เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด คาเมรอน เดินหน้ากดดันฮ่องกงหันมาทบทวนกฎหมายความมั่นคงใหม่ ยืนยันละเมิดต่อเงื่อนไขการส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงเมื่อปี 1997
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (29 ก.พ.) ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด คาเมรอน กล่าวยืนยันว่า กฎหมายความมั่นคงใหม่ของฮ่องกงนั้นละเมิดต่อภาระความรับผิดชอบที่ได้ลงนามไว้กับรัฐบาลอังกฤษเมื่อครั้งเกาะฮ่องกงถูกส่งมอบคืนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ปี 1997
เขาชี้ว่า กฎหมมายใหม่เป็นการจำกัดเสรีภาพการพูด การแสดงความคิดเห็น และสื่อสารมวลชน
ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงสายเหยี่ยว จอห์น ลี ได้เสนอกฎหมายเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาต่อในสิ่งที่เจ้าหน้าที่เมืองเรียกว่า “ช่องโหว่” ในความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกทำให้แข็งแกร่งเมื่อ 4 ปีก่อนหน้าด้วยกฎหมายความมั่นคงอีกฉบับที่ออกมาโดยตรงจากจีนแผ่นดินใหญ่
ระยะเวลา 1 เดือนสำหรับการปรึกษาหารือเพื่อผ่านร่างกฎหมายได้สิ้นสุดลงในวันพุธ (28) และสภานิติบัญญัติฮ่องกงที่เต็มไปด้วยนักการเมืองโปรปักกิ่งคาดว่าจะไฟเขียวผ่านกฎหมายฉบับนี้ในที่สุด
กฎหมายใหม่ที่รู้จักในนามกฎหมายมาตรา 23 (Article 23) มีเป้าหมายไปที่ความผิดต่างๆ ที่ร้ายแรง เป็นต้นว่า กบฏ ยุยงปลุกปั่น ขโมยความลับของรัฐ จารกรรมความลับ และการแทรกแซงจากภายนอก เป็นต้นว่าจากรัฐบาลต่างชาติ
ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า เจ้าหน้าที่กำหนดโทษให้มีความรุนแรงมากขึ้นสำหรับความผิดตั้งใจยุยงปลุกปลั่นและการครอบครองเอกสารการยุยงปลุกปั่น
และมีนักกฎหมายบางส่วนกล่าวว่ามีความวิตกจากการที่มีนักข่าวจำนวนมาก นักเคลื่อนไหวและสำนักข่าวในไม่กี่ปีที่ผ่านมาถูกตั้งข้อหาการยุยงปลุกปั่นก่อนโดนลงโทษจำคุกหรือปิดตัวลง
คาเมรอนแสดงความวิตกไปต่อหลายเนื้อหาที่ปรากฏในกฎหมายโดยชี้ไปว่า “ไม่มีความชัดเจน” และเสี่ยงต่อการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศในฮ่องกงที่อาจถูกกล่าวหาว่า “เป็นการแทรกแซงจากต่างชาติ”
“เจ้าหน้าที่ของผมได้แสดงความวิตกอย่างเป็นการส่วนตัวต่อเจ้าหน้าที่ฮ่องกงและผ่านกระบวนการปรึกษาหารือสาธารณะ” เขากล่าว
“ผมขอเรียกร้องอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลบริหารพิเศษฮ่องกง SAR ให้กลับมาพิจารณาสิ่งเหล่านั้นและการเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงและการปรึกษาหารืออย่างมีความหมายกับประชาชนฮ่องกง” รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษแถลง
ขณะที่สถานทูตอังกฤษในกรุงลอนดอนวันพฤหัสบดี (29) ออกมาตอบโต้ต่อข้อกล่าวหาที่ฝ่ายสถานทูตชี้ว่าไม่มีมูลแม้แต่น้อย
พร้อมกันนี้ยังเสริมต่อว่า กฎหมายภายในฮ่องกงนั้นสอดคล้องไปกับกฎหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติในประเทศต่างๆ และภูมิภาค” พร้อมกันนี้ยังชี้ว่าคำประกาศที่รัฐมนตรีต่างประเทศอ้างถึงไม่ได้ให้สิทธิอังกฤษเข้ามาแทรกแซงในกิจการฮ่องกงแต่อย่างใด