ราคาน้ำมันขยับลง 1% ในวันศุกร์ (8 มี.ค.) ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในจีน ส่วนวอลล์สตรีทซื้อขายผันผวนก่อนปิดลบและทองคำเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจอเมริกา ที่ก่อข้อถกเถียงเกี่ยวกับกรอบเวลาในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 92 เซนต์ ปิดที่ 78.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 82.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในสัปดาห์นี้ จีนชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลกตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2024 ไว้ที่ราว 5% ซึ่งพวกนักวิเคราะห์มองว่าเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานอย่างมากหากปราศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (8 มี.ค.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดลบ นักลงทุนตรึกตรองรายงานการจ้างงานและตัวเลขคนว่างงานที่ล้มเหลวมอบข้อยุติในประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับเมื่อไหร่ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 68.66 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,722.69 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 33.67 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,123.69 จุด แนสแดค ลดลง 188.26 จุด (1.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,085.11 จุด
เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 200,000 ตำแหน่ง ข้อมูลดังกล่าวก่อคลื่นความช็อกไปทั่วตลาด เนื่องจากมันดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังร้อนแรงเกินไป และมอบความชอบธรรมให้เฟดหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ในรายงานดังกล่าวได้มีการปรับแก้ข้อมูลในด้านลบของเดือนก่อนๆ เช่นเดียวกับที่พบว่าอัตราคนว่างงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.7% ในเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 3.9%
ข้อมูลที่ผสมผสานเหล่านี้ไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะเริ่มใช้จุดยืนผ่อนคลายทางการเงิน ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
กระนั้นก็ตาม ราคาทองคำทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่อีกครั้งในวันศุกร์ (8 มี.ค.) หลังข้อมูลคนว่างงานก่อแรงคาดหมายในหมู่นักลงทุนบางส่วนว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 20.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,185.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)