โทษคนอื่นซะงั้น! สื่ออังกฤษโยนบาปจีน-รัสเซีย-อิหร่าน ต้นตอปล่อยข่าวลือเจ้าหญิงเคท

จีน รัสเซีย และอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโหมกระพือข่าวลือต่างๆ เล่นงานเจ้าหญิงเคท ตามคำกล่าวอ้างของสำนักข่าวจีบีนิวส์ สื่อมวลชนอังกฤษ โดยอ้างอิงแหล่งข่าวพระราชวังไวต์ฮอล ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจากพระชายาของเจ้าชายวิลเลียม จำเป็นต้องออกมาเปิดเผยอาการประชวรต่อสาธารณะทั้งที่ประสงค์เก็บเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนพระองค์ เนื่องจากมีเสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ

จีบีนิวส์ รายงานว่าพวกบุคคลระดับสูงในรัฐบาลเกรงว่าบรรดารัฐศัตรูอาจอยู่เบื้องหลังการแพร่กระจายทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ และข่าวลือบนสื่อสังคมออนไลน์ ในเรื่องเกี่ยวกับพลานามัยของเจ้าหญิงแห่งเวลส์

หลังจากเจ้าหญิงเคท พระชนมายุ 42 พรรษา ออกมาแถลงในวันศุกร์ (22 มี.ค.) ว่าทรงกำลังอยู่ระหว่างรับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ทาง ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นแกนนำประณามพวกแพร่กระจายข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานเจ้าหญิงเคทบนสื่อออนไลน์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ซูแน็ก เขียนบนสื่อสังคมออนไลน์ ว่า "ผมห่วงใยเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระบรมวงศานุวงศ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกๆ ของพระองค์ทั้ง 3 คน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เจ้าหญิงแห่งเวลส์จะทรงเป็นที่รักและได้รับแรงสนับสนุนจากทั่วประเทศ ระหว่างที่พระองค์รักษาและพักฟื้นจากอาการป่วย"

หัวหน้าฝ่ายต่อต้านข้อมูลบิดเบือนระบุเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า เจ้าหญิงทรงกลับมาเป็นเหยื่อของกลุ่มคนที่น่ารังเกียจอีกรอบ โดยคนเหล่านี้กล่าวหาเจ้าหญิงเคท ไม่เปิดเผยอาการป่วยของพระองค์ต่อสาธารณะให้เร็วกว่านี้

ด้วยเหตุนี้ ทางพระราชวังไวต์ฮอลจึงมีความกังวลมากขึ้นว่า ตัวละครจากรัฐศัตรูอาจเกี่ยวข้องกับแพร่กระจายทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์เล่นงานเจ้าหญิงเคท ตามคำกล่าวอ้างของจีบีนิวส์

หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ อ้างแหล่งข่าวรัฐบาลระบุว่า "มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการประทุษกรรมของรัฐศัตรู ที่ต้องการบั่นทอนสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ่อนทำลายความชอบธรรมของศึกเลือกตั้งของเรา หรือสถาบันอื่นๆ"

อิมราม อาห์เมด ซีอีโอของศูนย์ต่อต้านความเกลียดชังทางดิจิทัลให้สัมภาษณ์ ว่าการโจมตีบนสื่อสังคมออนไลน์ได้ก่อความเสียหายแก่เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์"

เขาบอกกับบีบีซี ว่า "เมื่อคุณมีเจ้าหญิงยังสาว ที่ประสบกับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ คุณได้เห็นการไหล่บ่าของทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ คุณเห็นทฤษฎีสมคบคิดเหล่านั้นท่วมแพลตฟอร์มต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ แพร่กระจายสู่คนเป็นล้านคน"

(ที่มา : จีบีนิวส์)