xs
xsm
sm
md
lg

คิดเห็นอย่างไร! สื่อนอกตีข่าวไทยเล็งเสนอ 'วีซ่าเชงเกน' อาเซียน เป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวมือเติบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยกำลังพิจารณาเสนอเขตหนึ่งคล้ายกับเชงเกน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในความหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูง มายังภูมิภาคแถบนี้มากขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันเสาร์ (6 เม.ย.)

ตามรายงานของบลูมเบิร์ก ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย เสนอแนวคิดนี้กับนายกรัฐมนรีกัมพูชา ลาว มาเลเซีย พม่าและเวียดนาม และบรรดาประเทศเหล่านี้ได้ทำการพิจารณาความคิดริเริ่มดังกล่าวมาสักพักหนึ่งแล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แผนการนี้จะหมายถึงการจัดตั้งเขตหนึ่ง คล้ายกับพื้นที่การเดินทางปราศจากพาสปอร์ตของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้พวกนักท่องเที่ยวเดินทางในหมู่ประเทศเพื่อนบ้าน 6 ชาติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า ซึ่งนายเศรษฐาเชื่อว่ามันจะช่วยก่อรายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้มีรายงานข่าวพวกผู้นำเกือบทั้งหมดขานรับด้วยความยินดีต่อแนวคิดดังกล่าว แต่รายงานไม่ได้พาดพิงว่าในปัจจุบันการพูดคุยหารือไปถึงขั้นไหนแล้ว

แนวคิดจัดตั้งโซนคล้ายกับเชงเกนในภูมิภาค อยู่ภายใต้การพิจารณามานานหลายปีแล้ว โดยเอเชียเคยแถลงแผนจัดตั้งระบบการเดินทางด้วยวีซ่าครั้งเดียวย้อนกลับไปในปี 2011 แต่ความพยายามดังกล่าวหยุดชะงัก สืบเนื่องจากความแตกต่างกันอย่างมากในระบบวีซ่าส่วนบุคคลของแต่ละรัฐสมาชิก

บลูมเบิร์กรายงานอ้างความเห็นของ ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่าความคิดดังกล่าวในวันนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่เช่นเดิม เขาบอกว่าแผนการวีซ่าประเภทเข้าออกครั้งเดียวจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกัน สืบเนื่องจากในแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์มาตรฐานคนเข้าเมืองแตกต่างกัน ซึ่งต่างจากสหภาพยุโรป

บิลล์ บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริการและทรัพย์สิน แนะนำว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะเริ่มดำเนินการโครงการฟรีวีซ่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปในแต่ละประเทศ

"ข้อตกลงทวิภาคีที่มีรัฐบาลเป็นแกนนำคือหนทางสำหรับเรื่องแบบนี้ มันมีเหตุผลมากกว่า หากพวกเขาจะมองจากภายนอก ไม่ใช่มองจากภายใน" เขากล่าวกับบลูมเบิร์ก นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่าความคิดริเริ่มนี้อาจเป็นประโยชน์ไม่ใช่แค่กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวท้องถิ่น แต่ยังรวมถึงการเดินทางทางธุรกิจและการค้าด้วย

รายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 6 ชาติมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนรวมกันกว่า 70 ล้านคนในปี 2023 ในนั้นมากกว่าครึ่งมีจุดหมายปลายทางในไทยและมาเลเซีย อ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการ

การท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 12% ของระบบเศรษฐกิจมูลค่าเกือบ 500,000 ล้านดอลลาร์ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่งชาติที่เดินทางมาเยือนไทย ในปี 2023 อยู่ที่ 27 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% จากหนึ่งปีก่อนหน้านั้น สูงสุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่โควิด-19 อย่างไรก็ตามไทยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 80 ล้านคนภายในปี 2027 เพื่อโกยรายได้จากอุตสาหกรรมนี้เพิ่มเติม

(ที่มา : บลูมเบิร์ก/อาร์ทีนิวส์)



กำลังโหลดความคิดเห็น