xs
xsm
sm
md
lg

ประดาน้ำกู้ 2 ศพคนงานเหตุสะพานถล่มที่ ‘บัลติมอร์’ ผู้เชี่ยวชาญพบโครงสร้างสะพานมี 'จุดอ่อน'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทีมนักประดาน้ำสหรัฐฯ กู้ร่าง 2 คนงานจากทั้งหมด 6 คนที่สูญหายในเหตุการณ์สะพานถล่มที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ของสหรัฐฯ ขึ้นมาจากแม่น้ำได้สำเร็จเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ “กล่องดำ” พบว่ากัปตันเรือสินค้าส่งสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือจากเรือลากจูง และแจ้งปัญหาสูญเสียพลังงานเพียงไม่กี่นาทีก่อนเรือพุ่งชนสะพาน

หัวหน้าคณะกรรมการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ยังให้ข้อมูลด้วยว่า สะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1976 ขาดความซ้ำซ้อนในโครงสร้างทางวิศวกรรม (structural engineering redundancies) ซึ่งมักจะพบในสะพานรุ่นใหม่ๆ ทำให้ตัวสะพานแห่งนี้มีความเปราะบางและง่ายต่อการพังถล่ม

ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับหายนะครั้งนี้เริ่มถูกเปิดเผยออกมามากขึ้น เพียง 1 วันหลังจากที่เรือสินค้า Dali ติดธงสิงคโปร์ซึ่งมุ่งหน้าออกจากอ่าวบัลติมอร์เพื่อไปศรีลังกาเกิดปัญหาสูญเสียพลังงานและความสามารถในการควบคุมทิศทาง จนกระทั่งไปพุ่งชนเข้ากับตอม่อสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ บริดจ์ (Francis Scott Key Bridge) ตรงบริเวณปากแม่น้ำพาแทปสโค (Patapsco River) เมื่อเวลาราว 1.30 น. ของวันอังคาร (26) ส่งผลให้โครงสร้างสะพานซึ่งมีความยาวราว 2.57 กิโลเมตรพังถล่มลงไปในแม่น้ำ

การพังถล่มของสะพานแห่งนี้ส่งผลให้เส้นทางเดินเรือถูกปิดกั้น และท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คับคั่งที่สุดในฝั่งอีสเทิร์นซีบอร์ดของสหรัฐฯ ต้องถูกสั่งปิดไปแบบไม่มีกำหนด

นักประดาน้ำบัลติมอร์สามารถงมร่างคนงานที่สูญหาย 2 จากทั้งหมด 6 คนขึ้นมาจากน้ำได้แล้วเมื่อวานนี้ (27) ขณะที่ โรแลนด์ บัตเลอร์ ตำรวจรัฐแมริแลนด์ ให้ข้อมูลว่า รถกระบะสีแดงซึ่งมีร่างของ 2 คนงานติดอยู่ภายในถูกพบจมอยู่ในน้ำลึก 7.62 เมตร ใกล้ๆ กับส่วนกลางของสะพานที่พังถล่ม

ทางการสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับภารกิจกู้ร่างคนงานที่เหลือ เนื่องจากสภาพของอ่าวซึ่งอันตรายต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ บัตเลอร์ ยังอ้างภาพถ่ายโซนาร์ที่พบว่ารถยนต์คันอื่นๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำติดคาอยู่กลางซากโครงสร้างสะพาน ทำให้การเข้าถึงเป็นไปได้ยาก

ศพคนงาน 2 รายที่ถูกกู้ขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว ได้แก่ อเลคันโดร เฮอร์นันเดซ ฟูเอนเตส (Alejandro Hernandez Fuentes) วัย 35 ปี ซึ่งเป็นชาวบัลติมอร์ที่เกิดในเม็กซิโก และ ดอร์เลียน โรเนียล คัสติลโล คาเบรรา (Dorlian Ronial Castillo Cabrera) วัย 26 ปี ชาวกัวเตมาลาซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองดันดาล์ก (Dundalk) รัฐแมริแลนด์

สำหรับอีก 4 ศพที่ยังหาไม่พบล้วนเป็นคนงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ซ่อมแซมพื้นผิวถนนในขณะที่สะพานพังถล่ม และคาดว่าทุกคนน่าจะเสียชีวิตแล้ว ในจำนวนนี้มีคนงานที่เป็นผู้อพยพจากฮอนดูรัสและเอลซัลวาดอร์รวมอยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้ ทีมกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตคนงาน 2 คนขึ้นจากน้ำได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันอังคาร (26) โดยรายหนึ่งยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุครั้งนี้คาดว่าจะไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากท่าเรือบัลติมอร์เป็นท่าเรือที่รองรับการขนส่งยานพาหนะและอุปกรณ์การเกษตรมากที่สุดในสหรัฐฯ และยังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่ถูกลำเลียงผ่านท่าเรือแห่งนี้ ตั้งแต่น้ำตาลเรื่อยไปจนถึงถ่านหิน

พีท บูติเจิจ (Pete Buttigieg) รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ประเมินว่ามีแรงงานไม่ต่ำกว่า 8,000 คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจกรรมของท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งมีการสร้างเม็ดเงินค่าจ้างสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 73 ล้านบาท) ต่อวัน

ที่มา : รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น