ราคาน้ำมันขยับลงเกือบ 1% ในวันอังคาร (5 มี.ค.) จากความคลางแคลงใจว่าจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ นักลงทุนจับตาประธานเฟดให้ข้อมูลกับสภาคองเกรสในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดตลอดกาล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 78.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 82.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้น้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญาขยับลงมากกว่า 1 ดอลลาร์
จีนชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดโลก ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2024 ไว้เพียงราว 5% แม้จะเป็นระดับเดียวกับปีที่แล้วและเป็นไปตามกรอบความคาดหมายของพวกนักวิเคราะห์ แต่ด้วยที่พวกเขาไม่มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาของประเทศ มันจึงสร้างความผิดหวังแก่พวกนักลงทุน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันอังคาร (5 มี.ค.) นักลงทุนเทขายหลังขยับขึ้นต่อเนื่องเมื่อเร็วๆ นี้ และจับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ ลดลง 404.64 จุด (1.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 38,585.19 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 52.30 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,078.65 จุด แนสแดค ลดลง 267.92 จุด (1.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,939.59 จุด
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีความเป็นไปได้ที่จะถูกสมาชิกสภาคองเกรสซักไซ้ว่าเมื่อไหร่ที่ธนาคารกลางแห่งนี้จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยที่ถูกคาดหวังไว้อย่างมาก ครั้งที่เขาเข้าให้ข้อมูลในวันพุธ (6 มี.ค.) และวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี สูงกว่ามากกว่าระดับเป้าหมายระยะยาว 2% ในขณะที่ธนาคารกลางแห่งนี้ต่อสู้กับเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลล่าสุดในภาคบริการเช่นกันในช่วงเย็นวันอังคาร (5 มี.ค.) เพื่อหาสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังคงมีความเข้มแข็งมากน้อยแค่ไหนยามที่ต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยระดับสูง
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (5 มี.ค.) ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความคาดหมายต่อการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,141.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)