ฝรั่งเศสจะส่งมอบยานยนต์หุ้มเกราะหลายร้อยคัน และขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศใหม่ให้แก่ยูเครน สำหรับใช้ในการทำสงครามกับรัสเซีย จากการเปิดเผยของรัฐมนตรีกลาโหมแดนน้ำหอมในวันอาทิตย์ (31 มี.ค.) ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารของยุโรปเข้าไปช่วยเหลือยูเครน
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เซบาสเตียง เลอคอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส บอกว่าหลังจากพูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ทางประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ได้ขอให้เขาเตรียมการสำหรับแพกเกจความช่วยเหลือรอบใหม่ ซึ่งในนั้นจะรวมถึงยุทโธปกรณ์รุ่นเก่าแต่ยังใช้งานได้ของฝรั่งเศส
"กองทัพยูเครนจำเป็นต้องปกป้องแนวหน้าที่ครอบคลุมระยะทางยาวมาก ซึ่งยานเกราะเป็นสิ่งจำเป็น มันคือสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเคลื่อนย้ายทหารและเป็นส่วนหนึ่งตามคำขอของยูเครน" รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสกล่าว
เขาบอกต่อว่าฝรั่งเศสกำลังหาทางมอบยานเกราะ VAB หลายร้อยคัน ที่ใช้ลำเลียงทหารในแนวหน้า ในปี 2024 และช่วงต้นปี 2025
กองทัพฝรั่งเศสกำลังอยู่ระหว่างปลดประจำการและแทนที่ยานเกราะ VAB หลายพันคันด้วยยานลำเลียงพลอเนกประสงค์ใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ยานเกราะรุ่นนี้ถูกส่งเข้าปฏิบัติการเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1970
ทาง เลอคอร์นู ยังเผยด้วยว่าฝรั่งเศสอยู่ระหว่างกำลังเตรียมการปล่อยระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศ "แอสเตอร์ 30" ล็อตใหม่ สำหรับระบบ SAMP/T ให้แก่ยูเครนเช่นกัน
ทั้งนี้ แอสเตอร์ 30 มีศักยภาพสกัดเครื่องบินรบ โดรนและขีปนาวุธร่อน ภายในพิสัยทำการ 120 กิโลเมตร "ยูเครนต้องการระบบป้องกันภัยยิงจากภาคพื้นสู่อากาศที่ดีกว่าเดิม รัสเซียยกระดับความเข้มข้นของการโจมตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน"
เลอคอร์นู เผยว่าเขาขอให้หน่วยงานจัดซื้อด้านกลาโหมของรัฐบาล DGA จัดทำข้อเสนอต่างๆ เพื่อเร่งกระบวนการผลิตขีปนาวุธแอสเตอร์ ที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัทยุโรป MBDA
ขีปนาวุธแอสเตอร์ถูกใช้ทะเลแดงด้วยเช่นกัน บริเวณที่เรือฟริเกตของรัสเซียเข้าปกป้องการสัญจรทางทะเล จากการโจมตีของพวกนักรบฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน
เลอคอร์นู เผยว่าคำสั่งฉบับหนึ่งที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ให้อำนาจกระทรวงกลาโหม กำหนดระดับสต๊อกอาวุธและจัดลำดับความสำคัญของสัญญาต่างๆ
นอกจากนี้ เลอคอร์นู บอกด้วยว่าฝรั่งเศสกำลังเร่งมือพัฒนากระสุนที่ปฏิบัติการในระยะไกลสำหรับจัดหาให้แก่ยูเครน โดยวางเป้าส่งมอบอย่างเร็วที่สุดในช่วงฤดูร้อนปีนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนมกราคม มาครง บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่บรรดาชาติยุโรปจะส่งทหารเข้าไปยังยูเครน แต่เขายอมรับว่ายังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในเรื่องดังกล่าว ในขณะที่บรรดาพันธมิตรเห็นพ้องต้องกันเพียงแค่ยกระดับความพยายามส่งมอบกระสุนให้แก่เคียฟ
(ที่มา : รอยเตอร์)