ประเทศยุโรปเหนือใดที่อำนวยความสะดวกประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา จะถูกพิจารณาว่าเป็นเป้าหมายทางทหารโดยชอบธรรม ยามเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างมอสโกกับนาโต จากคำเตือนของ มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางสัปดาห์
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งหมาดๆ ของฟินแลนด์ คุยโวเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าการเข้าเป็นสมาชิกนาโต ได้มอบ "การป้องปรามทางนิวเคลียร์อย่างแท้จริง" แก่ประเทศของเขาในรูปแบบของขีปนาวุธอเมริกา
"คุณไม่จำเป็นต้องมีนักวางแผนด้านการทหาร ก็สามารถเข้าใจได้ว่าจุดประสงค์ดังกล่าวจะเป็นบ่อเกิดของภัยคุกคามโดยตรง และโดยธรรมชาติ มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะถูกนับรวมอยู่ในบัญชีเป้าหมายโดยชอบธรรมในกรณีที่เกิดการปะทะทางทหารโดยตรงระหว่างประเทศของเรากับนาโต" ชาราโควากล่าวระหว่างแถลงข่าวที่เมืองโซชิเมื่อวันพุธ (6 มี.ค.) เกี่ยวกับความคิดเห็นของ สตับบ์ "และเราตระหนักว่า นี่คือข้อเท็จจริงของสิ่งที่สหรัฐฯ และบริวารของพวกเขากำลังผลักดันอย่างแข็งขัน"
ชาคาโรวา กล่าวเน้นว่า การประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ จะทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงของบรรดาประเทศเจ้าบ้านเลวร้ายลง ซึ่งสวนทางกับที่พวกเจ้าหน้าที่บางส่วนคาดหวังไว้
ฟินแลนด์ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซียเป็นระยะทาง 1,300 กิโลเมตร กลายเป็นสมาชิกใหม่ของนาโตเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ในขณะที่ สตับบ์ ซึ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นเดือน กล่าวระหว่างหาเสียงเลือกตั้งว่าเขาจะเปิดกว้างอนุญาตให้อาวุธนิวเคลียร์อเมริกาลำเลียงผ่านดินแดนของฟินแลนด์ แต่ไม่ประจำการในประเทศ
ประธานาธิบดีฟินแลนด์ เรียกอาวุธทำลายล้างนี้ว่าเป็น "เครื่องรับประกันสันติภาพ" และเขาเน้นย้ำจุดยืนดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตามกฎหมายปัจจุบันของฟินแลนด์ ห้ามจัดเก็บและลำเลียงอาวุธนิวเคลียร์ภายในดินแดน
กระนั้นก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม รัฐบาลฟินแลนด์ลงนามในข้อตกลงกลาโหมกับวอชิงตัน เปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงอย่างไม่จำกัดสิ่งปลูกสร้าง 15 แห่งในแผ่นดินของพวกเขา สำหรับใช้จัดเก็บยุทโธปกรณ์ทางทหารและกระสุน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากมอสโก โดย ชาคาโรวา ชี้ในตอนนั้นว่า ข้อตกลงกลาโหมดังกล่าวเปิดทางให้วอชิงตันควบคุมทั่วยุโรปเหนือ ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ฟินแลนด์ในปัจจุบัน ต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเบ็ดเสร็จต่อการเปลี่ยนภูมิภาคแถบนี้จากการเป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้าน กลายมาเป็นหนึ่งในดินแดนแห่งการเผชิญหน้า
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)