รัฐบาลศรีลังกายกเลิกโครงการฟรีวีซ่าระยะยาวให้พลเมืองรัสเซียและยูเครนซึ่งหนีภัยสงครามเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังเกิดกรณีที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งซึ่งมีเจ้าของเป็นคนรัสเซียขึ้นป้ายจัดปาร์ตี “รับเฉพาะคนผิวขาว” จนทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกว่าเจ้าบ้านอย่างพวกเขากำลังถูก “เหยียดเชื้อชาติ”
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ไนต์คลับที่ชื่อ The Sarayka Lounge ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองตากอากาศ Unawatuna ทางตอนใต้ของศรีลังกาได้จัดงานปาร์ตีเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ดันมาเกิดดรามาขึ้นเมื่อโลกโซเชียลมีการแชร์โปสเตอร์ของทางร้านที่เขียนว่า "Face Control: White" ซึ่งสื่อความได้ว่าหากไม่ใช่คนผิวขาว ก็ไม่มีสิทธิเข้างาน
แม้ต่อมาทางร้านจะตัดสินใจเลิกจัดงานปาร์ตีดังกล่าว ทว่าองค์การพัฒนาการท่องเที่ยวศรีลังกา (Sri Lankan Tourism Development Authority - SLTDA) ได้ออกประกาศตามมาติดๆ ว่าจะยกเลิกนโยบายฟรีวีซ่าระยะยาวให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครนหลังวันที่ 23 ก.พ.เป็นต้นไป โดยให้เวลาผ่อนผัน 14 วันจนถึงวันที่ 7 มี.ค.
ทีราน อัลเลส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของศรีลังกา ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครนที่ประสงค์จะพำนักอยู่ต่อจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 50 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการต่ออายุวีซ่า 30 วัน
สถานทูตรัสเซียประจำกรุงโคลัมโบได้ออกมาแถลงจุดยืนหลังเกิดกระแสดรามาเรื่องปาร์ตีคนขาว โดยระบุว่า “รัสเซียขอประณามการเหยียดเชื้อชาติทุกรูปแบบ” พร้อมเตือนพลเมืองหมีขาวให้ปฏิบัติตามกฎหมายและเคารพวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น
ปรียันธา เฟอร์นันโด ประธาน SLTDA ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า หลังจากที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022 ก็มีพลเมืองรัสเซียจำนวนมากหนีการเกณฑ์ทหารเข้าไปศรีลังกา และปัจจุบันคาดว่ายังมีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ที่นั่นประมาณ 300-400 คน
สถิติของรัฐบาลศรีลังกาพบว่า ในปี 2023 มีพลเมืองรัสเซียและยูเครนเดินทางเข้าศรีลังการวมทั้งสิ้นเกือบ 200,000 คน และ 5,000 คน ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับประเทศเล็กๆ แห่งนี้ที่เผชิญพิษเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง และมีหนี้สินต่างประเทศล้นพ้นจนต้องประกาศภาวะล้มละลายเมื่อปี 2022
เศรษฐกิจศรีลังกาเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยขยายตัว 1.6% ในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้วตามรายงานของรอยเตอร์
ที่มา : business insider