เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส (Southwest Airlines) เกิดอุบัติเหตุฝาเครื่องยนต์หลุดไปกระแทกปีกเครื่องบิน ระหว่างเทกออฟออกจากสนามบินเดนเวอร์ในรัฐโคโลราโดเมื่อวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) กลายเป็นเหตุระทึกล่าสุดที่ทำให้องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ต้องเปิดการสอบสวนอีกครั้ง
เที่ยวบิน 3695 ของเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สวกกลับไปลงจอดที่สนามบินเดนเวอร์อย่างปลอดภัยและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเมื่อเวลา 8.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะถูกลากกลับเข้าไปจอดที่ gate
เครื่องบินลำนี้นำผู้โดยสาร 135 คน และลูกเรืออีก 6 คนออกเดินทางจากเดนเวอร์เพื่อไปยังท่าอากาศยานฮิวสตัน ฮ็อบบี ในรัฐเทกซัส และไต่ระดับความสูงขึ้นไปถึง 10,300 ฟุต ก่อนที่กัปตันจะตัดสินใจนำเครื่องกลับมาลงจอดที่เดิมในอีก 25 นาทีต่อมา
ทางสายการบินได้ย้ายผู้โดยสารทั้งหมดไปขึ้นเครื่องบินอีกลำหนึ่ง และทั้งหมดเดินทางไปถึงฮิวสตันช้ากว่าที่กำหนดราว 4 ชั่วโมง ขณะที่ทีมวิศวกรของเซาท์เวสต์ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเครื่องบินลำที่มีปัญหา
สำหรับเครื่องบินลำนี้เริ่มถูกนำมาให้บริการเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2015 ตามข้อมูลของ FAA ขณะที่ทางโบอิ้งยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และโบ้ยสื่อให้ไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางเซาท์เวสต์
โบอิ้ง 737-800 เป็นหนึ่งในรุ่นย่อยของเครื่องบินในตระกูล 737 NG ซึ่งต่อมาได้ถูกทดแทนโดย 737 MAX
เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สยังคงปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าเครื่องยนต์ของเครื่องบินลำนี้ผ่านการซ่อมบำรุงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
ABC News ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงบน X ซึ่งเผยให้เห็นฝาครอบเครื่องยนต์ที่มีโลโก้ของสายการบินในสภาพฉีกขาดและกระพือไปตามแรงลม
โบอิ้งถูกเพ่งเล็งและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังเกิดเหตุแผ่นอุดช่องประตู (door plug panel) บนเครื่องบิน 737 MAX 9 ของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์สหลุดกลางอากาศที่ความสูง 16,000 ฟุตเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ FAA ออกคำสั่งระงับใช้ฝูงบิน MAX 9 ทั้งหมดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และยังห้ามไม่ให้โบอิ้งเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ รวมถึงต้องจัดทำ “แผนควบคุมคุณภาพอย่างเป็นระบบ” ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
ที่มา : รอยเตอร์