กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านทำการยึดเรือสินค้าลำหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อวันเสาร์ (13 เม.ย.) ไม่กี่วันหลังจากเตหะรานเตือนว่าจะปิดพื้นที่นี้ไม่ให้มีการสัญจรทางทะเล ตามรายงานของไออาร์เอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐของอิหร่าน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่อิหร่านจะทำตามคำขู่ เปิดปฏิบัติการโจมตีโดยตรงเล่นงานอิสราเอล โดยปล่อยอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และขีปนาวุธจากดินแดนของพวกเขามุ่งหน้าเข้าสู่ดินแดนของรัฐอิสราเอล แก้แค้นกรณีที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศเล่นงานสถานกงสุลของพวกเขาในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดต่างๆ ของการโจมตียังไม่มีการเปิดเผยออกมา
อิหร่านเน้นย้ำซ้ำๆ เกี่ยวกับคำขู่แก้แค้นกรณีที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศเล่นงานสถานกงสุลของพวกเขาในกรุงดามัสกัส และวอชิงตันส่งเสียงเตือนหลายรอบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ปฏิบัติการแก้แค้นของอิหร่านใกล้เกิดขึ้นแล้ว
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ รายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านลงจอดบนเรือ MSC Aries ที่ประดับธงโปรตุเกส และพามันมุ่งหน้าสู่น่านน้ำของอิหร่าน
รายงานข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของหน่วยงานด้านความปลอดภัยในด้านการเดินเรือหลายแห่ง ที่บอกตรงกันว่าพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบุกขึ้นไปบนเรือและยึดเรือในช่องแคบฮอร์มุซ ช่วงระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิหร่าน
เหตุการณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางทหารในกาซาเมื่อเดือนตุลาคม ในขณะที่อิสราเอลและพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ เกิดการปะทะซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับพวกกลุ่มพันธมิตรของอิหร่านในเลบานอน ซีเรีย อิรักและเยเมน
อิหร่านขู่แก้แค้นเหตุโจมตีสถานกงสุลของพวกเขาในกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ต้องสังสัยว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล สังหารเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ไป 7 นาย ในนั้น 2 นายเป็นผู้บัญชาการระดับสูง
เมื่อวันศุกร์ (12 เม.ย.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน คาดหมายว่าอิหร่านจะทำการโจมตีแก้แค้นอิสราเอล "ในไม่ช้านี้" และเตือนเตหะรานอย่าได้เดินหน้าแผนโจมตีดังกล่าว
พล.ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า "อิหร่านจะต้องรับผลสนองต่อการเลือกขยายสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้" ในความเห็นตอบโต้ต่อเหตุยึดเรือ MSC Aries
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (9 เม.ย.) พลเรือจัตวาอาลิเรซา ตังซีรี ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เตือนว่าพวกเขาอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ หากมองแล้วว่ามันมีความจำเป็น
ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ระบุว่า การปรากฏตัวของอิสราเอลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งอิสราเอลสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2020 ส่วนหนึ่งของข้อตกลงฉบับหนึ่งที่มีอเมริกาเป็นคนกลางถือเป็นภัยคุกคาม
"เราสามารถปิดช่องแคบฮอร์มุซ แต่เราไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าศัตรูเข้ามาปั่นป่วนเรา เราจะทบทวนนโยบายของเรา" พลเรือจัตวาตังซีรี กล่าว
"เรารู้ว่าพวกไซออนิสต์ (อิสราเอล) ไม่ได้เข้าสู่ยูเออีเพื่อจุดประสงค์ทางเศรษฐกิจ แต่เป็นงานด้านการทหารและความมั่นคง นี่คือภัยคุกคามเราและไม่ควรเกิดขึ้น" ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าว
น้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของการบริโภคน้ำมันโดยรวมทั่วโลก ได้ลำเลียงผ่านช่องแคบแห่งนี้ในทุกๆ วัน และจากข้อมูลของ Vortexa บริษัทวิเคราะห์ด้านพลังงาน พบว่าระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2023 มีน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์น้ำมันถูกลำเลียงผ่านช่องแคบฮอร์มุซ 20.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
พวกกบฏฮูตีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ก่อความปั่นป่วนแก่การค้าโลก ด้วยการโจมตีการเดินเรือในทะเลแดงเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว โดยบอกว่ามีเป้าหมายเล่นงานเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แก้แค้นยุทธการทางทหารของอิสราเอลในกาซา
สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้ทำการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮูตี ตอบโต้เหตุโจมตีเรือ
(ที่มา : รอยเตอร์)