ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) สัญญาจะมอบแรงสนับสนุน "อย่างแข็งแกร่ง" แก่อิสราเอล ท่ามกลางคำขู่แก้แค้นของอิหร่าน ต่อเหตุโจมตีหนึ่งที่ทำลายอาคารสถานกงสุลของเตหะรานในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย จนพังถล่ม และสังหารนายพลระดับสูงไป 2 นาย ที่ทางอิหร่านกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของรัฐยิว พร้อมประกาศจะแก้แค้นอย่างสาสม
คำสัญญาของไบเดน มีขึ้นแม้ว่าอีกด้านหนึ่งเขาส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู อย่างเปิดเเผย ต่อกรณีที่มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมากในปฏิบัติการทางทหารจัดการกับพวกฮามาสของอิสราเอลในกาซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุโจมตีที่สังหารเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ 7 ราย
"อิหร่านกำลังขู่เปิดการโจมตีอย่างหนักหน่วงใส่อิสราเอล" ไบเดนกล่าวระหว่างแถลงข่าว "อย่างที่ผมได้บอกกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู คำมั่นสัญญาของเราที่มีกับความมั่นคงของอิสราเอล ในการรับมือภัยคุกคามเหล่านี้จากอิหร่านและตัวแทนของพวกเขานั้นมีความเข้มแข็งอย่างยิ่ง"
"ขอผมพูดอีกครั้ง แข็งแกร่งอย่างมาก เราจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้สำหรับปกป้องความมั่นคงของอิสราเอล" ไบเดนกล่าว ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ว่าผลประโยชน์ต่างๆ ของอิสราเอลเสี่ยงถูกโจมตีได้ทุกขณะ หลังจากปฏิบัติการของอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้ก่อความเสียหายแก่อาคารสถานกงสุลของอิหร่าน ในเมืองหลวงของซีเรีย สังหารสมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม 7 นาย ในนั้นมีระดับนายพลรวมอยู่ด้วย 2 คน
อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน เตือนระหว่างการปราศรัยเมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) ว่า "ระบอบปีศาจของอิสราเอล" ต้องถูกลงโทษและจะถูกลงโทษ
อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล รุดตอบโต้ในทันที เผยแพร่ถ้อยแถลงเป็นภาษาเปอร์เซียบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่า "ถ้าอิหร่านโจมตีมาจากดินแดนของพวกเขา อิสราเอลจะตอบโต้และโจมตีอิหร่าน"
อิหร่านให้การสนับสนุน ฮามาส ซึ่งเปิดฉากโจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล จุดชนวนปฏิบัติการทางทหารแก้แค้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ที่อยู่ภายใต้การปกครองของฮามาส และเวลานี้สงครามได้ลากยาวมานานกว่า 6 เดือนแล้ว
นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น สหรัฐฯ หาทางป้องกันไม่ให้มันขยายวงไปยังจุดอื่นๆ ในตะวันออกกลาง ในนั้นรวมถึงเลบานอน ดินแดนที่อิหร่านให้การสนับสนุนขบวนการติดอาวุธชีอะห์ "ฮิซบอลเลาะห์"
สหรัฐฯ ปิดปากเงียบในปฏิกิริยาตอบสนองต่อสาธารณะต่อเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยบอกว่าไม่สามารถสรุปได้ว่า อิสราเอล โจมตีที่ตั้งทางการทูตของอิหร่านจริงหรือไม่ ทั้งนี้หากว่ามันเป็นจริงก็จะถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ ในประเด็นที่ว่าสถานทูตและสถานกงสุลทั้งหลายไม่อาจล่วงละเมิดได้
(ที่มา : เอเอฟพี)