น้ำมันขยับลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) จากแรงกดดันของอุปสงค์เบนซินในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทบวกและทองคำพุ่งแรง ท่ามกลางสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายชาติ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 85.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (20 มี.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกา ชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกลดลงผิดคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้สต๊อกเบนซินสำรองก็ปรับลดเช่นกัน เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันที่ 3.3 ล้านบาร์เรล แต่ปริมาณการผลิตเบนซินซึ่งเป็นตัวแทนของอุปสงค์ลดลงต่ำกว่า 9 ล้านบาร์เรล
การลดลงดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดเบนซิน ซึ่งดีดตัวขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ อาจกำลังอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อ้างอิงความเห็นของ บ็อบ ยอว์เกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทมิซูโฮะกล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ปิดบวก หลังธนาคารกลางหลายชาติ เดินรอยตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าอยู่บนเส้นทางของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 269.24 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,781.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.91 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,241.53 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 32.43 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,401.84 จุด
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธ (20 มี.ค.) เพิ่มความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยมากสุด 3 ครั้งในปีนี้ หลังจากลงมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่ระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี
ต่อมาในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางนอร์เวย์ ก็ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน แต่บ่งชี้ว่าพวกเขาอาจปรับลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ หากสถานการณ์เงินเฟ้อยังคงเบาบางลงเรื่อยๆ
ในวันเดียวกันนี้เอง ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นธนาคารกลางหลักชาติแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย นับตั้งแต่สิ้นสุดวงจรการกระชับนโยบายทางการเงินของโลกในปัจจุบัน โดยอ้างว่าการมาตรการต่อสู้กับเงินเฟ้อกำลังได้ผล
ส่วนราคาทองคำปิดบวกแรงในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) หลังจากเฟดแย้มว่าอยู่บนเส้นทางของการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2024 โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 23.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,184.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)