xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ-จีนปะทะคารมเรื่องกำลังการผลิตล้นเกิน ขุนคลังเยลเลนกร้าวไม่ยอมรถอีวี-แผงโซลาร์จีนท่วมตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รัฐมนตรีคลัง เจเน็ต เยลเลน ของสหรัฐฯ ขณะแถลงข่าว ณ ทำเนียบที่พักเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ (8 เม.ย.)
สหรัฐฯ ปะทะคารมจีนเรื่องกำลังการผลิตล้นเกิน รัฐมนตรีคลังเยลเลน ลั่นอเมริกา “จะไม่ยอมรับ” สถานการณ์ที่สินค้าราคาถูกของจีนท่วมตลาดโลกและทำร้ายอุตสาหกรรมของประเทศอื่นๆ ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์แดนมังกรสวนวอชิงตัน “ไม่มีหลักฐาน” ยันบริษัทรถอีวีจีนเติบโตอย่างรวดเร็วจากการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและระบบการผลิตและห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่จากการพึ่งพิงการอุดหนุนของรัฐบาล

ในวันจันทร์ (8 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการมาเยือนจีนของเธอทริปนี้ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงสรุปด้วยการเน้นย้ำอีกครั้งเกี่ยวกับความเสี่ยงจากกำลังล้นผลิตล้นเกินในหลายๆ อุตสาหกรรมแห่งยุคใหม่ของจีน

อเมริกากำลังป่าวร้องแนวความคิดว่า เป็นเรื่องต้องกังวลจากการที่ปักกิ่งใช้มาตรการอุดหนุนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของตน จนกำลังทำให้จีนผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมเหล่านี้ออกมาเกินกว่าที่ตลาดโลกจะรองรับได้ และสินค้าออกราคาถูกในอุตสาหกรรมซึ่งทรงความสำคัญยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ของจีนเหล่านี้ เช่น แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างเดียวกันนี้ในประเทศอื่นๆ

ในวันจันทร์ เยลเลนกล่าวย้ำระหว่างการแถลงข่าว ณ ทำเนียบที่พักเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำกรุงปักกิ่งว่า การสนับสนุนอย่างมโหฬารของปักกิ่งเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วได้เคยส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าซึ่งมีราคาต่ำกว่าต้นทุน ไหลท่วมตลาดโลก ส่งผลกระทบกระเทือนทำลายธุรกิจในอเมริกาและทั่วโลก ซึ่งตนและประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะไม่ยอมให้สถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก และสำทับว่า ชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนของอเมริกาต่างกังวลเรื่องนี้

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เสริมว่า จีนจำเป็นต้องเปลี่ยนนโยบายบางอย่าง พร้อมกันนั้นเธอย้ำว่า อเมริกาไม่ได้ต้องการหย่าร้างแยกขาดจากจีน

ก่อนหน้านี้ เยลเลนได้แสดงความกังวลเรื่องนี้มาแล้ว ระหว่างหารือพวกผู้นำของจีน ซึ่งก็รวมถึงการเจรจากับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง และรัฐมนตรีคลัง หลัน ฝออัน เมื่อวันอาทิตย์ (7)

ในอีกด้านหนึ่ง สหภาพยุโรปก็ได้เปิดการสอบสวนการอุดหนุนอุตสาหกรรมรถอีวีของจีนที่อาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม เนื่องจากสงสัยว่า อีวีเหล่านั้นขายตัดราคาอย่างไม่เป็นธรรม ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของทางยุโรป ทำให้เมื่อเดือนที่แล้วปักกิ่งออกมาประณามว่า บรัสเซลส์กำลังใช้นโยบายกีดกันการค้า

วันอาทิตย์ (7) ที่ผ่านมา หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์จีน กล่าวระหว่างการไปเยือนกรุงปารีสว่า ข้อกล่าวหาจีนดำเนินการผลิตล้นเกินของอเมริกาและยุโรป “ไม่มีหลักฐาน” และแจกแจงว่า การที่บริษัทอีวีจีนเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นผลจากการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและระบบการผลิตและห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่การพึ่งพิงการอุดหนุนของรัฐบาลเพื่อให้มีความได้เปรียบในการแข่งขัน

ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนยังรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีหลี่.กับเยลเลนในวันอาทิตย์ โดยบอกว่า หลี่ได้ตอบโต้ขุนคลังหญิงสหรัฐฯ.ว่า วอชิงตันควรงดเว้นการเปลี่ยนประเด็นทางเศรษฐกิจและการค้าให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคง รวมทั้งมองกำลังการผลิต “อย่างเป็นกลาง” และจากมุมมอง “ที่เน้นความสำคัญของตลาด”

หลี่สำทับว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีนจะมีส่วนส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่การลดการปล่อยคาร์บอนและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

ด้านเยลเลนยอมรับว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจมหภาคและอุตสาหกรรมทั้งหมดซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนรับรู้ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญสำหรับอเมริกาและความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและประเทศอื่นๆ

นอกจากนั้น เยลเลนยังแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการบริโภคของภาคครัวเรือนจีนที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่ภาคธุรกิจมีการลงทุนมากเกินไป ซึ่งความไม่สมดุลนี้ถูกกระนุ้นส่งเสริมจากการสนับสนุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลจีนในอุตสาหกรรมบางแขนง

เยลเลนยังเตือนเจ้าหน้าที่จีนถึงผลลัพธ์จากการสนับสนุนความพยายามในการจัดซื้อทางทหารของรัสเซีย และการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจในการจัดการข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังบอกอีกว่า ได้หารือประเด็นเรื่องแพลตฟอร์มสื่อสังคม ติ๊กต็อก “สั้นๆ” กับเจ้าหน้าที่จีน และว่า อเมริกามีความกังวลอย่างชอบธรรมในเรื่องการปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่อ่อนไหว โดยที่ขณะนี้รัฐสภาสหรัฐฯ ขู่แบนติ๊กต็อก เว้นแต่บริษัทแม่คือ ไบต์แดนซ์จะยอมขายกิจการ

เยลเลนทิ้งท้ายว่า ปักกิ่งเองก็แสดงความกังวลเรื่องการปกป้องข้อมูลเช่นเดียวกัน พร้อมกันนั้นเธอก็ตั้งข้อสังเกตว่า แอปโซเชียลมีเดียมากมายของอเมริกาถูกปิดกั้นในจีน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)

กำลังโหลดความคิดเห็น