เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมชาวอินเดีย 6 คนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังพยายามลักลอบนำ “แพนด้าแดง” และสัตว์ป่าหายากอีกเกือบร้อยตัว เดินทางออกนอกประเทศไทย
ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊กของกรมศุลกากรระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ กิ้งก่า (Black Throat Monitor อื่นๆ) 29 ตัว งู (Corn Snake, Red Bamboo อื่นๆ) 21 ตัว นก (Bird of Paradise นกแก้วปากใหญ่ อื่น ๆ) 15 ตัว ตะกวด 7 ตัว จิ้งเหลน 4 ตัว กระรอกตาแดง 2 ตัว ค้างคาว 2 ตัว ลิงหัวสำลี (Cotton Top) 2 ตัว เสือปลา 1 ตัว แพนด้าแดง 1 ตัว หมี Sulawesi Bear Cuscus 1 ตัว กบ 1 ตัว และ หนู 1 ตัว รวมทั้งสิ้นจำนวน 87 ตัว โดยของกลางทั้งหมดได้บรรจุซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่กลุ่มผู้โดยสารซึ่งเป็นชาย 5 คน และหญิงอีก 1 คนจะโหลดใต้ท้องเครื่อง และเตรียมเดินทางไปนครมุมไบของอินเดีย
กรมศุลกากรยังได้เผยแพร่ภาพถ่ายสัตว์ที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดไว้ได้ โดยมีแพนด้าแดงซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติถูกใส่เอาไว้ในตะกร้า นกแก้วซึ่งถูกใส่ไว้ในกล่องพลาสติก รวมถึงงูอีกหลายตัวซึ่งอยู่ในถุงผ้า
โฆษกกรมศุลกากรระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร มาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบกับสัตว์ดังกล่าวบางรายการอยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 23 วรรคแรก และมาตรา 112 และเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และมาตรา 92 วรรค 2 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558
ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
BBC รายงานว่าไทยถือเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมต่อสำคัญของเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่า โดยสัตว์เหล่านี้มักจะถูกส่งไปขายในจีนและเวียดนาม ขณะที่อินเดียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นตลาดใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : BBC, FB กรมศุลกากร