รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านออกมากล่าวหาสหรัฐฯ อีกรอบในวันจันทร์ (8 เม.ย.) ว่าเป็นคนอนุมัติโจมตีนองเลือดเล่นงานสถานกุงสุลเตหะรานประจำกรุงดามัสกัส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ความคิดเห็นซึ่งมีขึ้นหลังจากเขาทำพิธีเปิดสถานกงสุลใหม่ในเมืองหลวงของซีเรีย และหลังจากอเมริกาขัดขวางมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการประณามเหตุโจมตีดังกล่าว
เตหะรานพันธมิตรของดามัสกัส ประกาศแก้แค้นเหตุโจมตีสถานกงสุล ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตล้อมรั้วของสถานทูตอิหร่าน เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (1 เม.ย.) ส่งผลให้มีสมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เสียชีวิต 7 ราย ในนั้นรวมถึงนายพล 2 นาย
ปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในฉากหลังของสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ซึ่งเริ่มต้นจากการที่กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ดามัสกัสและเตหะรานกล่าวโทษอิสราเอลสำหรับเหตุโจมตีเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (1 เม.ย.) แต่ทางอิสราเอลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ
"อเมริกาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และจำเป็นต้องรับผิดชอบ" ฮอสเซน อามีร์ อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในดามัสกัส "ข้อเท็จจริงคือการที่สหรัฐฯ และ 2 ชาติยุโรปคัดค้านมติหนึ่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการประณามการโจมตีสถานทูตอิหร่าน เป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ให้ไฟเขียวแก่รัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล) ทำการโจมตี"
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของอับดอลลาเฮียน ทาง ซาบรินา ซิงห์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ปฏิเสธว่าวอชิงตันไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการโจมตี "ฉันสามารถโต้กลับอย่างหนักแน่นต่อคำกล่าวหานี้ และบอกว่ากองทัพสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ในการโจมตีที่เกิดขึ้นในกรุงดามัสกัส" เธอบอกกับพวกผู้สื่อข่าว
ในวันที่ 2 เมษายน หรือ 1 วันหลังการโจมตีสถานกงสุล ทางจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่าความคิดเห็นต่างๆ ของ อามีร์-อับดอลลาเฮียน ที่กล่าวหาวอชิงตัน ผู้สนับสนุนหลักของอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการโจมตีนั้น "เป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง"
ในวันจันทร์ (8 เม.ย.) อับดอลลาเฮียน ยังได้ทำพิธีเปิดฝ่ายกงสุลใหม่ในอาคารแห่งหนึ่งในกรุงดามัสกัส โดยมีไฟซาล เมคดัด รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ เขายังได้พบปะกับปะธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียด้วยเช่นกัน ตามรายงานของสำนักข่าวซานา สื่อมวลชนแห่งรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ทำการสถานกงสุลแห่งใหม่อยู่ไม่ไกลจากอาคารเดิมที่ถูกทำลายในเหตุโจมตี ในย่านหรู "มาสเซห์" ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติหลายประเทศและสำนักงานต่างๆ ของสหประชาชาติ
รัฐมนรีต่างประเทศอิหร่าน เริ่มต้นทัวร์ภูมิภาคตะวันออกกลางในโอมานในวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) ในขณะที่โอมานเป็นคนกลางระหว่างเตหะรานและตะวันตกมาช้านาน และโอกาสนี้ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของโอมานเรียกร้องให้ลดสถานการณ์ความตึงเครียด
ที่ปรึกษารายหนึ่งของผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน กล่าวเตือนในวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) ว่าสถานทูตต่างๆ ของอิสราเอล "ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป" หลังเหตุโจมตีในดามัสกัส
พวกนักวิเคราะห์มองว่าการโจมตีดังกล่าว ส่วนหนึ่งในยุทธการของอิสราเอลในการเล่นงานอิหร่านและบรรดากลุ่มตัวแทนของเตหะรานในภูมิภาค อาจโหมกระพือความเสี่ยงจุดชนวนสงครามในวงกว้าง เพิ่มเติมจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซา
(ที่มา : เอเอฟพี)