ทหารเสริมจากสหรัฐฯ พันธมิตรของอิสราเอล มุ่งหน้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางแล้วในวันเสาร์ (13 เม.ย.) ท่ามกลางความกังวลสงครามระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาสในฉนวนกาซา ที่ลากยาวมานานกว่า 3 วัน อาจลุกลามบานปลายขยายวงกว้าง และคำขู่แก้แค้นอิสราเอลของอิหร่าน
หลังจากถอนกำลังออกจากเมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ทางกองทัพอิสราเอลระบุในวันเสาร์ (13 เม.ย.) ว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการกำราบพวกนักรบต่อไปในตอนกลางของกาซา โดยที่ในเดอีร์ อัล-บาลาห์ เมืองหลักทางภาคกลางของกาซา พบเห็นไฟลุกไหม้มัสยิดแห่งหนึ่งที่ถูกทำลายจนเหลือแต่ซาก
ผู้เห็นเหตุการณ์นามว่า อับดุลเลาะห์ บารากา เล่าว่า "กองทัพอิสราเอลต้องการให้อพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมด ก่อนพวกเขาจะลงมือกวาดล้างภายในเวลาไม่กี่นาที"
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆ มากกว่า 30 เป้าหมายทั่วดินแดนของปาเลสไตน์ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ในขณะที่สายการบินต่างๆ เปิดเผยว่าพวกเขาต้องหลีกเลี่ยงน่านฟ้าอิหร่านเกือบ 2 สัปดาห์หลังเหตุโจมตีก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สถานกงสุล ภายในเขตล้อมรั้วของสถานทูตอิหร่าน ประจำกรุงดามัสกัส ในซีเรีย ที่ทางอิหร่านกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง ในนั้นรวมถึงเลบานอน เยเมนและซีเรีย หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่กองกำลังอิสราเอลเริ่มทำการโจมตีแก้แค้นพวกฮามาสในฉนวนกาซา เอาคืนกรณีที่พวกนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ในขณะที่การเจรจาสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและปล่อยตัวประกันยังคงลากยาว ทั่วภูมิภาคต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการแก้แค้นของอิหร่าน หลังเตหะรานประกาศเอาคืน เหตุโจมตีสถานกงสุลในเมืองหลวงซีเรีย ที่สังหารชีวิตไปหลายราย ในนั้นรวมถึงทหารระดับรายพล 2 นาย
"เราเคลื่อนย้ายสินทรัพย์เพิ่มเติมเข้าไปยังภูมิภาค เพื่อยกระดับความพยายามป้องปรามภูมิภาคและเพิ่มขุมกำลังปกป้องกองกำลังสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ รายหนึ่งกล่าวในวอชิงตัน
สหรัฐฯ มีทหารหลายหมื่นนายประจำการอยู่ในตะวันออกกลางอยู่ก่อนแล้ว และมอบเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอลหลายพันล้านดอลลาร์
การโจมตีของพวกนักรบฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,170 รายในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่วนปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นของอิสราเอลปลิดชีพผู้คนในกาซาไปแล้วอย่างน้อย 33,634 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
หลังจากอิหร่านขู่แก้แค้น อิสราเอลเปิดเผยว่าพวกเขากำลังเสริมการป้องกันภัยทางอากาศ และให้หน่วยรบต่างๆ หยุดนิ่ง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ส่งนายพลมิเคล คูริลลา ผู้อำนวยการข่าวกลางกลางสหรัฐฯ เดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อทำการพูดคุยหารือ
และหลังจากพูดคุยกับ คูริลลา ในวันศุกร์ (12 เม.ย.) โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เผยว่าอิสราเอลกับสหรัฐฯ ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กัน แม้มีความเห็นต่างเกี่ยวกับปฏิบัติการในสงครามกาซา "ศัตรูคงคิดว่าพวกเขาสามารถแยกอิสราเอลออกจากสหรัฐฯ แต่ความจริงนั้นตรงข้ามกันเลย พวกเขากำลังนำพาเราใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นและความสัมพันธ์ของเรากำลังเข้มแข็งขึ้น"
ส่วน ฮอสเซน อามีร์-อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวหลังจากพูดคุยทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และเยอรมนี เมื่อวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) ว่า "อิหร่านไม่ต้องการหาทางขยายขอบเขตของสงคราม" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าเตหะรานไม่มีทางเลือกยกเว้นแต่ตอบโต้เหตุโจมตีสถานทูต
(ที่มา : เอเอฟพี)