นักบินชะตาขาดและเฮลิคอปเตอร์มรณะ รับภารกิจนำนักสกีเอ็กซ์ตรีมท้ามฤตยู 4 นาย กับไกด์ภูเขาขั้นเทพอีก 1 นาย ขึ้นไปตั้งต้นเส้นทางร่อนฟรีสกีจากยอดเขาเปอทิตคอมบินในภาคใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสกีลงมาตามหน้าผาสูงชันซึ่งปราศจากแทร็กสกีใดๆ
โดยไกด์จอมเก๋าฟันธง หิมะใหม่สดโปรยลงมาสามวัน ทำความลึกได้ครึ่งเมตร เพอร์เฟ็กต์สุดๆ สำหรับการสกีจากยอดเขาลงมาแบบโนแทร็ก ส่วนความเสี่ยงเรื่องหิมะถล่มอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะรับมือได้ อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจของไกด์อาดัม จอร์จ ที่จำกัดวงแค่เรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ ณ วันอังคารที่ 2 เมษายน 2024 ที่แสนจะแจ่มใสนั้น ไม่ครอบคลุมถึงความเสี่ยงจากความชัวร์ของเฮลิคอปเตอร์
กำหนดการทริปเฮลิสกีอันเป็นโปรแกรมท้าตายรายวันระบุว่า เฮลิคอปเตอร์แอร์กลาเซียส์ บี3 จะนำลูกค้าออกบินจากรีสอร์ตเมืองแวร์บีแอร์ เทศมณฑลวาเลส์ ไปส่งที่ยอดดอยเปอทิตคอมบินฝั่งเหนือ ซึ่งสูง 11,644 ฟุต (3,668 เมตร) แต่ปรากฏว่าทริปนี้ไม่จบ ลูกค้าเดินทางถึงเวิ้งฟ้าเหนือลานเฮลิคอปเตอร์ แต่ไม่มีโอกาสได้เหยียบเท้าลงไป เพราะโศกนาฏกรรมอุบัติขึ้นในช่วงที่ฮอฯ มรณะใกล้จะลงจอด
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ลดระดับลงสู่ลานจอด ลมจากเครื่องก็ทำให้หิมะสดใหม่ฟุ้งกระจุยกรูเกรียวขึ้นมาตามปกติ แต่แล้ว!! จู่ๆ หิมะแห่งมัจจุราชจำนวนมหาศาลพากันกระหน่ำใส่ฮอฯ โดยมีหิมะก้อนยักษ์ๆ กระดมกันพุ่งตัวกระแทกกระจกบังลมหน้า ปิดทัศนวิสัยทั้งหมด
เฮลิคอปเตอร์เสียสมดุล และพ้นออกจากขอบของลานยอดเขา มันทรุดตัวครูดลงไปตามหน้าผาขาวโพลนเพราะแผงหิมะ แต่นักบินน่าจะขยับเครื่องออกห่าง แต่ก็กลับเป็นการเสียท่าแก่ท่านยมบาล เฮลิคอปเตอร์ถูกเหวี่ยงและเปรี้ยงเข้ากับตัวภูเขา โดยเดลิเมลออนไลน์รายงานว่า เกิดเสียงกึกก้องกัมปนาท
คณปู่เอ็ดเวิร์ด นามสกุลกล้าหาญ ยอดเซียนแห่งกีฬาเอ็กซ์ตรีมสกี เห็นใบพัดชิ้นหนึ่งลอยหวือผ่านหน้าฮอฯ ด้วยความเร็วประมาณ 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความคิดแวบในหัวคุณปู่ มันหลุดออกมาหรือมันแค่หัก แต่ช่างเถอะ มันอันตรายถึงแก่ชีวิตแน่ กระโดดออกไปตายเอาดาบหน้าเดี๋ยวนี้เลย!!!
หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์แอร์กลาเซียส์ บี 3 กระแทกโครมเข้ากับหน้าผาของเปอทิตคอมบินเมาท์เทน พร้อมกับมีมหันตภัยแอฟวาแลนช์หิมะถล่ม โครมครามลงมาตามหน้าผาสูงชันเกือบจะตั้งฉากกับพื้นโลกนั้น คุณปู่เอ็ดเวิร์ด คอร์เรจ นักสกีเอ็กซ์ตรีมรุ่นเก๋า รีบก้าวข้ามขาของสองหนุ่มรุ่นหลานคนอังกฤษด้วยกัน พุ่งตัวไปเปิดประตูซ้ายของฮอฯ ในเวลาเดียวกันก็ใช้แขนหนึ่งรวบตัว น้องเทดดี้ ฮัทชิงส์ วัย 18 ปี และอีกแขนหนึ่งฉวยคว้าพี่กาย วัย 23 ปี แล้วกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์อเวจี
สามชีวิตร่วงหล่นไปในเวิ้งฟ้า กระเจิงกันไปตามยถากรรมของกระแสลมและแรงโน้มถ่วงโลกได้สักระยะหนึ่ง ก็กระแทกผืนหิมะที่ห่มคลุมตลอดทุกแนวลาดชันและสันเขาของเปอทิตคอมบิน แล้วแรงของโมเมนตัมก็เหวี่ยงให้ร่างของแต่ละคนกลิ้งเร็วระห่ำลงไปเรื่อยๆ
บุญยังรักษาอยู่บ้างเพราะทุกรายกลิ้งอยู่ในทิศทางอันฉีกห่างออกจากเฮลิคอปเตอร์ แต่ก็มีมหันตภัยแห่งกระแสของมวลหิมะถล่มซึ่งรวมทั้งก้อนน้ำแข็งก้อนหินก้อนดินสารพัดขนาด ไล่ตามมาอื้ออึงราวกับมิชชันอิมพอสซิเบิล แบบว่าถึงจะไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
บรรยายวิดีโอ1
ชะตากรรมนักสกีท้าท่านยมฯ: เชิญชมคลิปน่าตื่นเต้น “ตกเขา” ของโปรสกี นามว่า เอียน แมคอินทอช นักสกีท้ามฤตยู เล่นสกีออฟแทร็กพลาด และต้องกลิ้งเร็วระห่ำลงไปตามผืนหิมะที่ปกคลุมหน้าผาอันแสนชันแทบจะตั้งฉากกับพื้นโลก เสียงร้องโอ้ก เอิ้ก โอ๊ย แว่วให้ได้ยินเป็นระยะๆ ตลอดแนวหน้าผา 1,600 ฟุตของเทือกเขาพาราไดซ์ เวตส์ ในอลาสก้า อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดเบรกของหน้าผาและจึงหยุดกลิ้งได้ โปรแมคอินทอชตะกายลุกขึ้น พลางส่งเสียงผ่านไมค์ในหมวกกันน็อคสกี ให้พรรคพวกไม่ต้องห่วง “ผมโอเค ผมโอเค”
แม้คุณปู่เซียนเอ็กซ์ตรีทสกีจะมีประสบการณ์แล่นสกีพลาด จนตกเขา กลิ้งพลั้กๆๆ เยี่ยงนี้มาพอใช้ได้เลย แต่ชะตากรรมของคุณปู่ ออกจะสาหัสกว่าหลานร่วมชาติทั้งสอง
คุณปู่เอ็ดเวิร์ดกลิ้งดุเดือดลงมาราว 1640 ฟุต หรือประมาณ 500 เมตร โดยทิศทางที่ถูกเหวี่ยงไปนั้น นำพาสู่บริเวณของโตรกเขา และเมื่อสปีดของการกลิ้งตกเขาเริ่มผ่อนลงมา คุณปู่ก็มีอันจะต้องร่วงลึกลงไปในรอยแยกของโตรก อีก 30 เมตร (หรือประมาณความสูงของตึก 7 ชั้น) กว่าจะไปหยุดนิ่งบนสะพานหิมะ
ซึ่งสิริรวมแล้ว ได้ทำให้กระดูกหักกว่า 10 จุดกันเลยทีเดียว ตั้งแต่แขนและข้อมือซ้ายหัก กระดูกไหปลาร้าหัก และซี่โครงหัก 7 แห่ง
กระนั้นก็ตาม เดลิเมลออนไลน์ชี้ว่าเป็นเรื่องดีต่อชีวิตของคุณปู่ โตรกเขาและรอยแยกเป็นหลืบลึกสุดล้ำนั้น ซึ่งมีความกว้างเพียงประมาณครึ่งเมตร คือพื้นที่หลบภัยอันตราย เพราะบรรดามวลมหาศาลของหิมะ ก้อนหิน และก้อนน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ทั้งปวงจะเคลื่อนตัววืดผ่านเลยไป ไม่ถล่มลงมากองทับร่างกายของคุณปู่
ด้านเฮลิคอปเตอรที่น่าสงสารไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย และได้แต่ไถลร่วง กระแทกกระเด็นกระดอน คว่ำหงายโครมคราม จากแนวยอดเขาลงไปตามความชันของหน้าผาที่มีหิมะคลุมไว้เป็นผืนขาว
ซึ่งเมื่อมองจากรีสอร์ตที่พื้นล่างจะเห็นว่า บนผืนขาวของฉากหิมะนี้ มีรอยครูดเป็นแนวยาวลงไประยะหนึ่ง แล้วจะมีรอยปั๊มประทับเป็นเค้าโครงของเฮลิคอปเตอร์ที่กระแทกกับหน้าผา ต่อจากนั้นจึงเป็นรอยครูดแนวยาวเหยียดลงสู่เชิงเขาระยะที่หนึ่ง จนกระทั่งหายไปในกองหิมะถล่มขนาดมหึมาซึ่งปกคลุมซากปรักหักพังของเฮลิคอปเตอร์มรณะ ที่จุดต่ำกว่ายอดเขาลงมาประมาณ 2,620 ฟุต ราว 800 เมตร หรือ 70% ของความสูงหน้าผาทั้งหมด
ชะตากรรมน่าสะเทือนใจอย่างที่สุด ได้แก่ สามชายที่ค้างคาอยู่ในซากเละเทะของเฮลิคอปเตอร์ คือ เสียชีวิตทุกราย ได้แก่ นักบินเจอร์โรม โลวี - ไกด์อาดัม จอร์จ – และนักสกีหนุ่มใหญ่วัย 34 ปีจากไอร์แลนด์ นามว่า เจมส์ กอฟฟ์ ซึ่งเป็นรายที่น่าสะเทือนใจเพราะคุณพ่อของเขาอยู่ที่ด้านล่าง รอคิวขึ้นเฮลิคอปเตอค์ตามขึ้นไปสมทบ
ในส่วนของพี่กาย กับน้องเทดดี้ ฮัทชิงส์ จากเทศมณฑลเซอร์รีย์ ได้ตื่นเต้นเอ็กซ์ตรีมสมความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เป็นเวอร์ชันประมาณเดียวกับการสกีตกเขากลิ้งพลั้กๆ หวือๆ วิ่วๆ ลงไปโดยไม่สามารถจะหยุดยั้ง ทั้งนี้ ในที่สุด สองหนุ่มเมืองผู้ดีก็ไปชะลอสปีดจนกระทั่งหยุดนิ่งได้บริเวณเชิงเขาระยะที่หนึ่ง ซึ่งต่ำกว่ายอดเขาประมาณ 1,000 เมตรอย่างปลอดภัยถึงสองสถาน
โดยสถานแรกคือทั้งสองไม่ได้ถูกหิมะกลบทับเลย แบบว่า... รอดพ้นหวุดหวิดจากการถูกมวลมหาศาลของหิมะกลบให้ตายทั้งเป็น เพราะกระแสมวลหิมะถล่มนั้นสิ้นฤทธิ์ที่ซากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งห่างขึ้นไปมากกว่า 200 เมตร และหน่วยกู้ภัยก็จึงสามารถพบตัวพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำปฐมพยาบาลและนำขึ้นเปลตะกร้าให้เฮลิคอปเตอร์ยกลอยลงไปส่งที่พื้นราบ แล้วนำส่งโรงพยาบาลได้โดยปราศจากอุปสรรค
ส่วนสถานสอง คือ ปฏิหาริย์ขั้นสุด!! ร่างกายของสองหนุ่มเทพโอบอุ้มปลอดภัยเหลือเชื่อ กระดูกทุกส่วนไม่แตกหักหรือร้าวปริ อวัยวะภายในปลอดภัยทุกชิ้น โดยน้องเทดดี้มีอาการกล้ามเนื้อขาอักเสบ นอนโรงพยาบาลสองวัน ก็เดินกลับที่พักได้ แต่ต้องมีไม้ค้ำช่วย เดลิเมลออนไลน์รายงาน
กูรูชี้จุดอ่อนว่า นักบินมีความชำนาญไม่มากในการขึ้นจอดบนยอดเขา แต่!! ก็มีคำถามที่ต้องพิสูจน์ว่า เกิดหิมะถล่มเข้าชนฮอฯ หรือหิมะถล่มเกิดขึ้นเพราะฮอฯ กระแทกหน้าผา
นักสกีเอ็กซ์ตรีมอีกชุดหนึ่งที่ขึ้นถึงยอดเขาเปอทิตคอมบินทางฝั่งใต้ (ซึ่งห่างจากฝั่งเหนือ 300 เมตร) หลังโศกนาฏกรรมอุบัติขึ้นแป๊บเดียว ให้ข้อมูลว่า
“พวกผมลงจอดบนยอดเขาทางฝั่งใต้ของเปอทิตคอมบินหลังอุบัติเหตุเกิดขึ้นเล็กน้อย และทันได้เห็นหิมะถล่ม มันน่าสยดสยองมากครับ
“พอมองลงไป เรามองไม่ออกเลยว่าเฮลิคอปเตอร์ร่วงอยู่ตรงไหน มันถูกกลืนอยู่ในท่ามกลางกระแสหิมะถล่มน่ะครับ ตอนที่ฮอฯ กระแทกหน้าผา เสียงมันดังมากๆ ดังกลบเสียงจากวิทยุสื่อสารเลย แล้วเราก็ถูกสั่งให้บินกลับออกมาจากยอดเขาเพื่อความปลอดภัย” เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น
ในเวลาเดียวกัน มีการส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย 7 ลำ ออกมายังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ และค้นหาผู้สูญหาย โดยเดลิเมลออนไลน์ระบุว่าทีมกู้ภัยพบสองพี่น้องหนุ่มอังกฤษในบริเวณที่ห่างจากซากเละเทะของเฮลิคอปเตอร์กว่าสองร้อยเมตร
หน่วยกู้ภัยนำ กาย ฮัทชิงส์ และเท็ดดี้ ฮัทชิงส์ ขึ้นเปลตะกร้า และลำเลียงขึ้นเครื่องกว้านเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ยกลอยไปจนถึงพื้นราบเชิงเขา ซึ่งมีเครื่องบินพยาบาลฉุกเฉินรออยู่ จากนั้นก็โยกย้ายเข้าภายในเครื่องบิน แล้วนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนการค้นหาคุณปู่เอ็ดเวิร์ด นามสกุลกล้าหาญ ต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงทีเดียว กว่าจะพบ และช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลซึ่งมีขั้นตอนที่ใช้อุปกรณ์อันทรงประสิทธิภาพและคำนึงถึงความปลอดภัยและความจำเป็นของคุณปู่ซึ่งหลากหลายมากกว่า จนกระทั่งไปถึงเครื่องบินพยาบาลฉุกเฉินแบบเดียวกับหลานร่วมชาติทั้งสอง
โดยที่ทางการสวิสยังอยู่ระหว่างการสอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้ เดลิเมลออนไลน์จึงรายงานการวิเคราะห์เบื้องต้นของผู้เชี่ยวชาญที่ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น คือ วาเลส์ เมสเซนเจอร์ ดังนี้
การวิเคราะห์เบื้องต้นคาดกันว่า นักบินเจอร์โรม โลวี ซึ่งเป็นชาวสวิส และปฏิบัติงานขับขี่เฮลิคอปเตอร์ให้แก่บริษัทโดยสารขนส่งทางอากาศ นามว่า แอร์กลาเซียส์ มานานสองปี นั้น อาจจะประสบกับสภาพอากาศรุนแรงฉับพลัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายแหล่งชี้ว่าต้องเป็นลมกระโชกที่ปรากฏขึ้นอย่างปุบปับ จึงจะสามารถทำให้นักบินเสียสมดุล ณ ระดับความสูงขนาดหมื่นฟุตขึ้นไป
ส่วนผู้มากประสบการณ์อย่างคุณปู่คอร์เรจ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด มีฝอยหิมะฟุ้งกระจุยขึ้นมาตามปกติ แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีหิมะกระหน่ำเข้ามาที่เฮลิคอปเตอร์ โดยบรรดาหิมะก้อนใหญ่โตพุ่งใส่กระจกบังลมหน้า แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็เสียหลักดิ่งลง และในจังหวะต่อมา คุณปู่ยังได้เห็นหนึ่งในใบพัดของเฮลิคอปเตอร์พุ่งผ่านหน้าฮอฯ ไปด้วยความเร็วประมาณแปดร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้น ยังมีนักบินประสบการณ์สูงรายหนึ่งซึ่งขอไม่ออกนาม วิเคราะห์ว่า
“การลงจอดในภูเขาสูงไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย
“ณ ระดับความสูงของยอดเขาเปอทิตคอมบิน กำลังของเครื่องยนต์มักจะถูกบั่นทอนลง แล้วยังมีปัญหาด้านกระแสลม ซึ่งจะปรากฏขึ้นอย่างปุบปับโดยมาเป็นกระแสลมกระโชกรุนแรง
“เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นกระแสลมกระโชกรุนแรงนี่แหละ ที่ทำให้การลงจอดบนยอดเขาเปอทิตคอมบินกลายเป็นภารกิจที่ต้องใช้ความสามารถและประสบการณ์สูงมาก
“ยอดเขาเปอทิตคอมบินอยู่ที่ระดับความสูงมากกว่า 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ณ พื้นที่เหล่านั้น มันดูเป็นผืนแบนราบไปแทบทั้งหมดในสายตาของนักบิน
“แล้วในช่วงสองสามวันก่อนหน้าวันอุบัติเหตุ มีหิมะสดใหม่โปรยลงมาปกคลุมทั่วภูมิภาคนี้ด้วยระดับที่มากกว่าครึ่งเมตร แน่ล่ะมันเป็นลักษณะที่เพอร์เฟ็กต์ยิ่งยวดแก่การสกีลงมาจากยอดเขาแบบฟรีสกี
“ผู้ที่เป็นไกด์ภูเขาย่อมจะประเมินในด้านความเสี่ยงจากปัญหาหิมะถล่ม ว่าพอรับมือไหว แต่สำหรับนักบินน่ะ พวกหิมะใหม่เบาเป็นผงสามารถสร้างปัญหาสาหัสระดับฝันร้ายกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ เจ้าหิมะสดใหม่จะฟุ้งกระจุยขึ้นมาตอนที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด
“แล้วยังมีปัญหาเรื่องวิสัยทัศน์สมทบเข้าไปด้วย วิสัยทัศน์บนนั้นจะเลวลง จนกระทั่งบ่อยครั้งจะลงถึงศูนย์เป็นภาพที่ทุกอย่างขาวโพลนเท่ากันไปหมดจนกลายเป็นอันตรายร้ายกาจ เพราะนักบินจะไม่สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างของความขาวความจ้าได้ และเส้นขอบฟ้าก็หายไป
“สภาพการณ์เลวร้ายนี้นำไปสู่ความสับสนมึนงงกับทิศทางและสูญเสียสมดุล ในเวลาอย่างนั้น คุณจะไม่ทราบเลยว่าทางไหนคือขึ้น ทางไหนคือลง แล้วคุณก็ไม่สามารถเอาชนะปรากฏการณ์อาเพศนี้ได้
“เวลาที่เกิดปัญหานี้ นักบินต้องมีประสบการณ์มากพอที่จะจดจำจุดอ้างอิงให้ได้ก่อนที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดในสภาวะที่ทุกสิ่งขาวโพลนเท่ากันไปหมด ซึ่งก็คือว่าทันทีที่นักบินสูญเสียวิสัยทัศน์ เขาต้องคุมทิศทางของเฮลิคอปเตอร์โดยใช้จุดอ้างอิงที่จำได้ขึ้นใจ มาเป็นหมุดหมาย
“มันฟังเหมือนง่ายมากๆ แต่ที่จริงแล้ว มันยากโหดหิน ณ โมเมนต์เหล่านั้น จุดอ้างอิงคือสิ่งที่จะคุ้มครองคุณจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหนือความคาดคิด”
ด้านเดลิเมลออนไลน์เสนออีกหนึ่งสมมุติฐานว่า โศกนาฏกรรมที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 รายนี้ อุบัติขึ้นเมื่อนักบินซึ่ง “ขาดประสบการณ์” นำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ยอดเขาในสภาพอากาศพายุ อีกทั้งยังเจอกับหิมะถล่ม
โดยเดลิเมลออนไลน์ให้ข้อมูลว่า นักบินเจอร์โรม โลวี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้รับใบอนุญาตนักบินในปี 2017 และเข้าคอร์สฝึกฝนเพิ่มเติมในปีเดียวกัน อันเป็นคอร์สด้านการลงจอดบนภูเขา
แต่กัปตันเจอร์โรมว่างเว้นจากการใช้ความชำนาญในการนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนภูเขาในถิ่นสวิตเซอร์แลนด์นานระยะหนึ่ง เพราะไปทำงานการบินอยู่ในฝรั่งเศสในเมืองแซ็ง ทรอเป กับเมืองคานส์ และกลับสวิตเซอร์แลนด์บ้านเกิดมาทำงานเป็นครูสอนการบิน
เพิ่งจะเมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่กัปตันเจอร์โรมเริ่มเข้าทำงานกับบริษัทการบินสวิส นามว่า แอร์กลาเซียส์ ในตำแหน่งนักบินเฮลิ-สกี นำนักสกีขึ้นไปส่งที่ยอดเขา
วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา แต่ก็เห็นเบาะแสในส่วนของสภาพอากาศพายุปรากฏอยู่ โดยโค้ชและนักฝึกสอนการสกีในเมืองแวร์บีแอร์ นามว่า วอร์เรน สมิธ บอกกับเดอะเทเลกราฟว่า มีพายุหนักในช่วงสองสามวันก่อนอุบัติเหตุนี้ และแล้วดินฟ้าอากาศกลับมาแจ่มใสโดยมีกระแสลมกระโชกรุนแรงให้เห็นด้วย
ทั้งนี้ ในเวลาเพียง 1 วันก่อนอุบัติเหตุที่เขาเปอทิตคอมบิน ก็เพิ่งจะเกิดมหาวิบัติหิมะถล่มที่รีสอร์ตสกีเซอร์แมตต์ ซึ่งอยู่ในเทศมณฑลวาเลส์ด้วยกัน และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ด้วยกันกับเปอทิตแคมบิน โดยยอดเขาทั้งสองห่างกัน 2 กิโลเมตร และบินเฮลิคอปเตอร์ถึงกันได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 นาที
เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าหิมะถล่มขนาดมโหฬารดังกล่าว โครมครามขึ้นมาเมื่อประมาณ 14.00 น. ของวันจันทร์ 1 เมษายน เป็นเหตุให้มีนักสกีหลายรายถูกกระแสหิมะถล่มซัดไหลลงมาจากเขา และผู้เสียชีวิต 3 รายถูกฝังอยู่ในชั้นหนาลึก โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กวัยรุ่นอเมริกันวัย 15 ปี นอกจากนั้น มีอีก 1 รายซึ่งเป็นหนุ่มสวิสวัย 20 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านนิตยสารสกีแมกกาซีนรายงานว่าการค้นหาดำเนินอยู่จนมืดค่ำจึงประสบความสำเร็จด้วยอุปกรณ์ไฮเทคขั้นเทพ
สองนักสกีหญิงชายที่พบเป็นร่างไร้ลมหายใจนั้น ขบวนการกู้ภัยพบด้วยเครื่องค้นหาที่สามารถติดต่อกับอุปกรณ์ติดตัวนักสกี ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แจ้งว่าประสบกับมหันตภัยหิมะถล่ม ขณะที่ในกรณีของนักสกีอายุน้อย ซึ่งจมอยู่ใต้หิมะลึกมาก พบด้วยเทคโนโลยี Recco ที่ใช้ระบบสะท้อนสัญญาณแบบปักอุปกรณ์ลงไปลึกๆ ส่วนกรณีของหนุ่มสวิสที่บาดเจ็บสาหัสนั้น เจ้าหน้าที่ใช้ระบบเบื้องต้นคือ ค้นหาด้วยระบบ GPS ผ่านโทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตโดยหัวหน้าทีมกู้ภัยแห่งเซอร์แมตต์เมาน์เทน นามว่า บรูโน เจล์ก ว่าจุดตั้งต้นของหิมะถล่มที่รีสอร์ตเซอร์แมตต์ น่าจะมาจากการที่นักสกีบางรายเล่นสกีออกนอกแนวเตือนอันตราย และแม้จะมีการเตือนให้ระวังหิมะถล่ม ผู้คนก็มักจะไม่ใส่ใจ
“ถึงคุณจะเอาคำเตือนไปติดตั้งไว้ คนก็ยังฝ่าออกไป” นิตยสารสกีแมกกาซีนรายงานคำกล่าวของหัวหน้าเจล์กไว้อย่างนั้น
สภาพดินฟ้าอากาศในห้วงเวลาของมหันตภัยหิมะถล่มนั้น เต็มไปด้วยกระแสลมรุนแรงดุเดือดไปทั่วเคาน์ตีวาเลส์และเคาน์ตีติดกันคือเคาน์ตีกรีซันส์ ซึ่งทั้งสองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักสกีจากทั่วโลก และอันที่จริงนั้น ทางการสวิสได้เตือนให้นักสกีระมัดระวังอย่างสูง ซึ่งในระหว่างบรรทัดก็คือ อย่าเสี่ยงออกไปเล่นสกีในวันสองวันเหล่านั้นเลย
โค้ชและนักฝึกสอนการสกีในเมืองแวร์บีแอร์ นามว่า วอร์เรน สมิธ บอกกับเดอะเทเลกราฟว่า มีพายุหนักในช่วงสองสามวันก่อนอุบัติเหตุนี้ และแล้วดินฟ้าอากาศกลับมาแจ่มใสโดยมีกระแสลมกระโชกรุนแรงให้เห็นด้วย
ทั้งนี้ ในเวลาเพียง 1 วันก่อนอุบัติเหตุที่เขาเปอทิตคอมบิน ก็เพิ่งจะเกิดมหาวิบัติหิมะถล่มที่รีสอร์ตสกีเซอร์แมตต์ ซึ่งอยู่ในเทศมณฑลวาเลส์ด้วยกัน และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ด้วยกันกับเปอทิตแคมบิน โดยยอดเขาทั้งสองห่างกัน 2 กิโลเมตร และบินเฮลิคอปเตอร์ถึงกันได้อย่างรวดเร็วภายใน 15 นาที
อุปกรณ์ไอทีแสนดี คือตัวช่วยคุณปู่เซียนสกีท้ามฤตยู รอดออกจากหลืบของโตรกเขาหิมะล้นหลาม
คุณปู่หลานสาม นาม เอ็ดเวิร์ด คนกล้า เป็นนักสกีท้ามฤตยูและเป็นหนึ่งในทายาทบริษัทผลิตเบียร์คอร์เรจที่โด่งดังและเก่าแก่มากกว่า 2 ศตวรรษในสหราชอาณาจักร ปู่เอ็ดเวิร์ดย้ายถิ่นไปตั้งรกรากที่เมืองแวร์บีแอร์ เทศมณฑลวาเลส์ของสวิตเซอร์แลนด์มาสี่สิบกว่าปีแล้ว
นักสกีท้ามฤตยูทั้งหลายที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยอดเขาด้วยกันกับปู่เอ็ดเวิร์ด ทุกคนรู้จักกันและกัน เพราะต่างเป็นสมาชิกสมาคม “1936 Ski Touring Club” ขณะเดียวกัน ไกด์ยอดเก่งจากอเมริกา ระดับคิวทอง บุ๊กตัวยากมาก นามว่า อาดัม จอร์จ ก็คุ้นเคยอย่างยิ่งกับปู่เอ็ดเวิร์ด
ทั้งนี้ เดลิเมลออนไลน์เล่าว่ามีเพียงเฉพาะคุณกัปตันเจอร์โรม โลวี เท่านั้นที่ปู่เอ็ดเวิร์ดไม่เคยรู้จักมาก่อน
ปู่เอ็ดเวิร์ดซึ่งนอนรักษาตัวในไอซียู ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับเดลิเมลออนไลน์ว่า
“หลังของผมลื่นไถลลงไปตามหน้าผาชันๆ นั่นราว 500 เมตร ตอนนั้นผมคิดเลยว่าผมหมดเวลาบนโลกนี้แน่เลย
“แต่แล้ว ก็ใจชื้นขึ้นมาว่าสปีดเริ่มลดลงบ้าง รู้สึกดีได้แป๊บเดียว โชคร้ายซ้ำซ้อนเข้ามาเล่นงาน ผมร่วงลงไปในหลืบของแนวโตรกหินครับ ผมกลิ้งลึกลงไปราวๆ 30 เมตร ไปหยุดได้ที่สะพานหิมะ
“แม้จุดตรงนั้นช่วยให้ไอ้ที่ร่วงๆ จากเฮลิคอปเตอร์ได้ยุติเสียที แต่ผมไม่รู้เลยว่าสะพานหิมะจะให้ความมั่นคงแก่ผมได้แค่ไหน เพราะเท้าข้างหนึ่งของผมมันทะลุสะพานลงไป ผมคาดไม่ได้เลยว่าข้างใต้สะพานนี้จะลึกไปอีกแค่ไหน แต่ถ้ามันยุบตัว ผมก็น่าจะไม่รอดแน่นอน
“หลืบเขาที่ผมกลิ้งลงไปมันแคบมาก แค่ครึ่งเมตรเท่านั้น ผมเริ่มกังวลว่าเครื่องส่งสัญญาณไปยังหน่วยกู้ภัยเพื่อให้พวกเขาทราบจุดที่ผมติดคาอยู่เนี่ยอะ สัญญาณจะสามารถทะลุน้ำแข็งทั้งหลายออกไปได้ไหม
“ผมตะกายเอาโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าจนสำเร็จ แล้วยืดแขนข้างที่ไม่หักออกไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะไหว ชี้โทรศัพท์ไปยังช่องจิ๋วๆ ที่แลเห็นท้องฟ้าเบื้องบน แล้วกดให้แอป Echo SOS ทำงาน แล้วผมก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งหมายถึงว่าผมได้สัญญาณดาวเทียมละ ผมกดแจ้งว่าขอทีมแพทย์ฉุกเฉิน หลังจากนั้นก็ได้พูดโทรศัพท์กับทีมกู้ภัย
“อากาศหนาวสุดๆ เลยครับที่ข้างในหลืบเขา ดังนั้น เจ้าหน้าที่แสนดีที่คุยโทรศัพท์กับผมก็จะคอยกระตุ้นให้ผมตื่น คอยถามคำถามต่างๆ เช่น ชื่อภรรยา วันเดือนปีเกิด อายุของลูกๆ หลานๆ เขาคอยบอกว่า ‘คุณคอร์เรจอย่าหลับนะครับ... แล้วพอคุณเห็นเฮลิคอปเตอร์ ขอให้ตะโกนให้ดังที่สุดเลยนะครับ’
“มีเฮลิคอปเตอร์นำทีมค้นหาและช่วยเหลือผมรวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ลำครับ สัญญาณจากโทรศัพท์ผมจะบอกถึงพื้นที่กว้าง แต่ตอนที่จะเข้ามาพบตัวผมได้น่ะ พวกเค้าต้องบินตัดไปตัดมาตามสันเขาต่างๆ
“กว่าจะพบบริเวณที่ผมติดคาอยู่ ก็ร่วมๆ 4 ชั่วโมง และทันทีที่ผมเห็นเฮลิคอปเตอร์ ผมรีบตะโกน ผมอยู่ข้างล่างนี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือก็แจ้งต่อไปยังนักบิน และบรรดาทีมค้นหาภาคพื้นดิน แล้วเฮลิคอปเตอร์วนกลับมา ผมเห็นปุ๊บก็ตะโกนแบบเดิมอีก”
ปู่เอ็ดเวิร์ดเล่าอย่างละเอียด และบอกด้วยว่าบริเวณใกล้ปากทางของหลืบเขาแทบจะไม่มีพื้นที่ราบเลย เฮลิคอปเตอร์จึงลงจอดไม่ได้ ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องลงมาด้วยระบบรอกและสลิง หลังจากนั้น บรรดาทีมช่วยเหลือพร้อมอุปกรณ์กู้ภัยที่ทรงประสิทธิภาพครบเครื่อง เดินกันมาถึงหลืบลึกที่คุณปู่รออยู่อย่างทรหด พวกเจ้าหน้าที่ในทีมมีอุปกรณ์แข็งแรงยิ่งเพื่อการไต่ลงในที่แคบชัน แล้วเอาชุดเข็มขัดกับแถบรัดติดตั้งรอบกายคุณปู่ เพื่อยกลอยออกจากหลืบลึกนั้น
ปู่เอ็ดเวิร์ด คอร์เรจ เล่าว่า “ผมไม่มีวันลืมเสียงคลิกตอนที่พวกเค้าติดตั้งชุดเข็มขัดกับแถบรัดให้ผมอย่างมั่นคง แล้วเจ้าหน้าที่บอกผมว่า ‘คุณปลอดภัยแน่นอนแล้วครับ’ มันเป็นโมเมนต์ที่วิเศษที่สุด”
หลังจากนั้น ก็นำปู่เอ็ดเวิร์ดออกไปยังจุดที่เฮลิคอปเตอร์จะรับตัว และพาลอยออกไปจากบริเวณโตรกเขาอันตราย
“เฮลิคอปเตอร์ลอยลำรออยู่ครับ ทีมกู้ภัยเอาข้อเชื่อมต่อสายสลิงเฮลิคอปเตอร์มาล็อกกับชุดเข็มขัดกับแถบรัดที่ตัวผม และก็ล็อกกับตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งจะประกบคุ้มครองช่วยเหลือผมตลอดเวลาที่ลอยอยู่ในอากาศมุ่งลงไปจากสันเขา ผมลงไปประมาณ 500 เมตร ก็ถึงเชิงเขาระยะที่หนึ่ง ตรงนั้นมีพื้นที่ราบกว้างขวางเพียงพอที่พวกเค้าจะวางเปลตะกร้ากู้ภัยมารองรับร่างกายผม”
หลังจากนั้น ร่างกายของปู่เอ็ดเวิร์ดก็ได้เหยียดสบายขึ้น คลายออกจากความปวดทรมานเพราะบาดเจ็บที่กระดูกแตกหักสารพัดจุด แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็ยกคุณปู่ลอยลงไปจนพ้นจากภูเขาเปอทิตคอมบิน
เมื่อถึงที่ราบเชิงเขา มีเครื่องบินพยาบาลฉุกเฉินรอรับต่อ เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยทำการลำเลียงคุณปู่ไปส่งมอบแก่ทีมแพทย์เป็นที่เรียบร้อย โดยเป้าหมายปลายทางต่อไปของคุณปู่คือโรงพยาบาล
นับเป็นกระบวนการค้นหาและช่วยเหลือที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
ด้านคุณพ่อริชาร์ด ฮัทชิงส์ บอกกับเดลิเมลออนไลน์ว่าเทดดี้นอนโรงพยาบาล 2 วัน 2 คืน โดยเมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดว่าปลอดภัยเรียบร้อยดีแล้ว คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีไม้ค้ำยันช่วยประคองกล้ามเนื้อขาที่อักเสบ ส่วนพี่กายต้องนอนต่ออีกหลายวัน เพราะแม้จะไม่มีกระดูกแตกหักหรือเครื่องในเสียหาย แต่เนื้อตัวเป็นแผลเป็นรอยมากมายจากการที่ถูกก้อนหินก้อนน้ำแข็งเฉี่ยวและบาด คุณหมอจึงต้องให้การรักษาและดูอาการต่ออีกสองสามวัน
พี่กาย ฮัทชิงส์ มีเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยกับสกีเอ็กซ์ตรีมปรากฏบนโซเชียลมีเดียเยอะเลย และมักที่จะมาเล่นสกีวิบากที่เมืองแวร์บีแอร์เป็นประจำ โดยที่ผ่านมาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาด้านออกแบบผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรของทีมรถแข่งอัลไพน เอฟ1 ที่เมืองเอนสโตน ใกล้เมืองเลสเตอร์
สำหรับคุณเจมส์ กอฟฟ์ เป็นทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ร้อยกว่าปี และชื่อเสียงโด่งดังของไอร์แลนด์ คือ บัลลินาคอร์ เอสเตท ผู้ซึ่งน่าจะรอดชีวิตได้ หากตัดสินใจกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ตามหลังปู่เอ็ดเวิร์ด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่หลงใหลในกีฬาเอ็กซ์สตรีมสกี ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และความตื่นเต้นครั้งสุดท้ายก่อนจากโลกไป อาจจะสร้างความพึงพอใจให้อย่างใหญ่หลวง
บรรยายภาพคลิปวิดีโอ2
หลังจากการกลิ้งตกเขาในปี 2016 โปรเอียน แมคอินทอช ก็ประสบความสำเร็จกับการสกีออฟแทร็กจากยอดเขาตอร์ดริลโญในอลาสก้า เมื่อ 13 ตุลาคม 2016 คลิปการสกีอันหวาดเสียว น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการสกีลงไปตามหน้าผาสูงชัน และไม่ว่าจะเป็นการเหินข้ามสันเขาแล้วพุ่งสกีต่อเนื่องได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงที่หมายเรียบร้อย เป็นบันทึกความสำเร็จที่น่าชมน่าลุ้นขั้นสุด
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เดอะเทเลกราฟ สกีแมกกาซีน)