อยากเห็นความโปร่งใส และสิ่งภายใต้ความโปร่งใส ต้องไป “มหกรรมแฟชั่นวีก”
นางแบบเนื้อตัวผอมเพรียวและจอแบนกลมตั้ง กับชุดผ้าโปร่งใสเดินสับบนรันเวย์ เป็นข่าวใหญ่ในมหกรรมเดินโชว์คอลเลกชันเครื่องแต่งกายประจำฤดูกาลเสมอๆ แต่สไตล์โปร่งใส ณ ปารีสแฟชั่นวีก 2024 @PFW มีความโป๊ประเจิดประเจ้อละลานตาเหลือเกิน เว็บข่าวแกลเมอร์แมกกาซีนบอกอย่างนั้น
พร้อมนี้ แกลเมอร์ยังแซวจิกกัดว่า มันราวกับจะมีการส่งบันทึกช่วยจำไปยังทุกคน ตั้งแต่ดีไซเนอร์ ไปถึงนางแบบ และเซเลบริตีที่เข้าชมขบวนเดินสับว่า โปรดเปิดเสรีหัวนมกันให้เต็มที่ ณ บัดนี้เลย แล้วแบรนด์หรูสุดดังก็เฮละโลปล่อยคอลเลกชันชุดสวยด้วยผ้าโปร่งใสไร้ยกทรง ให้นางแบบสวมออกไปเดินโชว์ของ บนรันเวย์ออทั่ม/วินเทอร์ 2024 มีตั้งแต่ แซงต์ โลรองต์ * โคลเอ้ * แอคเน่ สตูดิโอส์ * กุเชร์ * คาซาบลังกา * คูร์เรชส์ * ซีเอฟซีแอล * เซซิลี บาห์นเซน * มาร์ก เพียอัสเซคสกี ฯลฯ
พร้อมนี้ ก็ได้รายงานด้วยว่าสำนักยักษ์ใหญ่อย่าง แซงต์ โลรองต์ คือแชมเปียนจัดเต็มสุดๆ สำหรับแฟชั่นชุดผ้าโปร่งโล่งโถง และส่วนที่เด็ดกว่านั้นคือ มากมายของแขกเข้าชมแซงต์ โลรองต์ แฟชั่นโชว์ พร้อมใจมากันในชุดผ้าโปร่งใสไร้ยกทรง
อาทิ จอร์เจีย เมย์ แจ็กเกอร์ วัย 32 กะรัต ลูกสาวของร็อกเกอร์คนดังระดับตำนาน มิก แจ็กเกอร์ โดย จอร์เจีย เต็มอกเต็มใจโอบรับเทรนด์เปิดเสรีหัวนมมาไว้ในชีวิตส่วนตัว เธอไปร่วมมหกรรมแฟชั่นโชว์ของแซงต์ โลรองต์ ในชุดผืนเอี๊ยมผ้าบางสีดำซึ่งมีลายริ้วทางยาวเป็นหย่อมๆ เพียงพอจะเผยให้เห็นเต้ากลมในมู้ดเบาๆ แล้วเปิดเปลือยหลังเต็มที่ พร้อมกับมีสายคล้องคอสีดำ
คลิปปทุมถันบานสะพรั่งที่แคทวอล์กแห่ง แซงต์ โลรองต์ ออทั่ม/วินเทอร์ 2024 @PFW เน้นตั้งแต่นาทีที่ 1.01 - นาทีที่ 9.30
ด้านเดลิเมลออนไลน์เหน็บแนมวงการนักออกแบบแฟชั่นว่า พวกสำนักยักษ์แฟชั่นจริงจังกับการเล่นงานยกทรงของมนุษยชาติ
“ถ้าคุณคิดว่าวี่แววแนวโน้มแฟชั่นตอนนี้ คือการไม่ใส่อะไรเลยนอกจากกางเกงใน ซึ่งจุดประกายโดยคอลเลกชันปี 2023 ของ มิวมิว Miu Miu ก็ขอบอกว่านี่เป็นอะไรที่ท้าทายกันอย่างยิ่ง และต้องลุ้นรอดูไป” เดลิเมลออนไลน์ทำการวิเคราะห์และทำนายสถานการณ์ของอนาคตเร็วๆ นี้
ในการปล่อยโชว์คอลเลกชันที่แฟชั่นเฮาส์ โคลเอ้ ทำการเดบิวต์เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2024 นั้น ผ.อ.เชมีนา คามาลี แห่งฝ่ายงานดีไซน์ ได้เปิดเผยให้เห็นมากไปกว่าทิศทางใหม่สำหรับ โคลเอ้ แฟชั่นเมซอง กล่าวคือ เธอได้เปิดเผยให้เห็นเต้านมกลมตั้งของบรรดาสาวๆ โคลเอ้ อีกด้วย
โดยมีเต้าประดับจุกที่เห็นได้รำไร บ้างอยู่ใต้ชุดเดรสเนื้อผ้าโปร่งบางแซมด้วยผ้าลูกไม้สีดำ บ้างอยู่ใต้ผ้าลูกไม้เวเนเซียเนื้อดีสีขาว บ้างอยู่ใต้ผ้าชีฟองเบาบางสีโดฟเกรย์
มันให้ความรู้สึกพิเศษของช่วงทศวรรษ 1970 ทศวรรษที่บราเซียร์ถูกมองว่าเป็นของไร้สาระไม่มีความจำเป็นเอามากๆ
กระนั้นก็ตาม แฟชั่นโชว์ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2024 ของโคลเอ้ ยังดูค่อนข้างบริสุทธิ์น่ารัก ไม่อะร้าแอร่มแซ่บร้อนเมื่อเทียบกับแคทวอล์กของ แซงต์ โลรองต์ เพราะดีไซน์ของ แซงต์ โลรองต์ นั้นสวยตะลึง ตรึงทุกสายตาด้วยความบาง ความโปร่งใส เร้าใจเอามากๆ เดลิเมลออนไลน์ชี้ไว้อย่างนั้น และวิเคราะห์อย่างแยบยลดังนี้
“วี่แววแนวโน้มตรงนี้ไม่มีอะไรใหม่หรือเซอร์ไพรซ์ แต่เป็นเทรนด์ที่ยังอยู่ระหว่างสะสมรวบรวมพลังให้เข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเริ่มเห็นผลกันเยอะเลย โดยเฉพาะในช่วงฤดูแจกรางวัล บรรดาแขกเกียรติยศระดับ A-ลิสเตอร์ ล้วนพกความมั่นใจใส่ชุดราตรียาวที่โปร่งใสและบางเฉียบ โดยไม่กังวลว่าของที่นำออกโชว์ต้องเลอเลิศ”
แต่ก็แหม... มันไม่ใช่ความโปร่งบางนะ มันคือ ขั้นสุดของโปร่งใสบางเฉียบกันเลยทีเดียว มีทั้งเสื้อเกาะอกใสแจ๋ว เสื้อเบลาซ์ และชุดผืนเอี๊ยมปิดอกเล็กน้อยโชว์เต้าด้านข้างกับแผ่นหลังผุดผ่องมาก-น้อยตามอัธยาศัย แล้วตรึงกับกายด้วยสายคล้องคอ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ อย่าให้เฉิ่ม ต้องโนบราสถานเดียว!!
มันคือโปร่งบางใสแจ๋วอย่างโหดร้ายสุดๆ –อย่างน้อยก็สำหรับคุณผู้หญิงส่วนใหญ่
ในทางศิลปะและความเป็นเลิศด้านฝีมือตัดเย็บแล้ว ต้องถือว่านี่คือการโชว์แสนยานุภาพชั้นสูงกันเลยทีเดียว ซึ่งคอลเลกชันนี้ของแซงต์ โลรองต์ ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นเลิศด้านการตลาด ที่จะสามารถเอื้อเฟื้อแก่รูปร่างและเรือนกายของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย แซงต์ โลรองต์ จะต้องถูกหักคะแนนฮวบลงมาเยอะเชียว เดลิเมลออนไลน์ชี้ประเด็นอย่างนั้น
ถึงแม้ในระยะหลังๆ นี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นได้ให้สัญญิงสัญญาว่าจะสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้คนได้อย่างทั่วถึง แต่แล้ว... แทบไม่ปรากฏร่องรอยใดๆ ว่า เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงในมิติไหนเลย บนรันเวย์แห่งมหกรรมปารีสแฟชั่นวีก 2024
เรื่องของเรื่องคือ ศิลปินแฟชั่นปารีเซียงเป็นที่เลื่องลือเสมอมาว่ายึดติดเหนียวแน่นอยู่กับความเชื่อเรื่องนางแบบในอุดมคติต้องมีหุ่นผอมเพรียวบอบบางอย่างที่สุด การจะเปลี่ยนความยึดมั่นและความคุ้นเคย คือ ยากขั้นสุด
ตามปากคำและการเก็บข้อมูลของ เฟลิซิตี้ เฮย์เวิร์ด นางแบบพลัสไซซ์ ที่เรียกกันว่า Curve Model คือ เป็นเคิร์ฟโมเดลที่มีโค้งและเว้าอิ่มเอิบแน่นนวล “โค้ง” ออกมาเป็นนมเต็มๆ และเป็นสะโพกผายหนั่นเนื้อและอวบอูม พร้อมกับ “เว้า” เข้าไปเป็นเอวสวยๆ อีกทั้งแผ่นหลังนุ่มแน่น ลาดสอบลงไปหักเว้าที่รอบเอว เพื่อจะแผ่กว้างออกเป็นเนินสะโพกยั่วๆ ให้อยากนำฝ่ามือไปวางพัก สัมผัสอารมณ์อบอุ่นใจ
เฮย์เวิร์ด นางแบบสาวพลัสไซซ์ จัดทำโครงการริเริ่ม ‘Including the Curve’ ที่คอยเฝ้าติดตามว่าในมหกรรมแฟชั่นวีกระดับโลก มีการนำเอานางแบบไซซ์ต่างๆ เข้าร่วมงานอย่างกว้างขวางแค่ไหนในมหกรรมแฟชั่นวีกทั้ง 4 แห่งสำคัญของโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน มิลาน และปารีส
ผลปรากฏว่าฝรั่งเศสเข้าอันดับท้ายสุด โดยมีนางแบบพลัสไซต์เพียงแค่ 28 คนเท่านั้นที่ได้ไปเดินสับบนแคทวอล์ก จากจำนวนขบวนคอลเลกชัน 4,000 ลุคที่ถูกปล่อยออกสู่รันเวย์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ดังนั้น จึงเป็นที่คาดหมายได้ว่าจำนวนโชว์ที่นางแบบพลัสไซซ์จะได้ออกมาเดินอวดบนแคทวอล์กในปีนี้ จะต้องลดต่ำลงไปกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
ณ การแสดงแฟชั่นโชว์ของ โคลเอ้ และแซงต์ โลรองต์ ตลอดจนขบวนแฟชั่นของแบรนด์จากสวีเดนอย่าง แอคเน่ สตูดิโอส์ นั้น ไม่เพียงเหล่านางแบบจะต้องมีหุ่นผอมเพรียวราวกับต้นอ้อต้นกกเท่านั้น แต่พวกเธอยังต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานเต้านมด้วยดินสออีกด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่สาวๆ ส่วนใหญ่ไม่คิดที่จะกลับไปนึกถึงเรื่องนี้กันอีกเลยนับแต่ที่พ้นวัย 13 ปีมาแล้ว เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น โดยหมายถึงวิธีการที่นานานักเรียนหญิงใช้ดินสอวัดขนาดอกของตัวเองว่า เติบใหญ่ถึงไซซ์ที่ต้องใส่บราหรือยัง
อาจมีบางคนโต้แย้งว่าใครๆ ก็สามารถสวมใส่ชุดบางแจ๋วแหววได้ไม่ว่าอยู่ในวัยไหน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว เพราะต้องมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ได้แก่ ขนาดของหน้าอกจะต้องไม่ใหญ่กว่า คัพ เอ หรือบางทีหากจะให้อะลุ้มอล่วยกันสุดๆ ก็ต้องแค่ คัพ บี ในช่วงสเปกตรัมต่างๆ ที่ใกล้มากกับ คัพ เอ เท่านั้น
ประเด็นตรงนี้นี่เลยที่ทำให้แฟชั่นถูกตำหนิว่า ไม่ค่อยจะคำนึงถึงความหลากหลายในเรือนกายสตรี ส่วนพวกสายจิกกัด มองโลกแง่ร้าย ก็ได้ช่องที่จะโจมตี เพราะคัพของสตรีในอังกฤษมีขนาดเฉลี่ยที่ 36D เดลิเมลออนไลน์บอกอย่างนั้น
อาจจะดูว่าหยาบคายไร้สาระที่มาถกเถียงกัน เกี่ยวกับขนาดเต้านมของผู้หญิงที่เหมาะควรกับชุดเสื้อผ้าแบบโปร่งใสไร้ยกทรง แต่ในเมื่อนมต้มที่ถูกตั้งคำถามอยู่นี้ ถูกนำมาสำแดงแก่สายตาสาธารณชน ใครจะรู้สึกในเชิงวิเคราะห์ หรือใครจะระคายใจว่าจะถกแถลงเรื่องนมไร้ยกทรงของฉันกันทำไม ก็ต้องถือว่าเป็นอัตวิสัยของมนุษย์แล้วล่ะ
ในด้านของบรรดาแขกผู้มีเกียรติซึ่งนั่งชมอยู่แถวหน้าติดรันเวย์ของมหกรรมแฟชั่นโชว์ ณ กรุงปารีสนั้น มีไม่น้อยเลยที่ออกจากบ้านมาในชุดผ้าโปร่งโชว์หน้าอกหน้าใจไร้ยกทรง
อาทิ โอลิเวีย ไวลด์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดัง Don’t Worry Darling และผู้อำนวยการสร้างหนังสารคดี ตลอดจนนางแบบและนักแสดง อีกทั้งยังเป็นอดีตคู่รักของหนุ่มฮอตรุ่นหลานน้า นามว่า แฮร์รี สไตล์ โดยโอลิเวีย ไวล์ด มาในชุดที่ดูกระฉับกระเฉงน่ารักชวนมองแนว “เปิดเสรีหัวนม” ของแซงต์ โลรองต์
อันได้แก่ กระโปรงทรงดินสอสีดำ ทับบนบอดีสูทผ้าโปร่งใสไร้ยกทรง สีดำเฉดเดียวกับกระโปรง แลเห็นเต้ากลมสวย สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และอ่อนกว่าวัยของตัวเธอซึ่งอยู่ที่ 39 กะรัตพร้อมลูกสองคน ทั้งนี้ สื่อมากมายหลายค่ายแซวเธอกันครึกครื้น เช่น “โอลิเวียทิ้งยกทรงไว้ที่บ้าน”
แล้วก็ เอลซา อันนา โฮสก์ นางแบบคนดังจากสวีเดน วัย 35 กะรัต ซึ่งทำงานกับแฟชั่นเฮาส์ระดับโลกหลายค่าย รวมทั้งวิคทอเรียส์ ซีเคร็ต เธอไปชมแฟชั่นโชว์ของแซงต์ โลรองต์ ในฐานะแขกรับเชิญของแอนโธนี วักคาเรลโล ดีไซเนอร์เบลเยียม-อิตาเลียน ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียนแฟชั่นของ แซงต์ โลรองต์ โดยเธอสวมเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำลายจุดขาวซึ่งแลลอดเข้าไปเห็นสองเต้าอวบอิ่มได้เพลินๆ
แต่สำหรับแขกวีไอพีที่อายุเกิน 50 มาในชุดก๋ากั่นน้อยกว่า รายเด่นๆ ได้แก่ โมนิคา เบลลุซซี นักแสดงวัย 59 สวมจัมป์สูท ขณะที่ซูเปอร์โมเดล เคต มอสส์ วัย 50 และ ลินดา อีแวนเจลิสตา วัย 58 ต่างสวมเสื้อโค้ตเอาไว้อย่างมาดมั่น เดลิเมลออนไลน์รายงาน พร้อมเมาท์มอยว่า
“กระนั้นก็ตาม บนแคทวอล์ก มันไม่มีความสุภาพเรียบร้อยอะไรแบบนี้เลย เสื้อโค้ต - ถ้าหากปรากฏขึ้นมา ส่วนใหญ่จะถูกคล้องแขนคล้องไหล่เอาไว้อย่างไม่แยแส ราวกับลีลาเยี่ยงนั้นเป็นอะไรที่เข้าท่ายิ่งขึ้นสำหรับการอวดเครื่องแต่งกายผ้าบางใสที่ใส่อยู่”
ตามถ้อยคำของ แอนโธนี วักคาเรลโล ดีไซเนอร์เบลเยียม-อิตาเลียน ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียนแฟชั่นเมซอง แซงต์ โลรองต์ มาตั้งแต่ปี 2016 นั้น เสื้อผ้าสำหรับผู้มีความสำนึกเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง สมควรที่จะไปกันได้กับชุดชั้นในที่บางใส
“ทั้งเปิดเผยและทั้งปิดบังคุณผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน คล้ายการเอ็กซ์เรย์ด้วยไฮเปอร์กราฟฟิก” วักคาเรลโลกล่าว
วักคาเรลโล ทำให้ชีวิตยากลำบากขึ้นไปทั้งสำหรับตัวเองและฝ่ายการผลิต ด้วยการเลือกที่จะทำงานกับพวกผ้าบางใสซึ่งใช้สำหรับตัดถุงน่อง
ทุกท่านที่สวมถุงน่องจะทราบดีว่า ผ้าบางใสแบบนี้พลาดเผลอนิดเดียวก็จะเกิดอาการเส้นด้ายขาดปริเป็นทางยาวได้ภายในสองสามวินาที ดังนั้นทุกท่านย่อมจะเป็นพยานได้ว่า นี่ไม่ใช่วัสดุคงทนอะไรเลย
ดีไซเนอร์ผู้โด่งดังพูดหลังเวทีภายหลังงานโชว์ ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องลำบากที่จะนำเอาพวกเสื้อผ้าบอบบางอย่างนี้มาผลิตกันเป็นแมสโพรดักชัน
ในบรรดาขบวนแฟชั่น 48 ลุค ที่นำมาโชว์คราวนี้ จำนวนมากเลยที่เป็นชุดโปร่งใสเปิดให้เห็นเนื้อนมหนังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งท่านผู้ชมรู้สึกชินตา-เจนใจ ดังนั้นเมื่อถึงตอนท้ายของโชว์ ความเร้าใจแห่งความเปิดเปลือยก็แทบดับสูญ ไร้พลังที่จะช็อกความรู้สึกของผู้ชมไปจนหมดสิ้น
แต่บางที... ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็น
บนพรมแดง ขบวนการรณรงค์เรียกร้องให้พอใจในร่างกายตนเอง-มองเรือนกายตนเองในทางบวก จะได้เห็นเซเลบริตีวัย 20 กะรัตบวกๆ หลายต่อหลายคน เป็นต้นว่า ฟลอเรนซ์ พิว - ดูอา ลิพา - เซนดายา และ เคนดัลล์ เจนเนอร์ พากันต้อนรับเทรนด์โนบราด้วยความเต็มอกเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นการสวมท่อนบนแบบโปร่งใส หรือใส่เสื้อราตรียาวที่เปลือยหลัง
โดยละทิ้งกรอบความคิดโบราณที่สั่งให้ผู้หญิงต้องปกปิดส่วนต่างๆ ของร่างกายที่แตกต่างจากมาตรฐานซึ่งสังคมกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเต้านมที่เล็กและแบนแถมยังเบี้ยวอีกต่างหาก และไม่ว่าจะเป็นกองไขมันที่พอกรอบเอว หรือกระทั่งแผลเป็นอันเกิดจากการผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็งเต้านม
ทั้งนี้ สำหรับบางเซเลบริตีบนพรมแดงอย่าง ฟลอเรนซ์ พิว แล้ว การไม่สวมบราคือการประกาศความคิดเห็นทางการเมือง พอๆ กับการประกาศความคิดเห็นในทางแฟชั่นกันทีเดียว
“การกดให้ผู้หญิงรู้สึกต่ำต้อย โดยคอยวิจารณ์รูปร่างของพวกเธอ เป็นเรื่องที่ทำสำเร็จกันมานานเกินไปแล้ว” ฟลอเรนซ์ พิว ตอบโต้ไว้อย่างนั้นในตอนที่เจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์โหดร้ายมากมาย เมื่อกรกฎาคม 2020 เนื่องจากเธอเป็นนางแบบแฟชั่นในชุดราตรีของวาเลนติโน่แบบโนบรา โดยมีเพียงผ้าโปร่งใสสีชมพูเป็นตัวเสื้อเผยให้เห็นหน้าอกและหัวนมอย่างละเอียดชัดเจน แล้วเธอนำภาพดังกล่าวหลายๆ มุม ขึ้นโพสต์อวดบนอินสตาแกรม
อย่างไรก็ตาม หน้าอกแคระแกร็นของสาวพิว (ซึ่งเป็นทรงสี่เหลี่ยม ค่อนข้างแบน เล็ก ไม่ค่อยจะมีเนื้อนุ่มเนื้อนูน และหัวนมของเธอซึ่งแลเป็นเม็ดแข็งสีน้ำตาลไหม้) ได้รับคำติเตียนอย่างอื้ออึงจากสาธารณชนแห่งโซเชียลมีเดียว่าของอัปลักษณ์ปานนี้นำมาโพสต์ทำไม เสียความรู้สึก
ในการนี้ สาวพิวโต้กลับว่า “พวกคุณสยดสยองกับร่างกายมนุษย์ธรรมดาซะอย่างเหลือเกิน จนกระทั่งไม่สามารถทนมองดูหัวนมเล็กๆ น่ารักสองอันของชั้นซึ่งอยู่ภายใต้ผืนผ้าในแบบที่ไม่ใช่สิ่งเร้าความรู้สึกทางเพศได้เลย”
อย่างไรก็ตาม การยึดกลยุทธ์แห่งการไม่ใส่ยกทรง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการประกาศถึงเสรีภาพอย่างห้าวหาญเสมอไป เพราะสำหรับหลายๆ คน กลยุทธ์โนบราเป็นเพียงอีกหนึ่งวิธีการที่จะทำให้ทุกสายตาพากันมารวมศูนย์อยู่ที่ตัวเธอ ตัวเธอกลายเป็นที่สังเกตกลายเป็นที่จับตา และใครๆ ก็พูดถึงตัวเธอ
ยิ่งในยุคของโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว การเป็นที่จับตาและเป็นที่โจษจันนั่นแหละ คือสิ่งที่หิวโหยกันอย่างเหลือเกิน
เมื่อว่ากันถึงกลยุทธ์เชิงธุรกิจของแฟชั่นเฮาส์ การทำให้นางแบบตกเป็นที่สนใจของสาธารณชนนั้น มันไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่อะไรเลย เมื่อปี 1966 อีฟ แซงต์ โลรองต์ เคยสร้างชื่อเสียงจากการทำให้สังคมรู้สึกช็อก ด้วยการนำเอากระโปรงบางใสมาให้นางแบบสวมใส่แสดงบนแคทวอล์ก พร้อมกับพูดว่า “ไม่มีอะไรงดงามไปกว่าเรือนร่างที่เปลือยเปล่า”
พวกเราบางคนอาจจะร้องขอให้มีดีไซน์ที่ฉีกความจำเจออกไปบ้าง มีความใหม่ความแตกต่างให้สนุกตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง
แต่สำหรับผู้ที่มีขนาดของ คัพ โตเหลือเกิน ผู้ที่ไม่ค่อยจะมั่นอกมั่นใจในตนเอง หรือผู้ที่ไม่มีโชเฟอร์คอยขับรถรับ-ส่งพวกเธอกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยหลังจากไปออกงานกลางคืนจนดึกจนดื่น (ต้องยอมรับว่าชุดบางใสจะนำมาซึ่งผลที่แตกต่างอย่างแน่ๆ เมื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้านดึกๆ) มันมีทางเลือกเหลืออยู่อีกเพียงทางเดียว
นั่นคือ ควรจะตัดใจไม่ใช้กลยุทธ์เย้ายวนชวนมอง ด้วยการยอมสวมบราให้เรียบร้อย เดลิเมลออนไลน์แนะนำด้วยน้ำใสใจจริง เดลิเมลออนไลน์นำเสนอไว้อย่างนั้น
หรือไม่อย่างนั้น หลายคนอาจจะใชวิธีหลีกเลี่ยงโดยมองข้ามเรื่องนี้ไปทั้งหมดเลย เพราะถึงยังไง ก่อนที่คุณจะสามารถทำใจและกล้าเปิดสองเต้าออกสู่สายตาสาธารณชนได้นั้น ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสื้อผ้าแบบมิดชิดและทึบแสง จะต้องวนกลับมาป๊อปปูลาร์กันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนแกลเมอร์เจ้าแม่แฟชั่น ตั้งคำถามชวนคิด - โดยทั่วไป สิ่งที่นำเสนอไว้ในแฟชั่นวีก มักจะกลายเป็นลุคใหม่และเทรนด์ใหม่ของสาวๆ ทั่วโลก - ดังนั้น การสร้างกระแสเปิดเสรีหัวนมในแฟชั่นวีค จะนำไปสู่สถานการณ์ใหม่ที่ว่า ยกทรงจะกลายเป็นเครื่องแต่งกายที่เอาท์อย่างเป็นทางการในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หรืออย่างไร?!?
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: แกลเมอร์ เดลิเมลออนไลน์)