บีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ไม่ได้พึงพอใจแค่กับการโค่นเทสลา นั่งแท่นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในโลก โดยเวลานี้พวกเขาเล็งเป้าหมายขโมยลูกค้าจากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างโตโยตา มอเตอร์และโฟล์คสวาเกน ด้วยการลดราคาอย่างดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมาในสงครามราคาตลาดรถยนต์จีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าปัจจุบัน บีวายดี กำลังปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดของตนเองเกือบทุกรุ่นที่วางจำหน่าย ส่วนหนึ่งในยุทธการด้านการตลาด ที่ประกาศว่า "ไฟฟ้ามีราคาถูกกว่าน้ำมัน"
ข้อมูลจาก 16888.com สื่อด้านยานยนต์ของจีน ที่วิเคราะห์โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พบว่า บีวายดี ได้ปรับลดราคารถยนต์รุ่นต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันมากกว่า 100 รุ่น เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนธันวาคม และทำการปรับโฉมรุ่นเก่า 70 รุ่นในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม
รายงานข่าวระบุว่าในส่วนของรถยนต์รุ่นที่ไม่มีการปรับลดราคา เป็นรถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆนี้ภายใต้แบรนด์หยางหวัง ในนั้นรวมถึงซูปอร์คาร์ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่สุด ซึ่งวางจำหน่ายในราคา 1.68 ล้วนหยวน(ราว 316,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
บลูมเบิร์กระบุว่า บีวายดี ทำการปรับลดราคาโดยเฉพาะกับรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด ซึ่งทำให้มันมีราคาถูกลงกว่าเดิม
บีวายดี ได้ทำการปรับลดราคา Seagull แฮชแบ็ค 5% เหลือ 69,800 หยวน(9,661 ดอลลาร์ หรือ 3.5 แสนบาท) ซึ่งเป็นการขายตัดราคารถอีวีสัญชาติสหรัฐฯ ที่มีราค่าเฉลี่ยมากกว่า 50,000 ดอลลาร์(ราว 1.8 ล้านบาท)
ส่วนรถซีดาน Qin Plus รุ่นขายดีที่สุดของบีวายดี ปรับลดมากกว่านั้นอีก โดยลดราคาลงถึง 20% เริ่มต้นที่ 79,800 หยวน(ราว 4 แสนบาท)
ในขณะที่พวกผู้ผลิตรถยนต์อีวีของจีน โดยทั่วไปจะทำสงครามราคารถยนต์รุ่นต่างๆของพวกเขากับกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อรถยนต์เป็นคันแรก ตามเมืองที่ร่ำรวยต่างๆ อย่างเช่นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น แต่การปรับลดราคาแบบลดสะบั้นหั่นแหลกของบีวายดี มีเป้าหมายคือโน้มน้าวให้พวกผู้ขับขี่ยอมทิ้งรถยนต์เบนซิน แล้วหันหน้าเข้าหารถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็หวังเอาชนะใจพวกลูกค้าตามเมืองเล็กๆและพื้นที่ชนบทต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีฐานะเพียงพอที่จะซื้อรถอีวีได้
พวกนักวิเคราะห์มองว่ากลยุทธ์นี้ เป็นภัยคุกคามต่อโตโยต้า, โฟลค์สวาเกน และนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งทั้งหมดดำเนินการค่อนข้างล่าช้าในการเปลี่ยนผ่านสู่รถอีวี และผลก็คือพบเห็นยอดขายรถยนต์ของพวกเขาในจีนได้รับผลกระทบอย่างหนัก
"นี่คือยก 2 ของสงครามราคา" บิลล์ รุสโซ่ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ออโตโมบิลิตี บริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ที่มีสำนักงานในเซี่ยงไฮ้กล่าว "บีวายดีกำลังใช้ความได้เปรียบเล็กน้อยโจมตีตลาด พวกเขาคงคิดว่า ถ้าฉันมีชิปในมือมากกว่าบนโต๊ะพนัน ฉันก็จะพยายามระรานคนอื่นๆให้ลุกออกจากโต๊ะไป"
บริบทของการปรับลดราคาล่าสุด สร้างความรู้สึกตกตะลึงแม้กระทั่งกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่สังเกตการณ์ตลาดมาช้านาน ซึ่งเคยชินกับลักษณะการแข่งขันอันสูงลิ่วในตลาดยานยนต์ของจีนอยู่ก่อนแล้ว
ชุ่ย ตงซู เลขาธิการทั่วไปของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน เขียนบนบล็อกของตนเองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าการลดราคาถือว่าหนักหน่วงสุดขั้ว และไปถึงระดับที่น่าตกตะลึงอย่างมาก
บีวายดี ยักษ์ใหญ่ยานยนต์และแบตเตอรี่สัญชาติจีน ประสบความสำเร็จในการโกยกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2023 จากผลประกอบการรายปีที่เผยแพร่ออกมาในวันอังคาร (26 มี.ค.) แม้ต้องเผชิญการแข่งขันอันดุเดือดในประเทศ สืบเนื่องจากอุปสงค์รถไฟฟ้าเติบโตขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
สงครามราคาที่ลุกลามบานปลายล่าสุด ได้แรงสั่นสะเทือนไปทั่วภาคอุตสาหกรรมรถอีวีของจีนเช่นกัน ด้วยที่บรรดาผู้ผลิตที่อ่อนแอกว่า ถูกบีบให้ควบรวมกิจการหรือออกจากธุรกิจไป
"จีนมีแบรนด์ต่างๆมากไป และมีรถยนต์รุ่นต่างๆมากไปในตลาด" ถิง หยูเฉียน หัวหน้าฝ่ายวิจัยยานยนต์จีนแห่ง HSBC Qianhai บอกกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก "อุตสาหกรรมนี้ถึงคราวควบรวมกิจการ"
(ที่มา:บลูมเบิร์ก)