รัสเซีย เยอรมนี และสหราชอาณาจักรในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) เรียกร้องประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางแสดงความอดทนอดกลั้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยล่าสุดรัฐยิวประกาศกร้าวพร้อมรับมือกับทุกแนวหน้าและบอกว่าจะตอบโต้โดยตรงกับการโจมตีใดๆ จากฝีมือของเตหะราน
ลุฟต์ฮันซา สายการบินเยอรมนี ซึ่งเป็นเพียง 1 ใน 2 สายการบินตะวันตกที่บินสู่เตหะราน ได้ขยายกรอบเวลาระงับเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของอิหร่าน ส่วนรัสเซียได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางไปตะวันออกกลาง ในขณะที่สหรัฐฯ ห้ามพวกเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวเดินทางส่วนตัวออกจากพื้นที่เทลอาวีฟ เยรูซาเลม และเบียร์ชีรา ท่ามกลางคำขู่ของอิหร่าน ที่ประกาศแก้แค้นศัตรูในภูมิภาค
อิหร่านประกาศแก้แค้นเหตุโจมตีเขตล้อมรั้วสถานทูตของพวกเขาในกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 1 เมษายน สังหารนายพลระดับสูงของอิหร่านนายหนึ่งและเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ อีก 6 นาย โหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคที่ร้อนระอุอยู่ก่อนแล้วในสงครามกาซา
อิสราเอลไม่ได้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตี แต่อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน ระบุในวันพุธ (10 เม.ย.) ว่า "อิสราเอลต้องถูกลงโทษ" เนื่องจากมันเท่ากับเป็นการโจมตีผืนแผ่นดินของอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ทาง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าว โดยบอกว่าอิสราเอลจะเดินหน้าทำสงครามในกาซา พร้อมๆ กับเตรียมการด้านความมั่นคงในที่อื่นๆ "ใครก็ตามที่ทำร้ายเรา เราจะทำร้ายพวกเขา เราเตรียมพร้อมเผชิญกับทุกความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งรัฐอิสราเอล ทั้งด้านป้องกันตนเองและเป็นฝ่ายบุก"
แหล่งข่าวอิหร่านเปิดเผยว่า เตหะรานได้ส่งสัญญาณถึงวอชิงตันว่าการตอบโต้แก้แค้นของพวกเขาต่อเหตุโจมตีของอิสราเอลจะอยู่ในแนวทางที่มีเป้าหมายหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายและจะไม่ลงมือด้วยความเร่งรีบ
ส่วน โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล บอกกับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ว่าอิราเอลจะตอบโต้โดยตรงต่อการโจมตีใดๆ โดยฝีมืออิหร่าน
ความขัดแย้งแผ่ลามทั่วตะวันออกกลางนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น ในขณะที่กลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ประกาศหนุนหลังพวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" ด้วยการโจมตีใส่อิสราเอลและพันธมิตร มาจากเลบานอน เยเมนและอิรัก ที่ผ่านมา เตหะรานหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับอิสราเอลหรือสหรัฐฯ แม้สนับสนุนพันธมิตรทั้งหลายเหล่านี้
อันนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี เรียกร้องไปยัง ฮอสเซน อามีร์ อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ให้อดทนอดกลั้นขั้นสูงสุด เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ลุกลามบานปลายใดๆ
ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แนะนำพลเรือนอย่าเดินทางไปตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิสราเอล เลบานอนและดินแดนต่างๆ ของปาเลสไตน์ "เวลานี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ทุกคนต้องอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุด เพื่อไม่นำไปสู่สถานการณ์ไร้เสถียรภาพโดยสิ้นเชิงในภูมิภาค" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกระบุ
เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) ว่าเขาแสดงจุดยืนกับ อับดอลลาเฮียน อย่างชัดเจน ว่าอิหร่านไม่ควรลากตะวันออกกลางเข้าสู่ความขัดแย้งในวงกว้าง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (10 เม.ย.) ระบุว่าอิหร่านกำลังขู่ทำการโจมตีครั้งใหญ่ในอิสราเอล พร้อมเผยได้บอกกับเนทันยาฮูไปว่า "คำมั่นสัญญาของเราต่อความมั่นคงของอิสราเอลในการรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ จากอิหร่านและพวกตัวแทนของอิหร่านยังคงแข็งแกร่ง"
เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (10 เม.ย.) สำนักข่าวอิหร่านแห่งหนึ่งเผยแพร่รายงานเป็นภาษาอาหรับบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่าได้มีการปิดน่านฟ้าเหนือกรุงเตหะรานเพื่อทำการซ้อมรบ แต่จากนั้นได้ลบข่าวนี้ทิ้งไป และปฏิเสธว่าไม่เคยรายงานข่าวนี้
(ที่มา : รอยเตอร์)