รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ประกาศวันนี้ (4 มี.ค.) ว่าจะเริ่มตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับแพทย์ที่ยังคงเพิกเฉยไม่ฟังคำสั่งเด็ดขาดของรัฐบาลที่ให้เลิกหยุดงานประท้วง และกลับเข้าทำงานตามปกติ
แพทย์ฝึกหัดในเกาหลีใต้ราว 9,000 คน หรือประมาณ 70% ของทั้งประเทศ พร้อมใจกันนัดหยุดงานมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. เพื่อประท้วงแผนของรัฐบาลที่จะเพิ่มโควตารับนักศึกษาแพทย์
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่งขาดแคลนแพทย์ฉุกเฉิน และต้องยกเลิกนัดผ่าตัดคนไข้ไปแล้วเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมายื่นคำขาดให้แพทย์ฝึกหัดเหล่านี้กลับเข้าทำงานภายในวันที่ 29 ก.พ. มิฉะนั้นจะถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ถูกสั่งปรับเงิน และอาจจะถึงขั้นติดคุก
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อยืนยันรายชื่อแพทย์ฝึกหัดที่ไม่กลับเข้าทำงาน และจะใช้มาตรการลงโทษทางกฎหมายและทางวินัยโดยไม่มีละเว้น” โช คยู-ฮง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุในงานแถลงข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์
“ขอให้ทราบไว้ด้วยว่า แพทย์ที่ไม่กลับเข้าทำงานอาจจะเผชิญกับปัญหาร้ายแรงในเส้นทางอาชีพต่อไป”
สำหรับแพทย์ที่เคยหยุดงานประท้วง แต่ยอมกลับเข้าทำงาน โช ระบุว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะพิจารณา “เหตุบรรเทาโทษต่างๆ” ก่อนจะตัดสินใจออกบทลงโทษต่อพวกเขา
พัค มินซู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ออกมาให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลกำลังเตรียมสั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของแพทย์ฝึกหัดราว 7,000 คนที่ยังคงหยุดงานประท้วงอยู่
จนถึงขณะนี้ ทั้งรัฐบาลโซลและประชาคมแพทย์เกาหลีใต้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยอมลดราวาศอกให้กันง่ายๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ (3) แพทย์แดนโสมหลายพันคนได้ออกมาแสดงพลังในกิจกรรมประท้วงใหญ่ซึ่งจัดโดยสมาคมแพทย์แห่งเกาหลี (KMA) ขณะที่องค์กร World Medical Association ซึ่งเป็นองค์กรแพทย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ออกหนังสือประณามรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ “พยายามปิดกั้นเสียงของผู้นำ KMA ที่ผ่านการคัดเลือกมา” พร้อมยืนยันว่าทางองค์กรสนับสนุนสิทธิของแพทย์ที่จะดำเนินมาตรการแบบกลุ่ม รวมถึงการสไตรก์ด้วย
รัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการผลักดันให้วิทยาลัยแพทย์เปิดรับนักศึกษาเพิ่มอีกปีละ 2,000 คน โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
องค์กรแพทย์เตือนว่า แผนปฏิรูปเช่นนี้อาจทำให้คุณภาพด้านการศึกษาและการให้บริการของแพทย์ลดลง ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนชี้ว่าแพทย์กลัวว่าจะถูกลดเงินเดือนและสูญเสียสถานะทางสังคมมากกว่า
ที่มา : รอยเตอร์