เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ให้สัญญาเร่งสอบสวนเต็มรูปแบบ หลังเทปเสียงการหารือลับทางทหารเกี่ยวกับยูเครนถูกปล่อยบนโซเชียลมีเดียรัสเซีย สร้างความขายหน้าใหญ่หลวงให้เบอร์ลิน ขณะที่มอสโกเรียกร้องให้เยอรมนีอธิบายเรื่องนี้ทันที
โฆษกกระทรวงกลาโหมเยอรมนียืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ (2 มี.ค.) ว่ากระทรวงเชื่อว่าบทสนทนาของกองทัพอากาศถูกดักฟัง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เวอร์ชันที่เผยแพร่ออนไลน์ถูกแก้ไขดัดแปลงมาก่อนหรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 มี.ค.) มาร์การิตา ซีโมเนียน ผู้อำนวยการสถานีทีวีอาร์ทีของทางการรัสเซีย ได้โพสต์เทปเสียงความยาว 38 นาที ซึ่งเธออ้างว่า เป็นบทสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่กองทัพเยอรมนีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีไครเมียระหว่างการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันที่ 19 ก.พ.
ในคลิปมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่กองทัพยูเครนอาจใช้ขีปนาวุธทอรัสของเยอรมนี และผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น ประเด็นหารือยังรวมถึงเป้าหมายการโจมตี เช่น สะพานหลักข้ามช่องแคบเคิร์ชที่เชื่อมโยงแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียที่มอสโกเข้าผนวกเมื่อปี 2014 ตลอดจนถึงการใช้ขีปนาวุธที่ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาให้ยูเครน
เคียฟนั้นเรียกร้องมานานแล้วให้เยอรมนีส่งขีปนาวุธทอรัสให้ เนื่องจากสามารถโจมตีเป้าหมายไกลถึง 500 กิโลเมตร แต่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ยังคงปฏิเสธเนื่องจากกังวลว่า อาจทำให้ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม
ผู้นำเมืองเบียร์กล่าวเมื่อวันเสาร์ระหว่างเยือนโรมว่า รายงานดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ดังนั้น รัฐบาลเยอรมนีจึงกำลังเร่งสอบสวนอย่างรอบคอบและเข้มงวด ด้านสถานีเออาร์ดีของเยอรมนีชี้ว่า ข้อมูลที่รั่วไหลดังกล่าวเป็น “หายนะ” สำหรับหน่วยข่าวกรองเยอรมนี
นอกจากนี้ นิตยสารแดร์ สปีเกลของเยอรมนีเช่นเดียวกัน รายงานว่า การประชุมทางวิดีโอดังกล่าวดำเนินการบนแพลตฟอร์มเวเบ็กซ์ ไม่ใช่บนเครือข่ายลับภายในของกองทัพเยอรมนี ขณะที่คอนสแตนติน ฟอน นอตซ์ สมาชิกพรรคกรีน วิจารณ์ว่า เรื่องใหญ่แน่ถ้ารายงานของแดร์ สปีเกลเป็นเรื่องจริง
ขณะเดียวกัน เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในงานประชุมทางการทูตที่ตุรกีเมื่อวันเสาร์ว่า เทปดังกล่าวบ่งชี้ว่า ยูเครนและบรรดาผู้สนับสนุนไม่ต้องการเปลี่ยนแนวทางใดๆ นอกจากต้องการเอาชนะรัสเซียเชิงยุทธศาสตร์ในสนามรบ
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เรียกร้องให้เยอรมนีอธิบายเรื่องนี้ทันที และสำทับว่า การพยายามเลี่ยงการตอบคำถามถือว่ายอมรับผิด
ดมิตรี เมดเวเดฟ รองผู้อำนวยการสภาความมั่นคงของรัสเซีย โพสต์บนแอปเทเลแกรมว่า เยอรมนี ศัตรูเก่าแก่ หันไปคบหาศัตรูตลอดกาลของรัสเซียอีกครั้ง
หากได้รับขีปนาวุธทอรัสของเยอรมนี ยูเครนจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นในการพยายามป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย ซึ่งปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสกัลป์และสตอร์มชาโดว์ที่มีพิสัยการโจมตี 250 กิโลเมตรให้ยูเครน
สัปดาห์ที่แล้ว ชอลซ์ยืนยันว่า ไม่สามารถจัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลและสนับสนุนการติดตั้งระบบอาวุธให้ยูเครนแบบเดียวกับอังกฤษและฝรั่งเศสได้ โดยไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ชัดเจน
ด้านอังกฤษปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการดำเนินการขีปนาวุธ เนื่องจากการใช้ขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์และกระบวนการล็อกเป้าของยูเครนดำเนินการโดยกองทัพยูเครนเอง
นอกจากนั้น มารี-แอกเนส สตาร์ก-ซิมเมอร์มานน์ ประธานคณะกรรมการกลาโหมของรัฐสภาเยอรมนี ยังเผยว่า ชอลซ์ได้รับคำเตือนจากสภาแล้วว่า ไม่ควรจัดหาขีปนาวุธทอรัสให้เคียฟ และเยอรมนีจำเป็นต้องยกระดับการรักษาความปลอดภัยและการต่อต้านข่าวกรองซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีจุดอ่อน
โรดิริก คิสเวตเตอร์ สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นฝ่ายค้านของเยอรมนี เตือนว่า อาจมีเทปเสียงรั่วไหลอีกซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรัสเซีย