เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงโตเกียวคนใหม่เตือนรัฐบาลญี่ปุ่นให้ระวัง “ผลลัพธ์ร้ายแรง” ที่จะตามมา หากระบบขีปนาวุธแพทริออต (Patriot) ที่ผลิตในแดนปลาดิบภายใต้การอนุญาตของสหรัฐฯ เล็ดลอดไปถึงมือกองทัพยูเครน
รายงานจากสำนักข่าว RIA วานนี้ (22 มี.ค.) อ้างคำพูดของ นิโคไล นอซเดรฟ (Nikolai Nozdrev) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่ามอสโกจะเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดว่าอาวุธที่ญี่ปุ่นส่งออกนั้นตกไปถึงมือฝ่ายใด หลังจากที่โตเกียวเริ่มผ่อนคลายกฎการคุมเข้มส่งออกอาวุธเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
ทูตหมีขาวยังย้ำเตือนเป็นพิเศษว่า รัสเซียจะติดตามดูว่าระบบขีปนาวุธแพทริออตที่ผลิตในญี่ปุ่นภายใต้ใบอนุญาตของสหรัฐฯ จะถูกส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และเปลี่ยนมือไปถึง “ยูเครน” หรือไม่อย่างไร
“ดังนั้น เราจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าขีปนาวุธแพทริออตที่ญี่ปุ่นส่งออกนั้นจะไม่ไปจบที่ยูเครน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลลัพธ์ที่ร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี (ระหว่างรัสเซีย-ญี่ปุ่น) และนำไปสู่มาตรการตอบโต้แก้แค้นของเราด้วย” เขากล่าว
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วว่าเตรียมส่งมอบระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตให้สหรัฐฯ หลังมีการแก้กฎหมายว่าด้วยการส่งออกอาวุธ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนการปรับตัวจากนโยบายฝักใฝ่สันติ
ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นมีขึ้นในขณะที่บรรดาชาติตะวันตกเริ่มขาดแคลนเครื่องกระสุนที่จะส่งให้ยูเครนใช้ต้านทานการรุกรานของรัสเซีย อีกทั้งระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตก็เป็นหนึ่งในอาวุธล้ำสมัยที่สุดที่สหรัฐฯ ยินยอมส่งมอบให้ยูเครนใช้ด้วย
ที่มา : รอยเตอร์