ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวเย้ยหยันแผนการประชุมสันติภาพยูเครนซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยเตือนว่ามอสโกจะไม่ยอมรับแผนการใดๆ ก็ตามที่เป็นการ “บีบบังคับ” และไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซีย
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) ว่าเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงนานาชาติในเดือน มิ.ย. เพื่อกำหนดแนวทางฟื้นฟูสันติภาพในยูเครนหลังเผชิญการรุกรานจากรัสเซียมานานกว่า 2 ปี พร้อมทั้งแสดงความคาดหวังว่ารัสเซียอาจจะเข้าร่วมกระบวนการสันติภาพนี้ด้วยในสักวันหนึ่ง
ปูติน ระบุวานนี้ (11) ว่ารัสเซีย “ไม่เคยได้รับเชิญ” ให้เข้าร่วมเวทีพูดคุยในเดือน มิ.ย. และชี้ว่าทางสวิตเซอร์แลนด์ก็ตระหนักดีอยู่แล้วว่ากระบวนการสันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากรัสเซีย
"พวกเขาไม่เคยเชิญเราไปที่นั่น” ปูติน กล่าว
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมองว่าเราไม่ควรมีบทบาทอะไรที่นั่น แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้ดีว่าตัดสินใจอะไรไม่ได้หากปราศจากเรา แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าตลก ก็น่าเศร้าสุดๆ ไปเลย”
รัสเซียปฏิเสธแผนสันติภาพที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเสนอ ซึ่งเรียกร้องให้มอสโกถอนทหารทั้งหมดออกจากแผ่นดินยูเครน จ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม และยอมขึ้นศาลระหว่างประเทศเพื่อรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป
ระหว่างหารือกับประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุสที่กรุงมอสโกเมื่อวานนี้ (11) ปูติน กล่าวว่ารัสเซียเปิดกว้างเสมอสำหรับการเจรจา แต่จะไม่มีวันยอมรับ “แผนการใดๆ ที่ไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง”
ผู้นำรัสเซียย้ำเสมอว่า สาเหตุที่ต้องส่งทหารบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022 ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซีย และยับยั้งไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งจะถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อแดนหมีขาว ในขณะที่เคียฟและชาติพันธมิตรแย้งว่าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียนั้นเกิดขึ้น “โดยปราศจากการยั่วยุใดๆ”
ปูติน ยังอ้างด้วยว่า เวลานี้กองกำลังรัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบ หลังจากที่ปฏิบัติการโจมตีโต้กลับ (counteroffensive) ของยูเครนในปีที่แล้วล้มเหลวไม่เป็นท่า และเขาเชื่อว่า “ไม่ช้าก็เร็ว” ยูเครนและชาติตะวันตกก็จะต้องยอมรับข้อตกลงยุติสงครามตามเงื่อนไขของมอสโก
เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาเตือนในทำนองเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การที่ตะวันตกเตรียมเปิดประชุมสันติภาพยูเครนโดยคิดจะดึงประชาคมโลกให้มาร่วมสนับสนุนเคียฟมากขึ้นนั้นไม่มีประโยชน์ และการเจรจาเพื่อยุติสงครามจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผลประโยชน์ของฝ่ายรัสเซียถูกนำไปร่วมพิจารณาด้วยเท่านั้น
ที่มา : AP