โบกมือลาเรื่องราวอดีตเศร้าและข่าวเก่าๆ แต่หนหลังของ “คุณคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์” ซึ่งเคยถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็น พระภรรยาน้อยของปรินซ์ชาร์ลส์ ได้เลย เพราะว่า ณ ชั่วโมงนี้ “ควีนคามิลลา” พระมเหสีของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร คือ เสด็จย่าแห่งชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สื่อยักษ์ของอังกฤษอย่างเดลิเมลออนไลน์รายงาน
ปรากฏการณ์ที่เห็นได้แจ่มชัดคือ พระราชินีคามิลลาทรงเป็นขวัญใจและสุดยอดไอดอลของพสกนิกรฟันน้ำนม และมหาชนคนเจนJ จิ๋วเจ๊าะแจ๊ะ ซึ่งพากัน ว้าวววว กับแววพระเนตรอบอุ่น และรอยยิ้มใจดีแบบที่ว่า ถ้ารั้งใจไม่อยู่แล้วโผเข้ากอดเสด็จย่า พระองค์ก็จะทรงกอดตอบแนบแน่น
กระแสชื่นชมหลงรัก ‘ควีนคามิลลาเสด็จย่าของหนู’ เฟื่องฟูยั่งยืนได้ ก็ด้วยพลังสนับสนุนจากบรรดาคุณแม่ทั่วประเทศ ซึ่งยอมใจให้แก่คุณงามความดีที่ควีนทรงปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอตลอดหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะด้านการวางพระองค์ที่ไม่เคยหิวแสง และเมื่อต้องเสด็จออก ก็ทรงมีท่วงท่าอันเรียบง่ายไม่ถือพระองค์ อีกทั้งยังมีพระวิริยะและการทุ่มเทพระทัยให้กับทุกพระราชกรณียกิจของพระราชสำนัก
เหนืออื่นใด คือ เมื่อคิงชาร์ลส์ทรงมีควีนคามิลลาอยู่เคียงข้าง พระองค์ทรงพระเกษมสำราญมากขึ้นอย่างมหาศาล แบบที่พสกนิกรไม่เคยได้เห็นในห้วง 4 ทศวรรษแรกของพระชนม์ชีพ
เดลิเมลออนไลน์ชี้ว่าพสกนิกรชาวอังกฤษเจเนอเรชั่นฟันน้ำนม ตลอดจนกลุ่มคุณหนูคุณน้อง ได้แห่กันมาแสดงตัวว่าเป็นแฟนคลับกลุ่มมหึมาของควีนคามิลลา มาตั้งแถวรอเข้าเฝ้าและถวายกำลังใจแด่พระมเหสีของคิงชาร์ลส์ ที่เสด็จฉายเดี่ยวในพระราชกรณียกิจต่างๆ ภายในห้วงเวลาที่สมเด็จพระราชาทรงต้องเข้ารับการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง
ที่ผ่านมา เจ้าหญิงแคเธอริน พระชายาของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ ทรงได้รับพระฉายาว่า “เจ้าหญิงของเด็กๆ” เพราะน้องๆ หนูๆ ล้วนชื่นชมในความอ่อนหวาน อ่อนโยน และความละม้ายเจ้าหญิงในเทพนิยายแห่งตำนานซินเดอเรลลากับพระราชรถฟักทองของยุค AI
มาในวันนี้ พสกนิกรเจนฯ น้ำนม ได้ไอดอลเพิ่มใหม่ คือ “เสด็จย่าคามิลลา” ผู้ซึ่งจะทรงโอเคทันทีที่คุณหนูคุณน้องขอเซลฟีด้วย แม้จะกึ่งๆ เป็นการฝ่าพระราชประเพณีที่ถือว่าไม่ปลอดภัยที่จะฉายพระรูปกับประชาชน แต่ด้วยความที่เจ้าชายรัชทายาทอย่างปรินซ์วิลเลียม ทรงปฏิบัตินำร่องไว้เนิ่นนานแล้ว
ในโอกาสที่ควีนสุดที่รักของกษัตริย์ชาร์ลส์ ทรงเสด็จเคาน์ตีชาร์ปเชอร์ ติดขอบตะวันตกของประเทศ เพื่อชมงานออกร้านขายสินค้าดีเด่นประจำเมืองชรูส์แบรี ซึ่งเป็นผลงานการส่งเสริมสนับสนุนโดยองค์การ Royal Voluntary Service อันมีควีนคามิลลาทรงดูแลในฐานะองค์ประธาน และเป็นโครงการในพระราชดำริแห่งงานอาสาสมัครยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืน สาขาเมืองชรูส์แบรี เมื่อวันพุธที่ 27 มีนาคม 2024 เด็กๆ ตัวเล็กตัวน้อยติดตามกองทัพคุณแม่ ไปรอรับเสด็จควีนคามิลลากันอย่างเนืองแน่นหลายพันคน
ช่างภาพกดชัตเตอร์สาวน้อยวัยประถมยืนชูป้ายกระดาษเอ 3 จำนวนสองแผ่นเชื่อมกันด้วยสก็อตเทป เขียนลายมือตัวโตโย้เย้ พร้อมภาพหัวใจ บอกว่า “หนู (รัก -หัวใจหลายดวง-) ควีนคามิลลา” เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ในอีกโมเมนต์หนึ่งซึ่งพาให้ใจฟู น้องชาร์ลี เดวีส์ นักเรียนหนุ่มน้อยวัย 11 ปี ยืนรอในคิวย่านกลางเมือง แล้วขอถ่ายเซลฟีกับควีนไอดอลของน้อง โดยที่ว่าในจังหวะที่ควีนทรงพระดำเนินเกือบถึงกลุ่มครอบครัวของน้อง คุณแม่ คุณยาย และคุณป้า ช่วยกันเชียร์ให้น้องก้าวออกไปทำสิ่งที่น้องตั้งใจมาตั้งแต่บ้าน บอกว่า “เข้าไปเลย ชาร์ลี เข้าไปเลย”
น้องชาร์ลีก็ก้าวขึ้นหน้าออกมา กราบทูลขออย่างสุภาพว่า “ขออภัยด้วยเถิดฮะ ขอหนูถ่ายเซลฟีกับพระองค์ได้ไหมฮะ”
แล้วควีนคามิลลาทรงตอบว่า “โอเคจ้ะ”
คุณแม่ลูซีของน้องชาร์ลีเล่าสู่นักข่าวของเดลิเมลว่า “น้องบอกคุณแม่ค่ะว่า น้องยังตื่นเต้นอยู่เลยที่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษอะค่ะ”
ในวันต่อมา 28 มีนาคม 2024 ที่เมืองวุร์สเตอร์ เคาน์ตีวุร์สเตอร์เชอร์ พระราชินีคามิลลาทรงเสด็จแทนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ เพื่อเป็นองค์ประธานพระราชพิธีมิสซามานดี อันเป็นการฉลองระลึกถึงวันสุดท้ายก่อนที่พระเยซูคริสต์จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน (วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งพระคริสตเจ้าทรงสร้างประเพณีแห่งการดูแลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้อัครสาวกทั้ง 12 สืบทอดเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ การฉลองมานดีของพระราชวงศ์อังกฤษเวียนไปเป็นคิวที่มหาวิหารวุร์สเตอร์เป็นผู้จัด
เดลิเมลออนไลน์รายงานว่า สมเด็จพระราชินีคามิลลา วัยคุณย่า 76 พรรษา ทรงมีพสกนิกรฟันน้ำนมทั้งรุ่นอนุบาลและวัยประถมจำนวนมหาศาล ตั้งแถวยิ้มร่าเริงรอรับเสด็จที่ด้านหน้ามหาวิหารวุร์สเตอร์ โดยในวโรกาสนี้ควีนทรงแจกทานแก่คนดีที่ยากจนจำนวน 75 รายฝ่ายหญิง และ 75 รายฝ่ายชาย ในพระนามของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ เพื่อประกาศเกียรติคุณที่บุคคลเหล่านี้ได้ทำคุณงามความดีแก่ชุมชนไว้อย่างมากมาย
หนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถึงวันฉลองมานดี ควีนคามิลลาทรงได้รับพระราชโมเมนต์สุดประทับใจ เมื่อน้องเอลลา แรมชอว์ นักเรียนหญิงวัย 8 ปี เจ๊าะแจ๊ะควีนอังกฤษผู้ทรงเป็นไอดอลของเธอว่า “พระองค์จะทรงเป็นเพื่อนสนิทของหนูได้ไหมเพคะ”
เรื่องราวความร่าเริงแจ่มใสของน้องเอลลา เติมความชื่นพระทัยแด่สมเด็จพระราชินีคามิลลา เมื่อพุธที่ 20 มีนาคม ณ เกาะไอล์ออฟแมน ดินแดนอาณานิคมปกครองตนเองของสหราชอาณาจักร ซึ่งตั้งในเขตทะเลไอริช
ทั้งนี้ พระราชินีคามิลลาทรงเสด็จแทนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ในการพระราชทานหนังสือพระราชหัตถเลขาพระราชทานสถานภาพ “นคร” แก่เมืองดักลาสโบโร อันเป็นเมืองเอกของเกาะไอล์ออฟแมน
และเมื่อควีนคามิลลาทรงเสด็จออกทักทายประชาชน อันประกอบด้วยเด็กนักเรียนจำนวนมากมาย น้องเอลลา นักเรียนหญิงวัย 8 ปี เจ้าของใบหน้าแจ่มจรัสขาวผ่องสดใส ได้มีโอกาสเช็กแฮนด์กับควีนคามิลลาซึ่งเป็นไอดอลที่น้องหลงใหลปลื้มปริ่มมานาน น้องร้องถามเจ๊าะแจ๊ะออกมาอย่างร่าเริง สุ้มเสียงหวานกังวานของน้อง ดังชัดเจนในคลิปที่เดลิเมลออนไลน์นำขึ้นเสนอเป็นข่าวในวันเดียวกันนั้นเลย
“พระองค์จะทรงเป็นเพื่อนสนิทของหนูได้ไหมเพคะ”
ควีนคามิลลาทรงพยักพระพักตร์ และตรัสตอบบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างของสาวน้อยออกอาการปลื้มแกมเอ๋อ เพราะเซอร์ไพรซ์ขั้นสุด
แล้วทรงพระดำเนินทักทายพสกนิกรรายอื่นๆ ต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ส่วนสาวน้อยเอลลาส่งเสียงสดใสได้ยินอยู่ในคลิป บอกเพื่อนๆ
“พระองค์ตรัสว่า ‘ได้สิ เป็นได้แน่นอนเลยจ้ะ’ ชั้นงี้กรี๊ดตื่นเต้นสุดๆ ชั้นเป็นแฟนเหนียวแน่นของพระองค์” สาวน้อยเอลลาว่าอย่างนั้นเดลิเมลออนไลน์รายงาน
ปาร์ตีน้ำชาที่ควีนคามิลลาทรงจัดพิเศษสุดๆ แก่น้องโอลิเวีย 7 ขวบดวงตาพิการ รับคีโมนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อต่อสู้โรคร้าย ได้ย้ำความเป็น “เสด็จย่านางฟ้า” ของควีนผู้อ่อนโยนและสุดแสนพระทัยดี
ความรัก ความชื่นชมหลงใหล ทึ่ง ประทับใจ ที่พสกนิกรมีให้แด่ เสด็จย่าแห่งชาติ มิได้อุบัติมาในชั่วข้ามคืน หากแต่เป็นอะไรที่ค่อยๆ ทวีตัวสะสมขึ้นจากที่หลายๆ สิ่งซึ่งควีนคามิลลาทรงแสดงออกถึงพระเมตตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีของเด็กหญิงโอลิเวีย เทย์เลอร์ นักเรียนประถมวัย 7 ขวบ ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น แต่น้องโอลิเวียผู้ร่าเริงแจ่มใส ก็กล้าหาญอดทนกับการบำบัดรักษาด้วยคีโม
เมื่อความทราบถึงควีนคามิลลา พระองค์ทรงพระราชทานกำลังใจอันมากมายแก่หนูโอลิเวียและครอบครัว เช่น ทรงเชิญเข้าพระราชวังวินด์เซอร์ ไปดื่มน้ำชา ทานขนม สนทนามุ้งมิ้ง โดยพระองค์ทรงใจดีน่ารักเปี่ยมพระเมตตาเหลือเกิน แม้แต่เด็กหญิงอิโมเจน เทย์เลอร์ น้องสาววัย 4 ขวบของโอลิเวีย ก็พลอยหลงรักเสด็จย่าของหนูๆ หมดหัวใจทีเดียว
เรื่องราวและภาพข่าว ตลอดจนวิดีโอคลิป ที่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน ทำให้พสกนิกรฟันน้ำนมทั้งปวงพากันปลาบปลื้มหลงใหลในพระเมตตา และพระลีลาแห่งรักอันอบอุ่นที่เสด็จย่าคามิลลาทรงพระราชทานแก่ประชาชนเจเนอเรชันจิ๋วเจ๊าะแจ๊ะ
น้องโอลิเวีย วัย 7 ปี ซึ่งตาบอดและป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง เป็นสมาชิกคณะนักขับร้องประสานเสียงเบ็กซ์ลีย์ มิวสิก ไพรมารี ไควเออร์ และในโอกาสการฉลองคริสต์มาส 2023 ของสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม คณะเบ็กซ์ลีย์ได้รับการบันทึกวิดีโอการแสดง และนำออกอากาศทั่วประเทศหลังจากที่คิงชาร์ลส์ทรงกล่าวอวยพรประชาชน
เมื่อความทราบถึงสมเด็จพระราชินีคามิลลา ว่าน้องโอลิเวียต่อสู้กับโรคร้ายอย่างกล้าหาญและอดทน โดยต้องรับการบำบัดด้วยคีโมมาหลายๆ รอบแล้ว นับจากที่ตรวจพบเนื้องอกในสมองตั้งแต่อายุได้เพียง 17 เดือน ควีนจึงทรงชื่นชม สงสาร และแสนจะประทับใจ ดังนั้น ในเทศกาลคริสต์มาส ควีนจึงเชิญน้องโอลิเวีย ตลอดจนคุณพ่อคุณแม่ และน้องสาววัย 4 ขวบ มารับเลี้ยงน้ำชาคริสต์มาสพระราชทานเป็นวาระส่วนพระองค์พิเศษสุดๆ ณ ห้องอ่านหนังสือสีขาว พระราชวังวินด์เซอร์
ในการนี้ เดลิเมลออนไลน์นำภาพและเรื่อง อีกทั้งคลิปวิดีโอ มารายงานให้ได้ปลื้มด้วยกันทั่วสหราชอาณาจักร
ในตอนเริ่มแรกเลย ครอบครัวเทย์เลอร์นั่งดื่มน้ำชาและทานขนมไปพลางขณะรอสมเด็จพระราชินี และเมื่อพระองค์เสด็จมาถึง คุณแม่ลิซากระซิบบอกน้องโอลิเวีย น้องตื่นเต้นมาก น้องร้องทักควีนด้วยเสียงใสแจ๋วว่า “สวัสดีเพคะฝ่าพระบาท” ขณะที่เท้าทั้งสองก็กระโดดไปมาอย่างร่าเริง
ควีนคามิลลาซึ่งทรงระวังความรู้สึกของผู้อื่นเป็นอย่างดีเสมอ ตรงเข้าไปเช็กแฮนด์คุณพ่อแมท และแวะทักทายน้องอิโมเจน ให้น้องรู้สึกถึงการเป็นคนพิเศษในปาร์ตีเล็กๆ นี้ จากนั้นก็ทรงเข้าไปทักทายโอลิเวียอย่างอ่อนหวาน แล้วต่อด้วยการเช็กแฮนด์กับคุณแม่ลิซ่า
เห็นได้ชัดเลยว่าควีนคามิลลาทรงทะนุถนอมน้องโอลิเวียด้วยความรักและความใส่พระทัย พระองค์ทรงรินน้ำชาแก้วแรกให้หนูน้อย และทรงแย้มพระสรวลอิ่มพระทัยเมื่อโอลิเวียอุทานว่าน้ำชาอร่อยถูกใจเหลือเกิน
นอกจากที่ควีนจะเตรียมน้ำชาแสนเลิศล้ำแล้ว ขนมกับของว่างก็อร่อยเยี่ยม ทั้งแซนด์วิช ทั้งสโคน ทั้งบิสกิต พร้อมกับขนมเค้กแซนต้าที่แต่งหน้าเป็นชื่อของหนูโอลิเวียหนึ่งชิ้น และเป็นชื่อของหนูอิโมเจนหนึ่งชิ้น
แม้แต่เก้าอี้ที่นั่งรอบโต๊ะดื่มน้ำชา ควีนคามิลลาก็ทรงมีพระมุกน่ารัก โดยทรงโปรดให้จัดเก้าอี้หนึ่งตัวไว้แก่ตุ๊กตาหมีคู่ใจของน้องโอลิเวีย เป็นการเฉพาะเลย เพราะตุ๊กตาหมีคอร์รีตัวนี้ที่น้องได้รับเมื่อช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเดือนพฤษภาคม ได้ติดตามไปทุกครั้งที่น้องเข้ารับการสแกนเอ็มอาร์ไอและเข้าพบคุณหมอที่โรงพยาบาล
ใช่แต่เท่านั้น ตุ๊กตาหมีคอร์รียังได้บิสกิตเป็นของตัวเองอีกต่างหาก โดยบนหน้าบิสกิตดังกล่าวมีการเขียนชื่อของคอร์รีไว้อย่างงดงาม
พระมุกน่ารักที่ควีนคามิลลาทรงจัดเตรียมไว้ให้หนูโอลิเวียได้รับความสุขเปี่ยมล้น ยังมีมากกว่านั้น โดยทรงโปรดให้เจ้าพนักงานห้องเครื่องเสวยจัดขนมคัปเค้กขึ้นโต๊ะน้ำชา แบบที่แต่งหน้าด้วยตุ๊กตาแซนต้า ซึ่งพระองค์ทรงเล่ารายละเอียดพิเศษของคัปเค้กแสนอร่อยนี้ให้โอลิเวียได้จินตนาการตาม
แล้วพระองค์ทรงประคองมือน้อยๆ ป้อมๆ ของโอลิเวียให้ได้สัมผัสกับหมวกและรองเท้าของท่านแซนต้า ซึ่งหนูน้อยของควีนคามิลลาก็เปล่งหัวเราะคิกคักตื่นเต้น
หนูโอลิเวียและหนูอิโมเจนผู้เป็นน้องสาว ได้รับของขวัญที่ระลึกจากพระราชินีคามิลลา คนละหนึ่งถุงใหญ่ โดยภายในถุงบรรจุไว้ด้วยของสวยของอร่อยอย่างสะพรั่ง ตั้งแต่ตุ๊กตาน้องหมาโคร์กี ขนมชอร์ตเบรดใส่ช็อกโกแลตชิป ถุงเท้ายี่ห้อโคร์กี ดินสอซึ่งตกแต่งลายมงกุฎ และช็อกโกแลตเหรียญทองหนึ่งถุงตาข่าย
นอกจากนั้นยังทรงแถมของที่ระลึกอีกหนึ่งสิ่ง ซึ่งควีนคามิลลาทรงพระราชทานด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ได้แก่ ตุ๊กตาน้องหมาโคร์กี้ตัวจิ๋วสำหรับแต่งต้นคริสต์มาส ทั้งนี้ เจ้าน้องหมาโคร์กีสวมเสื้อยืดรัดรูปสีแดงที่ปักลายมงกุฎไว้อย่างหรูบริเวณพุง น่าทึ่งน่าอิจฉาขั้นสุด โดยที่ว่า ในตอนที่ทรงส่งมอบนั้น ควีนทรงตรัสว่า
“ดูซิ มีตุ๊กตาโคร์กีอีกตัวหนึ่งด้วยนะจ๊ะ”
ด้านน้องโอลิเวียก็เตรียมผลงานศิลปะที่น้องประดิษฐ์ด้วยฝีมือตนเอง มาถวายควีนสุดเลิฟของน้อง อันได้แก่ แหวนสีม่วง ซึ่งพระราชินีคามิลลาทรงชื่นชมและตรัสว่า
“สวยค่ะ” แล้วก็ทรงสวมที่พระอนามิกาขวาทันที
จากนั้น ทรงชวนเด็กหญิงโอลิเวียสนทนาเจ๊าะแจ๊ะ โดยทรงชี้พระดัชนีซ้ายไปทางเก้าอี้ของน้องหมีคอร์รีว่า คุณหมีคอร์รีอาจจะรู้สึกอิจฉานิดๆ นะ เพราะโอลิเวียกอดตุ๊กตาตัวใหม่ไม่วางเลย ซึ่งก็คือ คุณน้องหมาโคร์กีนั่นเอง โอลิเวียหัวเราะกิ๊กกั๊ก หันไปคว้าคอร์รีมาไว้ในอ้อมกอดด้วยกันกับโคร์กี
งานพระราชทานเลี้ยงน้ำชาอันเป็นพระกิจกรรมหัวใจฟูฟ่องเป็นการส่วนพระองค์นี้ จบด้วยการถ่ายภาพที่ระลึก โดยพระราชินีคามิลลาทรงสวมกอดเด็กหญิงโอลิเวียอย่างรักใคร่เต็มดวงพระทัย
หลังจากนั้น เป็นคิวของหนูน้อยอิโมเจน ซึ่งหลงเสน่ห์เสด็จย่าผู้สุดแสนอบอุ่นเหมือนนางฟ้าในหนังสือนิทาน ยัยตัวเล็กวัย 4 ขวบวิ่งเข้ากอดควีนสุดเลิฟของเธอแนบแน่น ประมาณว่าได้รอนาทีสำคัญนี้มาตั้งนานแล้ว
พระราชินีคามิลลา ผู้ทรงเลี้ยงหลานย่าหลานยายมาถึง 5 ราย (ทั้ง 5 ท่านถือกำเนิดหลังจากที่พระราชินีทรงได้อภิเษกสมรสกับคิงชาร์ลส์ในปี 2005 แล้ว) ทรงเข้าพระทัยจิตวิทยาของเด็กเล็กอย่างลึกซึ้ง ทรงกอดตอบหนูอิโมเจนอย่างอบอุ่นลึกซึ้ง ซึ่งจะชดเชยให้กับหลายสิบนาทีที่น้องเฝ้ามองพี่สาวได้รับการปรนนิบัติดูแลอย่างล้นหลาม โดยที่ใจน้องใสซื่อไม่งอแงไม่คิดมาก พลังเมตตาอ่อนโยนของเสด็จย่าแห่งชาติบ่งบอกถึงความใส่พระทัยต่อจิตใจอันเปราะบางอ่อนไหวของผู้อื่นได้ดั่งผู้มีญาณหยั่งรู้
แบบว่างานน้ำชาพระราชทานของพระราชินีคามิลลา ซึ่งมุ่งหวังให้ความเข้มแข็งของหนูน้อยต่อสู้โรคร้ายทั้งที่มีดวงตาพิการ ได้เป็นกรณีตัวอย่างแก่ผู้คนทั้งหลาย นั้น ได้แสดงให้พสกนิกรเห็นถึงน้ำพระทัยเมตตามหาศาลของควีนแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งทำให้บรรดาหนูเล็กเด็กน้อยพากันหลงเสน่ห์เสด็จย่าแสนดีเหมือนพระราชินีแห่งเทพนิยายกันเลยทีเดียว
บรรดาพสกนิกรชาวเมืองผู้ดีต่างทราบมานานแล้วว่า ควีนคามิลลาทรงเป็นซูเปอร์ย่า ซูเปอร์ยาย ผู้ทรงวางมงกุฎดัชเชสแห่งพระชายาปรินซ์ออฟเวลส์ไว้ที่พระตำหนักแคลเรนซ์เฮาส์ และไปช่วยบุตรชายบุตรสาวเลี้ยงดูหลานๆ ทั้ง 5 ราย
โดยอดีตศรีสะใภ้ของควีนเคยให้สัมภาษณ์แก่ไอทีวีอังกฤษเมื่อปีที่แล้วว่า ควีนคามิลลาทรงเป็นดัชเชสทูลกระหม่อมย่า ผู้แสนวิเศษ
“พระองค์ทรงเป็นท่านย่าผู้แสนวิเศษค่ะ ทรงช่วยเลี้ยงดูน้องทั้งสองของดิฉันอย่างใกล้ชิด ทรงใส่พระทัยกับทุกสิ่งเกี่ยวกับน้องเฟรดดีและน้องโลลา” กล่าวโดย ซารา พาร์กเกอร์ โบลส์ อดีตศรีสะใภ้ของควีนคามิลลา เพราะหย่าร้างจาก ทอม พาร์กเกอร์ โบลส์ เมื่อปี 2018
ด้านควีนคามิลลาทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่เดลิเมลพลัส ในวโรกาสเบิร์ธเดย์ 75 พรรษาเมื่อปีที่แล้ว ในเรื่องที่ทรงเน้นความสำคัญของความเป็นครอบครัว และตรัสถึงเรื่องเล่าลือว่าพระองค์เคยสั่งลูกและหลานให้เก็บโทรศัพท์มือถือให้หมด เพราะเวลาทานอาหารด้วยกันเป็นเวลาของครอบครัว ดังนี้
“คนเป็นครอบครัวกัน เดี๋ยวนี้เขาไม่นั่งทานอาหารสนทนากันแล้วใช่ไหมคะ ดิฉันเป็นคนโบราณค่ะ ในสมัยก่อน เรานั่งร่วมโต๊ะอาหารกัน มีเวลาเพื่อแลกเปลี่ยนกัน แต่เดี๋ยวนี้ ทุกคนหมกมุ่นอยู่กับเครื่องนั่น มันทำให้ดิฉันเคืองทีเดียวค่ะ”
คุณูปการสำคัญเรื่องหนึ่งของควีนผู้ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งแก่การถนอมรักษาความเป็นครอบครัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ นามว่า เคที นิโคล เล่าไว้ คือ ทรงเป็นผู้ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียมให้เปิดพระทัยและกลับมาใกล้ชิดกัน
เคที นิโคล เล่าไว้เมื่อปีสองที่แล้ว คือ 2022 ว่าควีนคามิลลาทรงสนับสนุนให้พระสวามีทรงเห็นพ้องว่า ครอบครัวต้องอยู่ในลำดับความสำคัญชั้นแรกๆ
“บอกได้เลยค่ะว่า ปรินซ์วิลเลียมทรงระลึกถึงเรื่องนี้แบบที่ยังขอบพระทัยควีนคามิลลาเสมอ เพราะพระราชบิดาทรงจัดสรรเวลาของพระองค์ให้แก่พระราชนัดดาอย่างมากมาย” เคที นิโคล เล่าอย่างนั้น
นับแต่ที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงประกาศว่าจะรับการบำบัดรักษาพระโรคมะเร็ง เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ควีนคามิลลาก็ต้องทรงงานหนักทั้งในโควตาของพระองค์เอง และแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของพระราชสวามีมาบางส่วน โดยมีปรินซ์วิลเลียม ปรินเซสแอนน์ ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด และดัชเชสโซฟี ช่วยแบ่งเบากันไป
แม้คิงชาร์ลส์ทรงเสด็จออกมาเข้าร่วมพระราชพิธีมิสซาอีสเตอร์ซันเดย์ เมื่อ 31 มีนาคม 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระสำคัญยิ่งของชาวคริสต์ทั่วโลก แต่กระบวนการบำบัดรักษาพระโรคมะเร็งยังไม่เสร็จสิ้น โดยพระองค์ยังทรงต้องระมัดระวังการติดเชื้อ ดังนั้นพระราชกรณียกิจสำคัญต่างๆ ยังตกอยู่ในการดำเนินการของควีนคามิลลา
ด.ญ.รีเบกก้า และ ด.ญ.อิโมเจน มีบุญมากมาย น้องๆ ได้กอดควีนคามิลลาสุดเลิฟอย่างอิ่มเอมดวงใจ
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์)