หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน วิพากษ์วิจารณ์อเมริกาเที่ยวสรรหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อใช้ล้อมกรอบกดขี่ปักกิ่ง พร้อมกันนั้นก็กล่าวปกป้องความร่วมมือกับรัสเซียเป็นแบบอย่างใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจ นอกจากนั้นยังระบุว่า สงครามในกาซาเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติและความอัปยศอดสูด้านอารยธรรม
เมื่อวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) ระหว่างการแถลงข่าวข้างเคียงการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภาจีน ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในกรุงปักกิ่งขณะนี้ หวังได้กล่าวเล่นงานสหรัฐฯว่า ยังคงมีความรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจีนอย่างผิดพลาดต่อไป ขณะที่คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก็ไม่มีการเติมเต็มกระทำตามอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ยังสรรหาวิธีการใหม่ๆ ไม่หยุดหย่อนเพื่อมากดขี่ข่มเหงปักกิ่งอย่างต่อเนื่อง และรายการของการแซงก์ชั่นจีนตามอำเภอใจฝ่ายเดียวก็ขยายออกไปไม่ได้หยุด โดยสิ่งที่อเมริกาต้องการยัดเยียดว่าเป็นอาชญากรรมที่จีนกระทำนั้น กำลังเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่เหลือเชื่อ
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศชัดเจนว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้เกิดสงครามเย็นยุคใหม่ หรือพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบของจีน หรือสนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวันก็ตามที
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับอเมริกา ดูเหมือนผ่อนคลายลงเล็กน้อย นับตั้งแต่ไบเดนพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดที่ซานฟรานซิสโกเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว กระนั้น มหาอำนาจทั้งสองชาติยังคงมีประเด็นขัดแย้งกันมากมาย ขณะที่อเมริกากำลังจะจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีจุดยืนแข็งกร้าวกับปักกิ่งยิ่งกว่าไบเดน อาจได้กลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย
หวังสำทับว่า จีนคัดค้านการใช้อำนาจครอบงำและการข่มเหงรังแก รวมทั้งจะปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง ตลอดจนถึงผลประโยชน์ของชาติอย่างเข้มแข็ง
เขายังเตือนกลุ่มคนที่พยายามดำเนินการเพื่อให้ไต้หวันเป็นเอกราชว่า จะถูกลบชื่อออกจากประวัติศาสตร์
เกี่ยวกับประเด็นพิพาทในทะเลจีนใต้นั้น หวังยืนกรานว่า ปักกิ่งดำเนินการอย่างเหมาะสมและใช้ความอดกลั้นระดับสูงมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (6) ฟิลิปปินส์กล่าวหาว่าหน่วยยามฝั่งจีนก่อกวนเรือของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ โดยประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส บอกว่า การกระทำของจีนเป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญ และผู้บัญชาการทหารฟิลิปปินส์ขานรับว่า การเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นเลวร้ายที่สุดในรอบสองปี
หวังกล่าวในวันพฤหัสฯว่า จีนจะปกป้องสิทธิ์ของประเทศตามกฎหมาย และเรียกร้องบางชาติที่อยู่นอกภูมิภาคอย่าได้เข้ามายั่วยุให้สถานการณ์บานปลายหรือเลือกข้าง รวมทั้งอย่าทำตัวเป็นผู้ขัดขวางหรือผู้ก่อปัญหาในทะเลจีนใต้ พร้อมยืนยันว่า ในสถานการณ์โลกที่วุ่นวายสับสน จีนจะยังคงเป็นกองกำลังเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความก้าวหน้าของโลก
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับความขัดแย้งในฉนวนกาซา รัฐมนตรีต่างประเทศจีนย้ำการสนับสนุนปาเลสไตน์และการเป็นสมาชิกสหประชาชาติอย่างเต็มรูปแบบของรัฐปาเลสไตน์
เขาเสริมว่า หายนะในกาซาย้ำเตือนว่า โลกไม่อาจเพิกเฉยต่อดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองมายาวนาน เช่นเดียวกับความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์ในการก่อตั้งประเทศเอกราช ตลอดจนความไม่เป็นธรรมที่ชาวปาเลสไตน์ได้รับมายาวนานรุ่นแล้วรุ่นเล่า
หวังสำทับว่า ความขัดแย้งในกาซาเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติและความอัปยศอดสูด้านอารยธรรม
ทั้งนี้ จีนเรียกร้องมาโดยตลอดให้หยุดยิงทันทีนับจากที่สงครามกาซาปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ หวังยังปกป้องความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างปักกิ่งกับมอสโกโดยระบุว่า จีนและรัสเซียได้กำหนดกระบวนทัศน์ใหม่สำหรับความสัมพันธ์ของชาติมหาอำนาจซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับยุคสงครามเย็น
รัฐมนตรีต่างประเทศจีนแจงว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียอิงอยู่กับพื้นฐานการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้า และไม่พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม
ที่ผ่านมามหาอำนาจตะวันตกวิจารณ์ปักกิ่งที่ไม่ยอมร่วมประณามมอสโกกรณีการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นอกจากนั้นแม้จีนยืนยันว่า วางตัวเป็นกลางในสงครามยูเครน แต่ฝ่ายตะวันตกมองว่าปักกิ่งมีความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับมอสโกใกล้ชิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศร่วมมือกันโดยไม่มีข้อจำกัด เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เยือนปักกิ่งไม่กี่วันก่อนที่ประมุขวังเครมลินผู้นี้จะส่งทหารบุกยูเครน
หวังยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่สหภาพยุโรป (อียู) สร้างภาพว่า จีนเป็นศัตรูนั้นไม่เป็นความจริงหรือเป็นไปไม่ได้ ขณะที่บรัสเซลส์พยายามกีดกันการค้าจากปักกิ่งในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี พลังงาน และรถยนต์ไฟฟ้า
(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)