นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียดำน้ำลงไปสักการะซากเมืองทวารกา (Dwarka) เมืองโบราณศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าจมอยู่ใต้ทะเลอาระเบียนอกชายฝั่งรัฐคุชราต เมื่อวันอาทิตย์ (25 ก.พ.) โดยผู้นำอินเดียยังนั่งทำสมาธิใต้น้ำ และนำขนหางนกยูงไปถวายเป็นเครื่องสักการะด้วย
กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่ โมดี ไปเยือนรัฐคุชราตเป็นเวลา 2 วันเพื่อทำพิธีเปิด Sudarshan Setu สะพานแขวน-ยาวที่สุดของอินเดียซึ่งมีระยะทางถึง 2.32 กิโลเมตร รวมถึงโครงการพัฒนาอื่นๆ อีกหลายโครงการ
นักดำน้ำมืออาชีพหลายคนช่วยประกบดูแลไม่ห่างขณะที่ผู้นำอินเดียในวัย 73 ปี ดำลงไปยังซากเมืองโบราณ โดย โมดี เลือกที่จะสวมใส่ชุดประเพณีของชายอินเดีย และมีเพียงหมวกสำหรับดำน้ำ (diving helmet) ครอบศีรษะเท่านั้น
ระหว่างที่อยู่ใต้ทะเล โมดี ได้ประนมมือสวดมนต์และภาวนาในท่านั่งขัดสมาธิอยู่ที่ก้นทะเล และยังได้นำขนหางนกยูงถวายเป็นเครื่องสักการะแก่ “พระกฤษณะ” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองทวารกาด้วย
ผู้นำอินเดียกล่าวกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญหลังกลับขึ้นไปบนเรือว่า “สำหรับผมมันเป็นเรื่องของความศรัทธามากกว่าความกล้าหาญ”
โมดี ยังได้โพสต์ภาพถ่ายตนเองขณะอยู่ใต้น้ำลงบนแพลตฟอร์ม X และกล่าวว่า “การได้ลงไปสวดมนต์ที่เมืองทวารกาซึ่งจมอยู่ใต้น้ำถือเป็นประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ผมสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณในยุคโบราณ และการอุทิศตนที่ไร้กาลเวลา ขอองค์พระกฤษณะโปรดประทานพรแก่เราทุกคน”
สำหรับเมืองทวารกานั้นเป็นเมืองที่มีความเชื่อมโยงกับพระกฤษณะซึ่งเป็นอวตารหนึ่งของพระนารายณ์ตามเทพปกรณัมฮินดู และเชื่อกันว่าเมืองแห่งนี้ถูกน้ำทะเลท่วมเมื่อหลายร้อยปีก่อน หลังจากที่พระกฤษณะได้ทรงจากโลกนี้ไป
ในวันอาทิตย์ (25) โมดี ยังได้ทำพิธีเปิดสะพาน Sudarshan Sethu ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเกาะ Beyt Dwarka กับเมือง Okha ริมชายฝั่งรัฐคุชราต และยังร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการพัฒนาอื่นๆ
ที่มา : live mint