พวกผู้ชุมนุมปิดกั้นถนนวงแหวนสายหนึ่งในเทลอาวีฟ เมื่อวันเสาร์(30มี.ค.) หลังจากมีการเดินขบวนประท้วง 2 จุด ในเมืองใหญ่ที่สุดของอิสราเอลแห่งนี้ เรียกร้องให้หาทางช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวในกาซาและวิพากษ์วิจารณ์แนวทางบริหารจัดการสงครามของรัฐบาล
ตำรวจใช้การฉีดน้ำเข้าจัดการกับพวกผู้ประท้วง ที่จุดไฟและใช้รถบรรทุกปิดกั้นถนนมอเตอร์เวย์ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ส่วนในเยรูซาเลม พบเห็นป้ายประท้วงหลายร้อยป้ายที่บ้านของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางรายงานข่าวของสื่อมวลชนว่ายังมีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลขนาดเล็กๆอีกหลายแห่งทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ประชาชนหลายพันคนรวมตัวกันในเทลอาวีฟ เพื่อรับฟังคำปราศรัยของบรรดาครอบครัวตัวประกันที่ถูกพวกนักรบฮามาสลักพาตัวไปในวันที่ 7 ตุลาคม ที่เรียกร้องขอให้มีการชุมนุมใหญ่บริเวณด้านหน้ารัฐสภาของประเทศในสัปดาห์หน้า
ชิรา เอลแบก ซึ่ง ลิริ ลูกสาวของเธอวัย 19 ปี ถูกพวกนักรบฮามาสลุกลามตัวไประหว่างการโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม วิงวอนด้วยอารมณ์ความรู้สึก เรียกร้องชาวอิสราเอลถาโถมแรงกดดันเข้าใส่เนทันยาฮู
"ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมา เพื่อสู้กับความเฉยเมยและเพื่อชีวิต" เธอกล่าว "ฉันขอให้พวกคุณออกมาร่วมกับเรา ลงสู่ท้องถนนสายต่างๆ มาแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันและส่งเสียงที่ชัดเจน นั่นคือ พาตัวประกันกลับบ้าน"
ขณะเดียวกันพบเห็นพวกผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลรวมตัวกันบริเวณด้านนอกของกระทรวงกลาโหม กล่าวโทษชะตากรรมของตัวประกันไปที่เนทันยาฮู "คุณเป็นบิ๊กบอส คุณต้องถูกกล่าวโทษ"
ตำรวจบอกว่าการชุมนุมครั้งนี้ผิดกฎหมายและเรียกพวกผู้ประท้วงว่าเป็น "พวกก่อจลาจล" หลังเหล่าผู้ชุมนุมไหบ่าลงไปยังถนนวงแหวนและปิดกั้นการสัญจรเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีระบุว่าในบรรดาผู้ที่ลงสู่ท้องถนนสนับสนุนครอบครัวตัวประกัน มีจำนวนมากที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลด้วย
พวกนักรบฮามาสจับกุมตัวประกันไปราวๆ 250 คน ในวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่ายังเหลือตัวประกันอยู่ในกาซาอีกราวๆ 130 คน แต่ในนั้น 33 ราย สันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
ราซ เบน อามี อดีตตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาในเดือนพฤศจิกายน ตามหลังข้อตกลงที่มีกาตาร์และวอชิงตันเป็นคนกลาง ส่งเสียงวิงวอนไปยังเนทันยาฮูโดยตรง ให้เร่งรัดเจรจาช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือ
เธอขอให้เนทันยาฮู ออกคำสั่งไปยังคณะผู้แทนเจรจา ที่มีกำหนดไปร่วมพูดคุยในไคโรและโดฮาในสัปดาห์หน้า ว่า "อย่ากลับมาโดยปราศจากข้อตกลง"
(ที่มา:เอเอฟพี)