จีนตั้งเป้าเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหม 7.2% ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเสริมเขี้ยวเล็บทางทหารที่ทำต่อเนื่องมานานมากว่า 10 ปีภายใต้รัฐบาล สี จิ้นผิง ขณะเดียวกัน ก็มีการปรับมาใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อไต้หวัน
ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับปีที่แล้ว และสูงกว่าเป้าหมายการเติบโตของจีดีพีซึ่งจีนตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5% สำหรับปีนี้
รายงานงบประมาณที่เผยแพร่โดยนายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ระหว่างพิธีเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันนี้ (5 มี.ค.) ยังมีข้อน่าสังเกตตรงที่จีนเลือกตัดคำว่า “การรวมชาติอย่างสันติ” (peaceful reunification) กับไต้หวันออกไป นับเป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนแข็งกร้าวยิ่งขึ้นต่อประเด็นไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งยืนยันว่าเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน
หลี่ หมิงเจียง (Li Mingjiang) ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมจากวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ มองว่าถึงแม้จีนจะกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทว่าเรื่องไต้หวันยังคงเป็นวาระสำคัญที่กระตุ้นให้จีนต้องทุ่มงบประมาณด้านการทหารอย่างจริงจังต่อเนื่อง
“จีนกำลังแสดงให้เห็นว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้าพวกเขาจะยกระดับแสนยานุภาพกองทัพให้ถึงจุดที่การันตีชัยชนะในสงครามได้อย่างแน่นอน หากจำเป็นต้องทำสงครามโดยไม่มีทางเลือก” หลี่ กล่าว
นับตั้งแต่ สี จิ้นผิง ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีและผู้บัญชาการสูงสุดของจีนเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว งบประมาณด้านการทหารของจีนเพิ่มขึ้นจากระดับ 720,000 ล้านหยวนในปี 2013 มาอยู่ที่ 1.67 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละปีเรื่อยมา
งบประมาณกลาโหมของจีนเป็นที่จับตามองทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านและสหรัฐฯ ซึ่งหวาดระแวงเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และการพัฒนาของกองทัพจีนมาโดยตลอด
สถาบันระหว่างประเทศว่าด้วยยุทธศาสตร์ศึกษา (International Institute for Strategic Studies - IISS) คาดการณ์ว่า งบส่วนใหญ่น่าจะถูกนำไปใช้จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ สี ในการยกระดับกองทัพจีนสู่ความทันสมัยเต็มรูปแบบภายในปี 2035 และ IISS ยังระบุด้วยว่าจีนได้ปรับเพิ่มงบกลาโหมต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 แล้ว
แม้เอกสารของจีนจะยังคงเอ่ยถึงการ “รวมชาติ” (reunification) กับไต้หวัน แต่เน้นย้ำว่าจะใช้แนวทาวที่ “หนักแน่น” (firm) เพื่อให้บรรลุซึ่งเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่คำว่า “อย่างสันติ” (peaceful) ที่ถูกระบุไว้ในรายงานฉบับก่อนๆ ถูกตัดทิ้งไป
กระทรวงกลาโหมและสภากิจการแผ่นดินใหญ่แห่งไต้หวันยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของจีน แต่มีคำพูดจากรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวันวันนี้ (5) ว่ากองทัพไทเปมีแผนจัดการซ้อมยิงขีปนาวุธให้ถี่ขึ้นในปีนี้
Wen-ti Sung นักรัฐศาสตร์จาก Global China Hub ในสังกัดสภาแอตแลนติก (Atlantic Council) ยอมรับว่า รายงานงบประมาณของจีนในปีนี้มีการใช้ถ้อยคำที่ “หนักขึ้นพอประมาณ” เกี่ยวกับปัญหาไต้หวัน และดูเหมือนว่าปักกิ่งจะพยายามหาจุดสมดุลระหว่างการอ้างอธิปไตยอย่างแข็งกร้าวกับการประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับพันธมิตรนานาชาติของไต้หวัน
ที่มา : รอยเตอร์