xs
xsm
sm
md
lg

โหดเกินทน!! อดีตจนท.อเมริกันเกือบ70คนยื่นจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องไบเดนใช้ไม้แข็งขวางยิวไล่ฆ่าคนปาเลสไตน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หญิงชาวปาเลสไตน์อุ้มลูกแฝดสามของเธอ ขณะหลบหนีจากโรงพยาบาลอัลชิฟา ในเมืองกาซาซิตี้ ซึ่งถูกทหารอิสราเอลบุกเข้ากวาดล้าง มุ่งหน้าลงไปทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) โดยยังไม่รู้ว่าจะหาสถานที่ปลอดภัยได้ที่ไหน
อดีตเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว นักการทูต หน่วยข่าวกรอง และนายทหาร เกือบ 70 คนของสหรัฐฯ เรียกร้องไบเดนเตือนอิสราเอลถึงผลลัพธ์เลวร้าย หากยังขืนปฏิเสธสิทธิพลเรือนและความจำเป็นพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งขยายกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานเข้าสู่เขตยึดครองเวสต์แบงก์

“อเมริกาต้องเต็มใจใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อคัดค้านการกระทำเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงการจำกัดการให้ความช่วยเหลือแก่อิสราเอลตามกฎหมายและนโยบายของประเทศ” จดหมายเปิดผนึกที่อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ส่งถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันพุธ (20 มี.ค.) ระบุ

ในบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ลงชื่อในจดหมายนี้รวมถึงอดีตเอกอัครราชทูตกว่าสิบคน อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม หน่วยข่าวกรอง และทำเนียบขาว

จดหมายฉบับนี้ตอกย้ำกระแสความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นในอเมริกาต่อปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งมีชนวนเหตุจากการที่นักรบฮามาสบุกเข้าไปทางใต้ของอิสราเอลและสังหารเหยื่อ 1,200 คน รวมทั้งจับตัวประกันกลับไปคุมขังในกาซา 253 คน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

นับจากนั้นพื้นที่กว้างขวางในกาซาก็ถูกอิสราเอลถล่มโจมตีจนราบเป็นหน้ากลอง และชาวปาเลสไตน์เกือบ 32,000 คนเสียชีวิต ขณะที่สหประชาชาติ ระบุว่า ประชาชน 2.3 ล้านคนในกาซามีอาหาร น้ำ และที่พักพิงน้อยมาก และบางพื้นที่ขาดแคลนอาหารเกินระดับภาวะอดอยาก

วันอังคาร (20) โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงโจมตีว่า อิสราเอลกำลังใช้ภาวะอดอยากเป็นอาวุธซึ่งเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม

ในจดหมายเปิดผนึก อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเหล่านี้ระบุว่า ปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลต่อกลุ่มฮามาสมีความจำเป็นและมีเหตุผล แต่ปฏิบัติการดังกล่าวเวลานี้มีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซ้ำๆ ทั้งกฎหมายที่ห้ามการไล่ฆ่าคนตามอำเภอใจ รวมทั้งการใช้อาวุธที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับพลเรือน

“พลเรือนกาซานับหมื่นล้มตาย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก การสังหารพลเรือนในลักษณะและระดับนี้ไม่ถือว่า มีเหตุผลสมควร” จดหมายระบุ

อดีตเจ้าหน้าที่เหล่านี้ยังสนับสนุนข้อเรียกร้องของไบเดนให้มีการหยุดยิงทันทีอย่างน้อย 6 สัปดาห์ การสร้างระบบเพื่อจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่น่าเชื่อถือ และการปล่อยตัวประกันอิสราเอล

ข้อความในจดหมายยังระบุถึงการเรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลใช้กฎการปะทะที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ

ทั่วโลกต่างกังวลมากขึ้นกับความขัดแย้งทางทหารในกาซาที่ดำเนินมาถึงเดือนที่ 6 โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศทำลายกลุ่มฮามาสเพื่อล้างแค้นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

ปฏิบัติการล่าสุดรวมถึงการโจมตีโรงพยาบาลอัล-ชีฟาในกาซาซิตี้ที่มีทั้งผู้ป่วยและพลเรือนหลบภัยอยู่จำนวนมาก แต่อิสราเอลกล่าวหาว่า มีนักรบปาเลสไตน์แอบซ่อนปะปนอยู่ด้วย

กองทัพอิสราเอลระบุว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยในโรงพยาบาลนี้ได้กว่า 300 คน รวมทั้งสังหารนักรบฮามาสราว 140 คนระหว่างการบุกจู่โจมที่เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ (18)

ด้านฮามาสปฏิเสธว่า ไม่มีนักรบซ่อนอยู่ในอัล-ชีฟา และประณามอิสราเอลว่า กำลังก่ออาชญากรรมกับโรงพยาบาลแห่งนี้ รวมทั้งสังหารพลเรือน ผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่นับสิบคน

ชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ รวมถึงตัวประกันอิสราเอลที่ถูกคุมขังในกาซา กดดันให้คณะผู้เจรจาต้องกลับไปหารือกันอีกครั้งที่กาตาร์ในสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่เผยว่า มีความคืบหน้าน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสฯ (21) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์จากเมืองหลวงไคโร ของอียิปต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการตระเวนเยือนตะวันออกกลางครั้งที่ 6 นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วของเขาคราวนี้ โดยแสดงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นในการบรรลุข้อตกลง หลังจากข้อคิดเห็นที่ขัดแย้งกันบางส่วนได้รับการแก้ไข

บลิงเคนสำทับว่า อเมริกายังได้ร่างญัตติเรียกร้องการหยุดยิงทันทีและปล่อยตัวประกัน รวมทั้งจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมยูเอ็นแล้ว

ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูแถลงต่อวุฒิสมาชิกรีพับลิกันของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ยืนยันว่า อิสราเอลจะยังคงเดินหน้าบดขยี้ฮามาส สะท้อนความร้าวฉานระหว่างผู้นำยิวกับคณะบริหารของไบเดนที่ต้องการให้อิสราเอลผ่อนคลายวิกฤตมนุษยชนและปกป้องพลเรือนมากขึ้น

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น