เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ประชาชนเมียนมาร์ตัดสินใจหลบหนีแห่เข้าไทยหลังมีคำสั่งบังคับเกณฑ์ทหารชาย 18 ปี – 35 ปี สถานทูตไทยในเมืองร่างกุ้งมีเมียนมาร์ไม่ต่ำกว่า 7,000 คนขอวีซ่าบินเข้าประเทศ ผู้เชี่ยวชาญสิทธิมนุษยชนประจำ UN ชี้รบ.ทหารพม่ากำลังลำบากในสงครามกลางเมือง ล่าสุดจับโรฮิงญาในค่ายเข้าเกณฑ์ทหารส่งไปรบ
เอพีรายงานวานนี้(24 ก.พ)ว่า สถานการณ์ล่าสุดภายในพม่าพบมีประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มอายุน้อยที่เข้าเกณฑ์เป็นจำนวนมากต้องการหลบหนีออกนอกประเทศ หลังรัฐบาลรัฐประหารพม่าออกคำสั่งบังคับเกณฑ์ทหารให้ได้ 5,000 คน/เดือน โดยตั้งเป้าจะเริ่มเรียกชุดแรกหลังวันปีใหม่พม่าหรือช่วงวันสงกรานต์ของไทยกลางเดือนเมษายนที่จะถึง
เวลานี้กองทัพพม่ายังไม่มีเป้าหมายเรียกเกณฑ์ผู้หญิงร่วม โดยตามคำสั่งที่ออกมาจากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่ายนั้นชายอายุระหว่าง 18 ปี – 35 ปีและหญิงอายุระหว่าง 18 ปี -27 ปีเข้าข่ายต้องถูกเกณฑ์เข้ากองทัพ
เอพีรายงานว่า ถนนด้านหน้าสถานทูตไทยในเมืองร่างกุ้งเวลานี้แน่นขนัดไปด้วยประชาชนพม่าที่รอต่อแถวเพื่อขอบัตรคิวสำหรับการยื่นเรื่องขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศ
สถานทูตไทยประกาศจะรับนัดหมายขอวีซ่าแค่ 400 คน/วัน และการนัดหมายต้องทำทางออนไลน์เท่านั้น
อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศไทยพบว่ามีชาวพม่าจำนวนราว 7,000 คนได้ยื่นขอวีซ่าเพื่อบินเข้าไทย อ้างอิงจากสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(22)
สถานทูตไทยกล่าวว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางพม่าสามารถใช้วีซ่าท่องเที่ยวอยู่ในไทยได้นาน 14 วัน
แหล่งข่าวภายในพม่าเปิดเผยว่า จำนวนชาวพม่าที่ยืนรอต่อคิวเพื่อขอวีซ่าในเมืองร่างกุ้งมีราว 1,000 คนในแต่ละวัน
หนังสือพิมพ์ไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานก่อนหน้าว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ออกมาเตือนเสียงเข้มไปถึงพลเมืองพม่าหากหนีข้ามแดนเข้าไทยผิดกฎหมายจะถูกลงโทษตามกฎหมายไทยและเขาได้หารือประเด็นพม่าเข้าไทยกับหน่วยงานความมั่นคงไทยหลายหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้ว
แต่ทว่าในเวลาเดียวกันเศรษฐายังคงยืนยันว่า การที่มีประชาชนพม่าหนีเข้าไทยจะไม่กระทบต่อการเข้ามาแย่งงานในไทย ผู้นำไทยยืนยันว่าตัวเลขการว่างงานไทยต่ำกว่า 1% และอีกทั้งไทยยังคงต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมขอให้เดินทางเข้ามาอย่างถูกช่องทาง
เอพีชี้ว่า แต่ละวันที่สำนักงานหนังสือเดินทางพม่าในเมือง มัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชาชนชาวพม่าราว 4,000 คน – 5,000 คน เข้าคิวเพื่อขอบัตรคิวนัดหมายจำนวน 200 คน – 250 คนในแต่ละวัน และมีการบาดเจ็บ 1 คนหลังพยายามที่จะเข้าคิวให้ได้เป็นคนแรกในช่วงเช้ามืด
หนึ่งในพลเมืองพม่าที่ต้องการขอวีซ่าเข้าไทยเป็นนักแปลประจำหนังสือพิมพ์วัย 32 ปีจากร่างกุ้งเปิดเผยกับเอพีว่า เขาตัดสินใจทันทีที่จะเดินทางออกนอกพม่าบินเข้าไทยหลังคำสั่งเกณฑ์ทหารออกมา
นักแปลประจำหนังสือพิมพ์พม่าเปิดเผยว่า ตัวเองมีความวิตกมากเพราะหากถูกส่งตัวเข้ากองทัพไปแล้วจะไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้เหมือนเช่นลุงของเขาที่เข้าสู่กองทัพพม่า แต่กลับไม่สามารถลาออกได้หลังจากทำงานในกองทัพนานกว่า 40 ปี
ขณะเดียวกันนักข่าวพม่าวัย 26 ปีรายงานข่าวแบบลับๆในมัณฑะเลย์ยืนยันว่า คำสั่งเกณฑ์ทหารทำให้สถานการณของเขายากลำบาก
เอพีรายงานว่ามีนักข่าวไม่ต่ำกว่า 150 คนโดยจับกุมหลังกองทัพเมียนมาร์ทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของอองซานซี
และมากกว่า 1 ใน 3 ของนักข่าวที่โดนจับยังคงอยู่ในเรือนจำมาจนถึงปัจจุบัน อ้างอิงจากกลุ่มนักข่าวไร้พรมแดนที่มีฐานอยู่ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส
นักข่าวพม่าวัย 26 ปีรายนี้เปิดเผยกับเอพีกล่าวว่า เขากำลังวางแผนหนีเข้าไทยเช่นกัน
ด้าน โม คยอว์ (Moe Kyaw) จากสมาพันธ์สิทธิแรงงานพม่า Yaung Chi Oo Workers Association-Thailand เปิดเผยว่า มีชาวพม่าในวัยทำงานไม่ต่ำกว่า 1,000 คนนั้นเชื่อว่าข้ามพรมแดนเข้าสู่ไทยทุกวัน
เขายืนยันว่า “ไม่สัญญาณที่ดีที่เห็นทรัพยากรมนุษย์และปัญญาชนหนีออกนอกประเทศ”
.
ขณะเดียวกัน ทอม แอนดรูวส์ (Tom Andrews) ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติวันพุธ(21)ออกมาชี้ผ่านเว็บไซต์ทางการขององค์การสหประชาชาติว่า รัฐบาลทหารพม่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากจากการที่ออกคำสั่งเกณฑ์ทหารประชาชนให้ได้ 60,000 คน/ปีส่งเข้ากองทัพเพื่อสู้รบในสงครามกลางเมืองกับชนกลุ่มน้อย
แอนดรูว์สแถลงว่า คำสั่งเกณฑ์ทหารนี้แสดงสัญญาณออกมาว่า รัฐบาลทหารพม่ากำลังนี้แสดงให้เห็นว่า กำลังอ่อนแอและสิ้นหวัง รัฐบาลกำลังเป็นภัยคุกคามมากขึ้นต่อพลเมืองของตัวเอง เขาเรียกร้องให้นานาชาติใช้มาตรการแรงขึ้นต่อเมียนมาร์เพื่อปกป้องประชาชนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงทั่วประเทศ
เรดิโอฟรีเอเชีย RFA ของสหรัฐฯ รายงานวันพฤหัสบดี(22)ที่ผ่านมาว่า พบชาวพม่ากว่า 160 คนหลบหนีหมายเกณฑ์ทหารโดนจับได้ที่จ.ตากซึ่งมีพรมแดนติดพม่า
โดยมีลำธารสายเล็กๆเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่าง 2 ชาติ ตำรวจอำเภอพบพระของจ.ตากเปิดเผยกับ RFA ว่า มีชาวพม่าเป็นจำนวนมากใช้จุดนี้แอบข้ามแดนเข้ามา
RFA รายงานต่อว่า กองทัพพม่ากำลังยากลำบากและต้องการหากำลังพลเพิ่ม ล่าสุดบุกเข้าไปในค่ายมุสลิมโรฮิงญาเพื่อเรียกเกณฑ์กำลังพล
ผู้ที่อาศัยในค่ายมุสลิมโรฮิงญา Kyauk Ta Lone IDP ในเมืองเจาะพยู (Kyaukphyu) รัฐยะไข่ให้ข้อมูลกับ RFA ของพม่าว่ากองกำลังรัฐประหารพม่า และเจ้าหน้าที่เมืองและกองบัญชาการปฎิบัติการของกองพลทหารราบเบาเมียนมาร์ที่ 542 ได้เข้าสำรวจค่ายมุสลิมโรฮิงญาเพื่อต้องการเกณฑ์กำลังพล
พบมีการทำบัญชีโรฮิงญาได้กว่า 60 คนที่เจ้าเกณฑ์และแจ้งแก่คนเหล่านั้นว่า คนเหล่านั้นต้องเข้าการฝึกซ้อมทางการทหารเป็นเวลา 2 สัปดาห์ อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่อาศัยอยู่ในค่ายโรฮิงญา
