“กมลนันท์ เทียมพานิชย์” วัย 27 ปี ถูกพบในสภาพไร้ลมหายใจด้วยบาดแผลถูกแทง ภายในบ้านสุดหรู 5 ล้านดอลลาร์ใกล้พระราชวังเคนซิงตันฝั่งที่ติดกับสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก ประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณ 08.30 น. ของวันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2024 โดยในคืนก่อนหน้า (7 เมษายน) ประชาชนในละแวกเดียวกันบอกว่าได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนสองครั้ง แล้วเงียบกริบไป เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ด้านตำรวจนครบาลเขตซิตีออฟลอนดอน แถลงข่าวว่า ณ เวลา 19.05 น. ของคืนอาทิตย์ 7 เมษายน ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของกมลนันท์ แจ้งว่าอาจเกิดเหตุร้ายกับกมลนันท์ หรือ แอนเจล่า โดยไม่สามารถติดต่อกับกมลนันท์ได้ ตำรวจดำเนินการในเบื้องต้น โดยจัดชั้นให้เป็นคดีบุคคลสูญหายระดับความเสี่ยงปานกลาง หลังจากนั้น ณ 21.34 น. เพื่อนรายเดิมของกมลนันท์โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
เดลิเมลออนไลน์ระบุว่า เวลาผ่านไปกว่า 13 ชั่วโมง คือ 08.30 น. ตำรวจจึงยกกำลังไปยังบ้านหรูดังกล่าวขนาด 3 ชั้น 5 ห้องนอน ถนนสแตนโฮป เพลส เขตเบย์สวอเตอร์ ณ 08.30 น. พบว่าสภาพด้านหน้าของบ้านแลดูเรียบร้อยเป็นปกติ
แต่เมื่อติดต่อบุคคลในบ้านไม่ได้ จึงทำการงัดประตูไม้สีดำเข้าไป และพบศพของกมลนันท์ ทั้งนี้คาดว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้าน
หลังจากนั้น ตำรวจทำการปิดพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที และทีมชัณสูตรพลิกศพระดมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยชาวบ้านในละแวกสแตนโฮปเล่าว่าได้เห็นว่ามีการโยกย้ายหลักฐานเบาะแสต่างๆ ออกไปจากบ้านมรณะนี้นานหลายชั่วโมงจนถึงรุ่งเช้าวันอังคาร (9) จึงเสร็จและถอนกำลังกลับ
เบาะแสสำคัญอย่างยิ่งประการหนึ่งคือในคืนอาทิตย์ที่เกิดโศกนาฏกรรมนี้ มีผู้พบเห็นว่ากมลนันท์ได้มาเปิดประตูรับใครคนหนึ่งเข้าไป ดังนั้น จึงคาดกันว่าบุคคลดังกล่าวซึ่งน่าจะเป็นมือมีด เป็นใครบางคนที่รู้จักกันกับกมลนันท์
เพื่อนบ้านชาวมหาเศรษฐีเงินล้าน(ปอนด์) ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน ให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์ในวันอังคาร (9) ว่าบ้านที่เกิดโศกนาฏกรรมในวันอาทิตย์นั้น จัดปาร์ตีข้ามคืนเสียงดนตรีอึกทึกออกมาตลอดตั้งแต่ค่ำวันเสาร์ (6) จดจนเช้าวันอาทิตย์ (7) โดยมีสตรีไม่น้อยกว่า 3 คนอยู่ในบ้าน
และเพื่อนบ้านรายดังกล่าวเล่าด้วยว่า เมื่อมาถึงช่วงกลางคืนของวันที่ 7 ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเจ็บปวดโหยหวนสองครั้ง แล้วก็เงียบกริบไป โดยเพื่อนบ้านรายนี้อาศัยอยู่บนถนนเบย์สวอเตอร์มาเนิ่นนานกว่าครึ่งศตวรรษ เล่าว่า
“ได้ยินเสียงกรีดร้องหลายครั้ง คิดว่าสองครั้งเห็นจะได้ ฉันเป็นคนที่ไวกับเสียงอย่างยิ่ง เสียงนั่น คือ ผิดปกติมากเลย นอกจากเสียงกรีดร้องสุดๆ นี้แล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่น แล้วก็เงียบกริบไปเลย
“ฉันอยู่ในห้องส่วนตัว และก็คิด‘นั่นมันแปลกเหลือเกิน’ แล้วก็นึกได้ว่ามันเป็นเสียงจากฟากตรงข้าม
“ฉันจะทำอะไรได้ล่ะหรือ ก็ถ้าเสียงยังดังขึ้นอีก ฉันคงจะยื่นหน้าออกไปดู
“สิ่งที่เห็นๆ กันอยู่คือ บ้านนั้นปรับมาทำเป็นสถานที่ให้เช่าห้องพักชั่วคราวแบบAirbnb และเพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่าว่า ในเช้าวันจันทร์ ตอนที่เขาออกจากบ้าน เขาเห็นตำรวจพยายามงัดเปิดประตูบ้านที่เกิดฆาตกรรม
“อันที่จริง พวกเราได้เห็นรถหน่วยชันสูตรพลิกศพมากันสองคัน พวกเราจึงทราบว่าเรื่องมันร้ายแรง มันเป็นเหตุฆาตกรรม
“ฉันบอกได้เลยว่าอยู่ในละแวกนี้เดี๋ยวนี้ มันน่าหวาดระแวงไปหมด แต่สำหรับเรื่องขนาดว่าฆ่ากันตายอย่างนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมา สิ่งต่างๆ ในลอนดอนมันแย่หนักข้อเหลือเกิน นับวันแต่จะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ”
ด้านคนงานก่อสร้างที่ปฏิบัติงานในฟากตรงข้ามเล่าว่า ได้ยินมาว่าบ้านฆาตกรรมนี้เป็นบ้านให้เช่าห้องพักชั่วคราวแบบAirbnb แต่ก็ไม่เคยพบในเว็บไซต์รายชื่อสถานที่ให้เช่าที่พักชั่วคราวของถนนสแตนโฮป
ทั้งนี้ ชาวบ้านในกลุ่มอาคารสแตนโฮปเล่าตรงกันว่าบ้านนองเลือดแห่งนี้ เคยเป็นที่ทำการของคณะทูตเอธิโอเปีย แล้วเมื่อเปิดให้เช่าแบบAirbnb ก็จะไม่มีผู้พักอาศัยถาวร
สุภาพบุรุษชาวอังกฤษซึ่งเป็นเพื่อนบ้านผู้มั่งคั่งรายหนึ่งบอกกับเดลิเมลออนไลน์ว่า ผู้คนที่มาเช่าอาศัยเป็นฮอลิเดย์นั้นเห็นได้ว่าหลากหลาย โดยส่วนใหญ่มักจะอยู่กันเพียงช่วงสั้นๆ
โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เห็นว่าผู้พักอาศัยในบ้านนี้เป็นชาวสวีเดนซึ่งมากันเป็นครอบครัว
“ตอนเทศกาลอีสเตอร์เมื่อสุดสัปดาห์สุดท้ายของมีนาคม ก็เห็นว่าเป็นครอบครัวชาวสวีเดนที่พักอาศัยในบ้านนี้ ผมไม่เคยเห็นสตรีผู้เสียชีวิตคนนี้เลย เธอน่าจะมาพักได้ไม่กี่วัน” เพื่อนบ้านผู้มั่งคั่งรายดังกล่าวเล่าไว้อย่างนั้น
ด้านเพื่อนบ้านอีกรายหนึ่งซึ่งเปิดเผยชื่อว่า มิสเตอร์ลีเป็นรายที่ระบุชัดเจนว่าสตรีไทยที่เสียชีวิตเพิ่งเข้าพักอาศัยในบ้านมรณะนี้ได้แค่สองสามวัน โดยเล่าตรงกับคนอื่นๆ ว่าในช่วงก่อนจะเกิดเหตุฆาตกรรม
มีเสียงดนตรีและเสียงตะโกนดังๆ ฟังคล้ายปาร์ตี
“พวกเขาเพิ่งจะเข้าอยู่ได้สองสามวันเท่านั้นครับ เราได้ยินเสียงดนตรีดังออกมาจากบ้าน ฟังแล้วก็คาดว่าพวกเขาคงจัดปาร์ตีกัน ผมยังคุยกับลูกๆ ว่าจะหาทางแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบปัญหา แต่เราก็ไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของบ้าน เราเห็นแต่ว่ามีใครต่อใครเข้าไปออกมา เป็นระยะๆ น่ะครับ”
อลัน แกรนเบิร์ก ซึ่งมีบ้านอยู่แถบด้านในของถนนเบย์สวอเตอร์ ให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์ว่า
ในคืนเสาร์ที่ 6 เมษายน นั้น มีไรเดอร์ 3 ราย นำอาหารมาส่งผิดให้แก่บ้านเขา โดยบ้านที่ออร์เดอร์อาหารไปนั้น คือบ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรม
“บ้านผมกับบ้านนั้นมีเลขที่บ้านตรงกัน แต่อยู่คนละแยก ดังนั้น ผู้ที่สั่งอาหารไปนั้น ต้องเป็นคนที่เพิ่งมาอยู่ จึงไม่รู้วิธีระบุโลเกชันที่ถูกต้อง” เดลิเมลออนไลน์รายงานคำพูดของ อลัน แกรนเบิร์ก ไว้อย่างนั้น และเสริมด้วยว่า
“ในย่านถนนนี้ มีหลายหลังครับ ที่ให้เช่าแบบระยะสั้น สำหรับคุณผู้หญิงคนนี้ ผมไม่เคยเห็นเธอเลย
ผมคิดว่าเธอเพิ่งเข้าอยู่ได้ไม่กี่วัน”
นอกจากนั้นเดลิเมลออนไลน์ยังได้ข้อมูลเจาะลึกจากเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนสายนี้บอกว่า บ้านหรูหลังนี้มีการให้เช่าห้องพัก แต่ก็ไม่ใส่ใจกับข้อมูลประจำตัวของผู้มาใช้บริการ
ที่ผ่านมา ตำรวจสามารถติดต่อและแจ้งข่าวไปยังครอบครัวของกมลนันท์ เทียมพานิชย์ ซึ่งไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศอังกฤษ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมนี้ ในเอกสารเผยแพร่ที่ตำรวจนครบาลเขตซิตีออฟลอนดอนส่งถึงสื่อมวลชน ได้มีการวอนขอความร่วมมือจากประชาชนว่า หากท่านใดมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้ แม้จะเป็นประเด็นที่ท่านเกรงว่าจะเล็กน้อยไม่สำคัญก็ตาม โปรดแจ้งทราบมาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ ครอบครัวของกมลนันท์ ตลอดจนเพื่อนๆ ล้วนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าสะเทือนใจกับการฆาตกรรม และตำรวจต้องการจะเอาตัวใครก็ตามที่จะต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้มาดำเนินคดีให้ได้
นับถึงวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2024 ยังไม่มีการจับกุมผู้ใด โดยตำรวจอยู่ระหว่างการไต่สวนและติดตามล่าตัวคนร้าย
นอกจากนั้น ยังมีปมที่น่าลำบากใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเขตซิตีออฟลอนดอน ตัดสินใจล่าช้าเกินไปหรือไม่ ที่จัดชั้นคดีให้เป็นคดีบุคคลสูญหายระดับความเสี่ยงปานกลาง ส่งผลให้เวลาล่วงเลยไปสิบกว่าชั่วโมงกว่าที่จะเคลื่อนกำลังไปตรวจสอบบ้านที่ กมลนันท์ เทียมพานิชย์ ถูกฆาตกรรม ซึ่งหากเร็วกว่านั้น ก็อาจจะช่วยรักษาชีวิตของเธอไว้ได้
ในการนี้ตำรวจนครบาลได้ร้องขอให้ สำนักงานอิสระเพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
(Independent Office for Police Conduct หรือIOPC) เข้ามาสอบสวนตนเอง สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปรากฏออกมาว่า ตำรวจใช้เวลามากกว่า 13 ชั่วโมง นับจากที่ได้รับ “การติดต่อครั้งแรก” ผ่านโทรศัพท์แจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.05 น. และอีกครั้งหนึ่งตอน 21.34 น. โดยที่ว่า กว่าที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบบ้านเกิดเหตุและพบศพผู้ตาย ก็ผ่านไปถึงเวลา 08.30 น.ของวันรุ่งขึ้น
ด้านIOPC แถลงยืนยันว่า ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ดำเนินการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานแล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อมาตรฐานการดำเนินการของเจ้าพนักงานตำรวจ เพราะขณะนี้ ผู้พักอาศัยในถนนเบย์สวอเตอร์เสียขวัญกันโดยทั่วหน้า
“การสังหารครั้งนี้เขย่าขวัญของทุกคน พวกเรากลัวกันมาก พื้นที่นี้เป็นย่านที่คึกคัก มีนักท่องเที่ยวมากมาย เราไม่เคยมีเรื่องน่ากลัวขนาดนี้เกิดขึ้นเลย” ชาวบ้านระดับมหาเศรษฐีเงินล้าน(ปอนด์) ให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์ไว้อย่างนั้น
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์)