ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเตือนวานนี้ (19 มี.ค.) ว่าความอยู่รอดของยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ “อันตราย” พร้อมขอให้ชาติพันธมิตรเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นในการปกป้องเคียฟ แม้งบประมาณที่จะช่วยอัดฉีดอาวุธให้ยูเครนจะใกล้หมดลงแล้วก็ตาม
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ยังคงดึงดันไม่ยอมเปิดโหวตร่างกฎหมายงบประมาณซึ่งจะอัดฉีดความช่วยเหลือแก่ยูเครนอีก 60,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวก็พยายามมองหาทางลัดอื่นๆ ที่จะส่งความช่วยเหลือแก่เคียฟ ซึ่งทำสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซียมานานกว่า 2 ปี
ออสติน เดินทางไปที่ฐานทัพอากาศรัมสไตน์ในเยอรมนีเพื่อร่วมการประชุมประจำเดือนของกลุ่ม Ukraine Defense Contact Group (UDCG) ซึ่งประกอบด้วยพันธมิตรราวๆ 50 ประเทศที่มีจุดยืนสนับสนุนยูเครน
“วันนี้ความอยู่รอดของยูเครนกำลังตกอยู่ในอันตราย และความมั่นคงของอเมริกาก็ตกอยู่ในความเสี่ยง” ออสติน ระบุในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุม
“วันนี้ผมขอย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะส่งมอบความช่วยเหลือและเครื่องกระสุนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่สำคัญต่อความอยู่รอดและอธิปไตยของยูเครน และยังเกี่ยวพันกับเกียรติภูมิและความมั่นคงปลอดภัยของอเมริกาเองด้วย”
อย่างไรก็ตาม ออสติน ซึ่งออกไปปฏิบัติภารกิจต่างแดนเป็นครั้งแรกในปีนี้หลังเข้ารับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ได้บอกชัดเจนว่าวอชิงตันจะช่วยยูเครนต่อไปได้อย่างไร หากปราศจากงบอุดหนุนเพิ่มเติมจากสภาคองเกรส
เจ้าหน้าที่หลายคนเตือนว่า ท่อน้ำเลี้ยงที่ขาดหายไปกำลังส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในยูเครน โดยกองทัพรัสเซียเริ่มเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกช่วงชิงดินแดนมากขึ้น ในขณะที่ยูเครนต้องบริหารจัดการทรัพยากรอาวุธที่เหลืออยู่ไม่มากนัก
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเรียกร้องไปยังชาติพันธมิตรในวันอังคาร (19) ให้ช่วยส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้ามามากขึ้น โดยระบุว่าเฉพาะเดือนนี้เดือนเดียว รัสเซียยิงขีปนาวุธถึง 130 ลูก ส่งโดรนโจมตีมากกว่า 320 ลำ และระเบิดนำวิถีอีกเกือบ 900 ลูกเข้ามาถล่มดินแดนยูเครน
ระหว่างการแถลงข่าวประจำค่ำคืน ผู้นำยูเครนย้ำว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศยังเป็นปัญหาใหญ่ที่เคียฟกังวลมากที่สุด พร้อมขอบคุณมิตรประเทศที่พยายามช่วยเหลือ “เพื่อให้ความจำเป็นนี้ได้รับการเติมเต็มอย่างเหมาะสม”
รุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครนซึ่งเดินทางไปร่วมการประชุม UDCG ที่ฐานทัพอากาศรัมสไตน์ด้วย โพสต์ข้อความผ่านเทเลแกรมว่า รัฐสมาชิก “ต่างแสดงความเป็นหนึ่งเดียวและมุ่งมั่นในการช่วยเหลือยูเครน กองทัพของเรากำลังขาดแคลนเครื่องกระสุนในระดับวิกฤต และเครื่องกระสุนเหล่านั้นจะถูกส่งให้กับเรา”
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศจะมอบแพกเกจอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครนอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็เตือนว่านี่เป็นเพียง “ความช่วยเหลือพิเศษ” ที่ได้มาจากการเจรจาลดค่าใช้จ่ายในสัญญาบางอย่างของกระทรวงกลาโหมเท่านั้น
แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะหางบเพิ่มเติมในลักษณะนี้ แต่ก็ย้ำว่ามันไม่สามารถทดแทนแพกเกจช่วยเหลือที่ต้องรอการอนุมัติจากสภาคองเกรส
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สิ่งที่ ออสติน พูดนั้นคงจะไม่ช่วยให้ยุโรปหมดความคลางแคลงใจได้
“เป็นเรื่องยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่จะเดินทางไปยุโรป และยืนยันคำสัญญาว่าสหรัฐฯ จะยังคงช่วยเหลือยูเครนในระยะยาว” ราเชล ริซโซ นักวิจัยจากศูนย์ยุโรปประจำสภาแอตแลนติกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ให้ความเห็น
“คำสัญญาเรื่องความช่วยเหลือทางการเงิน การทหาร และเศรษฐกิจในระยะยาว กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีน้ำหนัก เมื่อมองจากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในรัฐสภาแคปปิตอลฮิลล์”
นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนี ระบุในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี โดนัลด์ ทัสก์ แห่งโปแลนด์ โดยทั้งสามต่างย้ำจุดยืนที่จะสนับสนุนยูเครนต่อไป ขณะที่ บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมนี ก็ประกาศว่ารัฐบาลเมืองเบียร์จะมอบแพกเกจอาวุธอีก 500 ล้านยูโร ซึ่งรวมถึงเครื่องกระสุนอีก 10,000 นัดแก่ยูเครน และเชื่อว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นหุ้นส่วนที่พึ่งพาได้
ที่มา : รอยเตอร์