ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในช่วง 4 เดือนแรกของสงครามกาซาสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 678,000 ล้านบาท) ตามรายงานของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และองค์การสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.)
รายงานความเสียหายเบื้องต้นซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (อียู) ประเมินว่า มูลค่าความเสียหายเทียบเท่า 97% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวสต์แบงก์และกาซารวมกันในปี 2022 และยังส่งผลให้เกิดเศษซากปรักหักพังอีก 26 ล้านตันที่จะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการเก็บกวาด
รายงานฉบับนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายในเชิงโครงสร้างพื้นฐานของกาซา รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของประชาชนบนแผ่นดินแคบๆ ที่ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ผู้คนอดอยาก และงานบรรเทาทุกข์ยังคงเผชิญอุปสรรคขัดขวาง
รายงานระบุว่า ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานนั้นกระทบไปทุกภาคส่วน โดย 72% เป็นต้นทุนด้านที่อยู่อาศัย ขณะที่อีก 19% คิดเป็นความเสียหายในด้านบริการสาธารณะ เช่น ระบบประปา สาธารณสุข และการศึกษา เป็นต้น
เวิลด์แบงก์ระบุว่า สงครามครั้งนี้ทำให้ประชากรกาซากว่า 1 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และ 75% กลายเป็นคนพลัดถิ่น ขณะที่ผู้คนกว่าครึ่งกำลังเสี่ยงเผชิญวิกฤตความอดอยาก (famine) และทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหาร (food insecurity) และภาวะทุพโภชนาการ (malnutrition) ขั้นรุนแรง
“ผลกระทบโดยรวมขั้นหายนะเกิดกับสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้หญิง เด็ก คนชรา และผู้ที่มีความพิการมากที่สุด และในส่วนของเด็กเล็กนั้นคาดว่าจะมีผลต่อพัฒนาการของพวกเขาไปตลอดชีวิต” เวิลด์แบงก์ ระบุ
การที่กลุ่มอิสลามิสต์ฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซาบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว และสังหารประชาชนไปราว 1,200 คน รวมถึงจับคนอิสราเอลและต่างชาติไปเป็นตัวประกันอีก 253 คน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามแก้แค้นที่คร่าชีวิตพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซาไปแล้วมากกว่า 32,000 คน ประชากรกาซาเกือบทั้งหมดจาก 2.3 ล้านคนต้องอพยพหนีภัยสงคราม ชาวกาซาเสี่ยงเผชิญภาวะอดอยาก และทำให้อิสราเอลเองถูกกล่าวหาว่ามีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลยิวปฏิเสธเสียงแข็ง
รัฐบาลอิสราเอลอ้างว่าพวกนักรบฮามาสใช้อาคารที่พักอาศัยของพลเรือน เช่น อพาร์ตเมนต์และโรงพยาบาลต่างๆ เป็นสถานที่หลบซ่อนตัว ซึ่งฮามาสปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง
พวกผู้นำอิสราเอลยังเรียกร้องให้ฮามาสยุติสงครามด้วยการยอมจำนน ปลดปล่อยตัวประกันในกาซาทั้งหมด และส่งตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มารับโทษ
ที่มา : รอยเตอร์