จอห์น ลี ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศวันนี้ (26 มี.ค.) ว่าบุคคลที่ถูกจำคุกฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจะไม่ได้รับการพิจารณาพักโทษหรือปล่อยตัวจากเรือนจำก่อนกำหนด โดยให้ถือเป็น “แนวทางปฏิบัติปกติ”
คำแถลงของ ลี มีขึ้นหลังจากที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หม่า ชุนมาน (Ma Chun-man) นักเคลื่อนไหวฮ่องกง กลายเป็นนักโทษรายแรกที่ถูกตัดสิทธิพักโทษทั้งที่มีความประพฤติดี หลังจากกฎหมายความมั่นคงมาตรา 23 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
กฎหมายความมั่นคงมาตรา 23 กำหนดโทษสำหรับความผิดฐานยุยงปลุกปั่น จารกรรมข้อมูล และการแทรกแซงจากภายนอก ขณะที่หลายประเทศออกมาวิจารณ์ว่าเนื้อความในกฎหมายนี้ “กำกวมเกินไป” และอาจบั่นทอนภาพลักษณ์ของฮ่องกงในฐานะเมืองศูนย์กลางการเงินนานาชาติ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฮ่องกงยืนยันว่ามาตรา 23 จะเป็นการอุดช่องโหว่ทางกฎหมาย และนำเสถียรภาพกลับคืนสู่ฮ่องกงในระยะยาว หลังจากที่อดีตเกาะอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้เคยเผชิญความปั่นป่วนจากขบวนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อช่วงปี 2019
หม่า ซึ่งได้ฉายาว่า “กัปตันอเมริกา 2.0” จากการถือโล่ของตัวละครซูเปอร์ฮีโร่เข้าร่วมประท้วงเมื่อปี 2019 ถูกศาลฮ่องกงพิพากษาจำคุก 5 ปีกับอีก 9 เดือนเมื่อปี 2021 ในความผิดฐานป่าวร้องสโลแกนและชูป้ายที่มีเนื้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน
ต่อมาเขาได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลลดโทษจำคุกเหลือเพียง 5 ปี ซึ่งหากว่าตามเกณฑ์การพักโทษ 1 ใน 3 สำหรับนักโทษที่มีความประพฤติดีแล้ว หม่าก็ควรมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25)
ลี ระบุว่า การบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง และประชาชนทุกควรตระหนักว่าการทำความผิดลักษณะนี้อาจไม่มีสิทธิได้รับการพักโทษเหมือนกับผู้กระทำความผิดทั่วไป
“การไม่ได้รับอนุญาตให้พักโทษถือเป็นแนวทางปฏิบัติตามปกติ” ลี กล่าว “นี่จะเป็นการเตือนให้ทุกคนทราบว่า อย่าคิดกระทำการ หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ”
ผู้ว่าฯ ฮ่องกงยังเอ่ยเสริมด้วยว่า นักโทษคนหนึ่งๆ จะได้รับการพักโทษก็ต่อเมื่อผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณาเห็นว่าการลดโทษจำคุกจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ
ผู้สื่อข่าวยังพยายามสอบถามถึงกรณีของ หม่า ชุนมาน แต่ผู้ว่าฯ ฮ่องกงปฏิเสธที่จะกล่าวถึงโดยตรง
ที่มา : รอยเตอร์