รัฐบาลจีนออกมาวิพากษ์วิจารณ์การประชุมหารือระหว่างผู้นำสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วันนี้ (12 เม.ย.) โดยยืนยันว่าปฏิบัติการทุกอย่างของจีนในทะเลจีนใต้กระทำอย่าง “ถูกต้องตามกฎหมาย”
การประชุมซัมมิตไตรภาคีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเผชิญหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างเรือของจีนและฟิลิปปินส์ในเขตน่านน้ำพิพาท จนทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะความขัดแย้งอาจลุกลามขยายวงกว้างออกไป
ระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาว ไบเดน ย้ำว่าสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามสนธิสัญญากลาโหมที่ทำร่วมกับฟิลิปปินส์เมื่อทศวรรษ 1950 ซึ่งกำหนดให้สหรัฐฯ ต้องปกป้องฟิลิปปินส์จากการโจมตีด้วยอาวุธทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้
“คำมั่นสัญญาปกป้องที่สหรัฐฯ มีต่อญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์นั้นแข็งแกร่งประดุจเหล็ก” ไบเดน กล่าว
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในงานแถลงข่าววันนี้ (12) ว่า จีนไม่เห็นด้วยกับกลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้องซึ่งใช้วิธีตั้งกลุ่มการเมือง (bloc politics) จัดการเรื่องต่างๆ และขอต่อต้านพฤติกรรมที่เป็นการยั่วยุหรือวางแผนเพื่อต่อต้านและทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศอื่น
“เราขอต่อต้านการใช้วิธีตั้งกลุ่มปิด (closed cliques) ที่กีดกันชาติอื่นๆ ในภูมิภาคออกไป... แน่นอนว่าญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์มีสิทธิที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับประเทศใดก็ได้ แต่ไม่ควรสร้างความแตกแยกในภูมิภาค และยิ่งไม่ควรตั้งกลุ่มความร่วมมือ 3 ฝ่ายโดยไม่คำนึงว่าจะกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติอื่นอย่างไร” เธอกล่าว
“หากนี่ไม่ใช่เจตนาใส่ร้ายป้ายสีและโจมตีจีนแล้ว จะเป็นอื่นไปได้อย่างไร?” เธอตั้งคำถาม
“การกระทำของจีนในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้นั้นเหมาะสม ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีข้อตำหนิติเตียนใดๆ”
ปักกิ่งอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และไม่ยอมรับการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนจากชาติอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงฟิลิปปินส์ด้วย
ไบเดน และนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น รวมถึงประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ได้ประกาศความตกลงร่วมที่ครอบคลุมและหลากหลายเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจระหว่างทั้ง 3 ชาติ นอกจากนี้ ยังได้ออกคำแถลงร่วมชี้ถึง “พฤติกรรมยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า” ของจีนในทะเลจีนใต้ด้วย
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ระบุวานนี้ (11) ว่า สหรัฐฯ จะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมกับประเทศหุ้นส่วนในทะเลจีนใต้บ่อยขึ้น หลังจากที่ได้เปิดการซ้อมรบร่วมกับออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์