ชิน ว็อน-ซิก รัฐมตรีกลาโหมเกาหลีใต้ เรียกร้องให้ลงมือปลิดชีพคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆในเปียงยางอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่สงครามในคาบสมุทรเกาหลีปะทุขึ้นอีกรอบ
รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ออกคำสั่งในวันพุธ (13 มี.ค.) แจ้งให้กองบัญชาการสงครามพิเศษแห่งกองทัพเกาหลีใต้ ดำเนินการเตรียมการสำหรับกำจัดพวกผู้นำเกาาหลีเหนือในกรณีที่เกิดสงคราม
"ถ้า คิม จองอึน เริ่มสงคราม ในฐานะหน่วยหลักของระบบลงโทษและตอบโต้ขนานใหญ่ของเกาหลี (Korea Massive Punishment and Retaliation - KMPR) คุณต้องเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้มแข็งที่สุดในโลก ในการกำจัดผู้นำของศัตรูอย่างรวดเร็ว" เขากล่าวระหว่างเยี่ยมเยือนหน่วยคอมมานโด ในอินชอน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล
KMPR คือหลักการทางทหารของเกาหลีใต้ สำหรับการโจมตีแก้แค้นทำให้อ่อนแอ ตอบโต้การโจมตีใดๆ ของเกาหลีเหนือ มันเป็นส่วนหนึ่งของระบบ 3 แกนของโซล สำหรับป้องปรามสงครามครั้งใหม่กับเปียงยาง ซึ่งในนั้นรวมถึงการชิงลงมือโจมตีก่อน เพื่อกำจัดแท่นยิงขีปนาวุธหนึ่งๆ ของเกาหลีเหนือ และสอยร่วงขีปนาวุธที่กำลังพุ่งเข้ามา
ทั้งนี้ การเดินทางเยือนกองบัญชาการกองกำลังพิเศษของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ มีขึ้นในขณะที่ทหารของประเทศกำลังอยู่ระหว่างการซ้อมรบ "ฟรีดอม ชิลด์" ร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ
คิม ประณามการซ้อมรบร่วมลักษณะดังกล่าว ว่าเป็นการจำลองการรุกรานเกาหลีเหนือ และยั่วยุสงคราม ในขณะที่ 2 ชาติเกาหลี ในทางเทคนิคแล้วยังคงอยู่ในภาวะสงครามมานานกว่า 7 ทศวรรษ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่ายในช่วงปี 1950-53 จบบลงด้วยการสงบศึก ไม่ใช่ข้อตกลงสันติภาพใดๆ
ในการซ้อมรบล่าสุดระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กองกำลังพิเศษได้ซักซ้อมเกี่ยวกับการแทรกซึมเข้าไปยังศูนย์บัญชาการสำคัญๆและตัดขาดปฏิบัติการเหล่านั้น ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮับ ในขณะที่กองบัญชาการสงครามพิเศษแห่งกองทัพเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับรับมือการยั่วยุต่างๆ มาจากเกาหลีเหนือ ในนั้นรวมถึงการโจมตีก่อการร้าย "เราจะยกพลเข้าไป ปราบปรามพวกเขาอย่างหนักหน่วง และลงโทษพวกเขาจนกว่าจะยุติลง"
นอกจากนี้ ชิน ว็อน-ซิก ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบังเกอร์บัญชาการสงครามหลักแห่งหนึ่งในซองนัม ไม่ไกลจากทางใต้ของกรุงโซล ในวันพุธ (13 มี.ค.) เขาบอกว่าการซ้อมรบร่วมจะช่วยลับคมปฏิบัติการต่างๆ ในการกำจัดภัยคุกคามเครือข่ายนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตั้งแต่เนิ่นๆ และโจมตีศัตรูทั่วทุกขอบเขต ทั้งทางบก ทะเล อากาศ อวกาศ ทางไซเบอร์และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า "เราจำเป็นต้องเสริมความเข้มแข็งแก่แสนยานุภาพของเรา เพื่อที่เราจะสามารถมีชัยเหนือพวกเขา"
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความหนักหน่วงขึ้นในขวบปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการทดสอบขีปนาวุธหลายระลอกของเกาหลีเหนือ และการสำแดงแสนยานุภาพโดยโซลและวอชิงตัน
รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ เคยขู่เมื่อเดือนธันวาคมว่าจะปลดปล่อย "นรกแห่งการทำลายล้าง" ใส่เปียงยาง ถ้าเกาหลีเหนือมีพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดที่กัดเซาะสันติภาพ คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร อันนำมาซึ่งการฉีกข้อตกลงปี 2018 ที่ออกแบบมาเพื่อลดความตึงเครียดด้านทหารแถวเขตปลอดทหาร (DMZ) ในคาบสมุทรเกาหลี
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)