รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอลเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) ประกาศกร้าวว่า อิสราเอลจะปฏิบัติการ "ทุกหนทุกแห่ง และทุกๆ วัน" เพื่อปัดเป่าศัตรู นำพาความสูญเสียอย่างหนักมอบให้แก่อริเหล่านั้น
คำกล่าวของ โยอาฟ กัลแลนท์ ในเยรูซาเลม มีขึ้น 1 วันตามหลังเหตุโจมตีที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ปลิดชีพนายพลอิหร่าน 2 นายและก่อความเสียหายแก่สถานกงสุล ในเขตล้อมรั้วของสถานทูตอิหร่าน ในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย กระตุ้นให้เตหะรานออกมาประกาศจะแก้แค้นอย่างสาสม
กัลแลนท์ เตือนว่าการโจมตีใดๆ เล่นงานอิสราเอลจะต้องชดใช้ราคาแพง "ทุกๆ วันเราพบหลักฐานเพิ่มเติมว่า เราอยู่ในสงครามหลายแนวหน้า ทั้งเป็นฝ่ายบุกและฝ่ายตั้งรับ"
"เราพบเห็นหลักฐานในทุกๆ วัน ในนั้นรวมถึงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราจะปฏิบัติการในทุกหนทุกแห่ง ทุกๆ วัน เพื่อขัดขวางศัตรูของเรา จากการทวีความเข้มแข็งและเพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ใครก็ตามที่ลงมือกับเรา ทั่้วทุกแห่งในตะวันออกกลาง ราคาที่ต้องชดใช้ต่อการกระทำกับอิสราเอลนั้นจะเป็นราคาที่แสนแพง"
กัลแลนท์ ไม่ได้พาดพิงโดยตรงถึงการโจมตีในซีเรีย และอิสราเอลไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังการโจมตี
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีเป้าหมายเจ้าหน้าที่ทหารจากอิหร่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่เตหะรานให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในกาซาและตามแนวชายแดนติดกับเลบานอน ทั้งนี้ การโจมตีในกรุงดามัสกัสเมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.) เป็นสัญญาณของสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย เนื่องจากมันพุ่งเป้าเล่นงานสถานทูตของอิหร่าน
นาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐ ประกาศแก้แค้นการโจมตีดังกล่าว "ในขณะที่ขอสงวนสิทธิในการใช้มาตรการตอบโต้ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบปฏิกิริยาตอบสนองและบทลงโทษพวกผู้รุกรานหลังจากนี้"
ส่วนผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ประกาศลั่นว่าอิสราเอลจะต้องถูกลงโทษ "ระบอบปกครองลัทธิฟื้นชาติยิวไซออนนิสต์ที่ชั่วร้ายนี้จะต้องถูกลงโทษโดยน้ำมือของเหล่าบุรุษผู้กล้าของเรา เราจะทำให้พวกมันเสียใจกับอาชญากรรมรายนี้ และรายอื่นๆ" คอเมเนอี กล่าวในข้อความซึ่งโพสต์ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขาเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.)
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านและพวกเจ้าหน้าที่ของอิหร่านระบุว่า มีที่ปรึกษาทางทหารชาวอิหร่าน 7 นายเสียชีวิตในเหตุการณ์คราวนี้ ซึ่งรวมถึงพลจัตวาโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี และพลจัตวาโมฮัมหมัด ฮารี ฮะยี ราฮิมี 2 ผู้บัญชาการอาวุโสของกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองและกองกำลังกึ่งทหารของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านที่ปฏิบัติการในต่างประเทศ
คณะผู้แทนของอิหร่านในสหประชาชาติ แถลงว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งทั้งกฎบัตรยูเอ็น และหลักการพื้นฐานอันละเมิดมิได้ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่จะต้องไม่โจมตีอาณาบริเวณสถานทูตและสถานกงสุล อีกทั้งยังคุกคามสันติภาพและความมั่นคงของตะวันออกกลางอย่างร้ายแรง
(ที่มา : แอฟริกานิวส์/รอยเตอร์)