xs
xsm
sm
md
lg

เอารัดเอาเปรียบ! ยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง 'แอปเปิล' ข้อหาผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พร้อมด้วยทางการของมลรัฐอีก 15 แห่งในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ยื่นฟ้องแอปเปิล ส่วนหนึ่งในความเคลื่อนไหวปราบปรามบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ โดยกล่าวหาบริษัทผู้ผลิตไอโฟนรายนี้ผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟน ก่อความเสียหายแก่คู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่าและผลักให้ราคาพุ่งสูง

แอปเปิลกลายเป็นบริษัทล่าสุดที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีโดยผู้ควบคุมกฎระเบียบ เช่นเดียวกับบรรดาคู่แข่งอย่างอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล เมตา แฟลตฟอร์มส์ และแอมะซอน ดอทคอม ที่ถูกยื่นฟ้องเอาผิดไล่มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน

"พวกลูกค้าไม่ควรต้องมาจ่ายในราคาสูง เพราะบริษัทเหล่านี้ละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาด (Antitrust Laws)" เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง "ถ้าปล่อยไว้โดยไม่มีการคัดค้าน การผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟนของแอปเปิลก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ"

กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าแอปเปิลตั้งราคาไอโฟนให้สูงถึง 1,599 ดอลลาร์ต่อเครื่อง และทำกำไรมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้ รวมทั้งเก็บเงินจากบริษัทอื่นๆ ที่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ ไล่ตั้งเเต่บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ไปจนถึงผู้ให้บริการบัตรเครดิต และแม้กระทั่งกับคู่แข่งอย่างกูเกิล ซึ่งเหล่านี้อยู่เบื้องหลังฉากในหนทาง ที่ท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ราคาปรับสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคและดันให้แอปเปิลมีกำไรมากขึ้นไปอีก

การฟ้องร้องดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาของนักวิจารณ์ ที่โจมตีแอปเปิลมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ว่าแอปเปิลทำลายการแข่งขันด้วยข้อจำกัดต่างๆ ในแอปสโตร์ของพวกเขา ค่าใช้จ่ายที่สูง และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่บีบให้ใช้แต่อุปกรณ์ในเครือของตัวเองเท่านั้น

ทั้งนี้ แอปเปิลมีชื่อเสียงในเรื่องการทำให้เทคโนโลยีของตัวเองใช้งานได้ง่าย แต่มีการควบคุม หรือในบางกรณีมีข้อจำกัดอย่างเข้มงวด เรื่องการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทบุคคลที่สามกับอุปกรณ์และบริการของพวกเขา

หุ้นของแอปเปิลขยับลง 3.6% ระหว่างการซื้อขายในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.)

อย่างไรก็ตาม แอปเปิลปฏิเสธคำกล่าวหาต่างๆ จากรัฐบาล และโต้กลับว่าการฟ้องร้องนี้ "คุกคามความเป็นตัวตนของเราและหลักการที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลแตกต่างจากคู่แข่ง ในตลาดที่มีการเเข่งขันอย่าสูง"

บริษัทกล่าวด้วยว่า "ถ้าสำเร็จ (การดำเนินคดีนี้) จะบั่นทอนความสามารถของเราในการผลิตเทคโนโลยีที่คนคาดหวังจากแอปเปิล ซึ่งเป็นจุดรวมของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และการให้บริการ"

หนึ่งในตัวอย่างของข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมที่มีต่อแอปเปิล ในเอกสารฟ้องร้องความยาว 88 หน้า คือคำกล่าวหาที่ว่าแอปเปิล จงใจลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตัวเองเพื่อขัดขวางคู่แข่ง โดยยกตัวอย่างกรณีต่างๆ ที่ แอปเปิลพยายามลดการแข่งขันทางเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น "ซูเปอร์แอป" แอปเกมที่เล่นแบบสตรีมผ่านคลาวด์ แอปส่งข้อความ สมาร์ทวอทช์ และกระเป๋าเงินดิจิทัล

ในคำกล่าวหาบอกด้วยว่า แอปเปิลสร้างความยากลำบาก ไม่ให้แอปส่งข้อความและสมาร์ทวอทช์ของคู่แข่งทำงานได้ราบรื่นบน iPhone รวมถึงกล่าวหาว่านโยบายแอปสโตร์ของแอปเปิล เกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่งเกมต่างๆ ก็ขัดขวางการแข่งขันด้วยเช่นกัน

กระทรวงยุติธรรมยังอ้างอิงอีเมลจาก สตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลที่เสียชีวิตไปแล้วในปี 2011 ซึ่งระบุว่า "ไม่สนุกเลยที่เห็นว่าผู้บริโภคเปลี่ยนจากไอโฟน เป็นแอนดรอยด์ ได้ง่ายดาย" และสาบานว่าจะ "บังคับ" นักพัฒนาให้ใช้ระบบการชำระเงินของแอปเปิลเพื่อกักตัวทั้งนักพัฒนาและผู้บริโภคเอาไว้

ไม่เป็นชัดเจนว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ต้องการเล่นงานแอปเปิลตามข้อกล่าวหาใดโดยเฉพาะในขณะที่คำฟ้องขอให้ศาลสั่งห้ามแอปเปิลใช้การควบคุมแอปสโตร์ สัญญาต่างๆ และการใช้ส่วนเชื่อมต่อซอฟต์แวร์ส่วนบุคคลในทางที่บ่อนทำลายคู่แข่ง นอกจากนี้ยังต้องการให้ศาลสั่งการอื่นๆ ที่จำเป็น "เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมการแข่งขันในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของแอปเปิล"

(ที่มา : รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น)


กำลังโหลดความคิดเห็น