประชาชนจีน” เพนตากอน กล่าว
ที่มา : รอยเตอร์