xs
xsm
sm
md
lg

รวมพวกรวมกลุ่ม! ปธน.ไบเดน-นายกฯคิชิดะ ประกาศยกระดับความร่วมมือทางทหารสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นครั้งใหญ่ ด้านจีนโวยรวมหัวป้ายสี-แทรกแซงกิจการภายใน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรยากาศงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จัดขึ้นต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการต้อนรับสำหรับการเยือนอเมริกาอย่างเต็มรัฐพิธีในฐานะแขกของประมุขสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ (state visit) ของคิชิดะ เมื่อคืนวันพุธ (10 เม.ย.) โดยในภาพนี้ ไบเดนกำลังกล่าวปราศรัยต้อนรับอยู่บนเวที ซึ่งมีคิชิดะยืนอยู่ข้างๆ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยในการแถลงข่าวร่วมกันเมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) ถึงแผนการร่วมมือทางทหารและโครงการด้านต่างๆ ตั้งแต่ขีปนาวุธจนถึงการลงเหยียบดวงจันทร์ ในการกระชับความเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญเพื่อต่อต้านอิทธิพลจีนและรัสเซีย ตลอดจนเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารครั้งใหญ่ที่สุด ขณะที่ฝ่ายปักกิ่งจวกวอชิงตันและโตเกียวกำลังใส่ร้ายป้ายสีและโจมตีจีน

งานแถลงข่าวซึ่งจัดที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันคราวนี้ ซึ่งสะท้อนถึงการที่สหรัฐฯยอมรับความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของญี่ปุ่นบนเวทีโลก มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีไบเดน และนายกรัฐมนตรีคิชิดะ หารือกันเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างกว้างขวาง อาทิ กาซาและอิสราเอล ยูเครนและรัสเซีย เกาหลีเหนือ และประเด็นร้อนอื่นๆ ทั่วโลก

ทั้งนี้ อเมริกาและพวกชาติพันธมิตรที่รวมถึงญี่ปุ่น กำลังเสริมสร้างกองทัพและกระชับยกระดับการเป็นพันธมิตรทางการทหารและความมั่นคงของพวกตน โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อต่อต้านการคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก รวมทั้งป้องปรามความพยายามเข้ายึดไต้หวันที่ปักกิ่งถือว่า เป็นมณฑลขบถของตน ขณะที่ปักกิ่งโจมตีว่าเป็นความพยายามของวอชิงตันที่จะรักษาฐานะความเป็นเจ้าเหนือใครๆ ในโลกเอาไว้

คิชิดะกล่าวในการแถลงข่าวว่า ตนและไบเดนหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีน และตกลงที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศโดยอิงกับหลักนิติธรรม ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประกาศว่า การแทรกแซงจากภายนอกไม่อาจหยุดยั้งการรวมชาติของจีนกับไต้หวันได้

ผู้นำญี่ปุ่นเสริมว่า ความพยายามฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานะดั้งเดิมด้วยกำลังหรือการข่มขู่เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิงไม่ว่าเกิดขึ้นที่ใด โดยอเมริกาและญี่ปุ่นจะยังคงตอบโต้การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งรวมถึงความท้าทายจากจีน และสำทับว่า เมื่อมองจากกรณีการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ยูเครนวันนี้อาจหมายถึงเอเชียตะวันออกในวันพรุ่งนี้

ด้านไบเดนประกาศภายหลังการพูดคุยนานสองชั่วโมงที่มุ่งเน้นสถานการณ์ที่น่ากังวลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและการดำเนินการของจีนว่า อเมริกาจะคงการสื่อสารอย่างเปิดกว้างกับจีน และระบุว่า การเป็นพันธมิตรระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่นมีจุดประสงค์ในการป้องกันเท่านั้น แต่สำทับตรงไปตรงว่า ตนต้องการสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อต่อต้านจีน

การประกาศของไบเดนและคิชิดะเป็นการนำผู้นำสองชาติที่เคยเป็นศัตรูกันในสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าสู่การร่วมมืออย่างใกล้ชิดที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับจากที่อเมริกาและญี่ปุ่นได้ตกลงจับมือเป็นพันธมิตรกันเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ไบเดนกล่าวว่า กองทัพของสองประเทศจะร่วมมือกันภายใต้โครงสร้างการบัญชาการร่วมกัน และจะร่วมกับออสเตรเลียพัฒนาเครือข่ายการป้องกันขีปนาวุธทางอากาศใหม่ ผู้นำทั้งคู่ยังประกาศว่า นักบินอวกาศญี่ปุ่นจะเป็นนักบินอวกาศที่ไม่ใช่คนอเมริกันคนแรกที่ได้เข้าร่วมภารกิจสำรวจดวงจันทร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของอเมริกา (นาซา)

โดยรวมแล้วญี่ปุ่นและอเมริกาทำข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมราว 70 ฉบับ ซึ่งรวมถึงการยกระดับโครงสร้างการบัญชาการทางทหารของอเมริกาในญี่ปุ่นเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับกองกำลังญี่ปุ่นได้อย่างดียิ่งขึ้นหากเกิดวิกฤต

คิชิดะยังมีกำหนดปราศรัยในรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพฤหัสฯ (11) และประชุมซัมมิตกับไบเดน และประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่า จะมุ่งเน้นเรื่องการรุกล้ำทะเลจีนใต้ของปักกิ่ง รวมทั้งเพื่อโดดเดี่ยวจีนที่ไบเดนระบุว่า พยายามกระทำการแบบเดียวกันนี้กับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์

ทางด้านปักกิ่ง เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า อเมริกาและญี่ปุ่นป้ายสีและโจมตีจีนเรื่องไต้หวันและข้อพิพาททางทะเล แทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างโจ่งแจ้ง รวมทั้งละเมิดบรรทัดฐานพื้นฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เหมาสำทับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่นไม่ควรมีเป้าหมายหรือเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆ หรือบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค

การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ของคิชิดะ ถือเป็นการเยือนอย่างเป็นพิธีการเต็มขั้นในฐานะแขกของประธานาธิบดีอเมริกัน (state visit) โดยที่ผู้นำญี่ปุ่นคนก่อนหน้านี้ที่ได้รับเกียรติระดับนี้ คือ ชินโซ อาเบะ ในทริปไปเยือนสหรัฐฯในฐานะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อปี 2015 โดยที่ในคราวนี้คาดกันว่าน่าจะส่งผลดีต่อคิชิดะที่คะแนนนิยมในประเทศกำลังตกต่ำลงอย่างแรง

ทั้งนี้ คิชิดะ ได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริก โดยมีธงชาติญี่ปุ่นติดอยู่ทั่ววอชิงตัน นอกจากนั้นเขายังได้รับเชิญร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการสำหรับประมุขรัฐ โดยมีแขกผู้มีเกียรติมากมายเข้าร่วม อาทิ อดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน, อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน, โรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงชื่อดัง, เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และเจอโรม พาวเวลล์ ประธานผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ฯลฯ

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น