ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (12 เม.ย.) ว่าอิหร่านจะเปิดฉากโจมตีแก้แค้นอิสราเอลอย่างแน่นอน “ไม่ช้าก็เร็ว” พร้อมเตือนเตหะรานว่า “อย่าทำ” เช่นนั้น ขณะที่เยอรมนีแจ้งเตือนพลเมืองให้รีบเดินทางออกจากอิหร่านเพื่อความปลอดภัย
สื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวได้ตั้งคำถามกับผู้นำสหรัฐฯ ว่าอยากจะส่งสารอะไรถึงอิหร่านในตอนนี้? ซึ่ง ไบเดน ก็ตอบสั้นๆ ว่า “อย่า” (Don’t) พร้อมย้ำจุดยืนของวอชิงตันว่าพร้อมปกป้องอิสราเอลเต็มที่
“สหรัฐฯ มุ่งมั่นในการปกป้องอิสราเอล เราจะสนับสนุนอิสราเอล เราจะช่วยป้องกันอิสราเอล และอิหร่านจะไม่มีวันทำสำเร็จ”
ไบเดน ปฏิเสธที่จะเผยข้อมูลในเชิงลึก แต่คาดว่าการโจมตีรัฐยิวจะเกิดขึ้น “เร็วมากกว่าช้า”
รัฐบาลอิสราเอลเตรียมตัวตั้งรับเหตุโจมตีโดยอิหร่าน หรือกลุ่มติดอาวุธตัวแทน (proxies) ท่ามกลางสัญญาณเตือนที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเตหะรานจะลงมือแก้แค้นเหตุโจมตีสถานกงสุลในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ซึ่งคร่าชีวิตผู้บัญชาการระดับสูงของหน่วยรบพิเศษ Quds และนายทหารอาวุโสของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) อีก 6 คน
หลายประเทศ เช่น อินเดีย ฝรั่งเศส โปแลนด์ และรัสเซีย ได้ประกาศเตือนพลเมืองให้งดเดินทางเข้าไปยังภูมิภาคดังกล่าวแล้ว ขณะที่เยอรมนีได้ออกคำเตือนวานนี้ (12) ให้พลเมืองรีบเดินทางออกจากอิหร่าน
“สืบเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในเวลานี้ โดยเฉพาะระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน มีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะถูกยกระดับขึ้นอย่างทันทีทันใด” กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีระบุในคำเตือนการเดินทางที่ออกเมื่อวันศุกร์ (12)
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางทะเล อาจได้รับผลกระทบด้วย พลเมืองเยอรมนีมีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุมโดยพลการ ถูกสอบสวน และอาจถูกพิพากษาจำคุกเป็นระยะเวลานาน พลเมืองสองสัญชาติที่ถือสัญชาติอิหร่านและเยอรมนีคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ”
อิสราเอลไม่ได้ประกาศอ้างความรับผิดชอบต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อสถานกงสุลอิหร่านที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ทว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ออกมาประกาศกร้าวแล้วว่าอิสราเอล “จะต้องถูกลงโทษ” จากการกระทำซึ่งเทียบเท่ากับการโจมตีภายในดินแดนของอิหร่าน
จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันเช่นกันว่า แนวโน้มที่อิหร่านจะเปิดฉากแก้แค้นอิสราเอลนั้น “เป็นภัยคุกคามที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงสูงมาก” แต่ไม่ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลา
อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่ากองกำลังสหรัฐฯ ในภูมิภาคกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของอิหร่านอย่างใกล้ชิด
ที่มา : รอยเตอร์