‘หม่า อิงจิ่ว’ เอ่ยหลังพบ ‘สี จิ้นผิง’ ชี้ความขัดแย้งจีน-ไต้หวันแก้ได้ด้วย ‘สันติวิธี’ วอนคนรุ่นใหม่อย่าลืมวัฒนธรรมร่วมราก

อดีตประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว แห่งไต้หวัน กล่าวภายหลังเข้าพบประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าไทเปและปักกิ่งสามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ด้วยสันติวิธี พร้อมย้ำว่าประชาชนทั้ง 2 ฟากฝั่งช่องแคบต่างก็มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกันมา

หม่า ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำไทเปในช่วงระหว่างปี 2008-2016 กลายเป็นประธานาธิบดีไต้หวันทั้งในตำแหน่งและอดีตคนแรกที่เดินทางไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปีที่แล้ว

เมื่อวานนี้ (10) เขาได้พบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง หลังจากเคยประชุมซัมมิตร่วมกันที่สิงคโปร์เมื่อปี 2015 ในช่วงที่ หม่า ยังคงเป็นผู้นำไต้หวันอยู่ ซึ่งถือเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายหลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 1949

หม่า ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางกลับจากปักกิ่งว่า เขาหวังให้คนหนุ่มสาวไต้หวันละวางค่านิยมทางการเมือง และคำนึงถึงสายสัมพันธ์เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างไต้หวันและจีนให้มากกว่านี้

“ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ชาวจีนทั้ง 2 ฟากฝั่งช่องแคบสามารถจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธีได้” เขากล่าว

จีนถือว่าเกาะไต้หวันซึ่งปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และได้เพิ่มแรงกดดันทั้งทางการเมืองและการทหารต่อไทเปหนักขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้

หม่า ซึ่งนำคณะนักศึกษาไต้หวันไปเยือนปักกิ่งชี้ว่า การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักว่า ชาวจีนทั้ง 2 ฟากฝั่งช่องแคบต่างก็เป็น “ลูกหลานของจักรพรรดิเหยียน และจักรพรรดิเหลือง (Yan and Yellow Emperors)” ซึ่งหมายถึงการมีรากเหง้าร่วมกัน และยังเผลอหลุดปากพูดว่าชาวจีนทั้ง 2 ฝั่งต่างก็เป็นประชาชนของ “สาธารณรัฐจีน” (Republic of China) ก่อนจะแก้คำพูดใหม่ว่าเป็น “ชาวจีน” (Chinese People) เพื่อสื่อถึงการมีเชื้อสายและวัฒนธรรมร่วมกัน

ทั้งนี้ หม่า ได้หลุดปากพูดคำว่า “สาธารณรัฐจีน” เช่นกันขณะที่เข้าพบ สี จิ้นผิง ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์ในไต้หวันด้วย


รัฐบาลจีนซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ไม่ยอมรับการมีอยู่ของ “สาธารณรัฐจีน” ซึ่งก็คือไต้หวัน ทำให้การพลั้งปากของ หม่า อิงจิ่ว ต่อหน้า สี จิ้นผิง กลายเป็นเรื่องเซนซิทีฟอย่างมาก

เมื่อถูกสื่อมวลชนถามว่า “เจตนา” เลือกใช้คำดังกล่าวหรือไม่? หม่า ก็เพียงแต่หัวเราะ และไม่ได้ให้คำตอบ

ไต้หวันปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีนมาโดยตลอด โดยชี้ว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่เคยปกครองเกาะไต้หวันมาก่อน และอนาคตของเกาะแห่งนี้มีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ

รัฐบาลจีนระบุว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไทเปยอมรับว่าทั้งจีนและไต้หวันต่างเป็นส่วนหนึ่งของ “จีนเดียว” (One China) เสียก่อน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ปฏิเสธที่จะทำตาม

หม่า อิงจิ่ว ยังคงมีตำแหน่งอาวุโสภายในพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยพรรคก๊กมินตั๋งนั้นชูนโยบายส่งเสริมความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่พรรคที่โปรปักกิ่ง

ที่มา : รอยเตอร์