หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) เผยสหรัฐฯ เตรียมส่งระเบิดและอาวุธอื่นๆ ไปช่วยเติมเต็มคลังแสงให้อิสราเอล แม้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาก็ตาม
รายงานของ WSJ ซึ่งอ้างว่าได้ข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบันระบุว่า อาวุธที่อเมริกาจะส่งให้อิสราเอลมีทั้งระเบิด MK-82 และวัตถุระเบิดเพื่อใช้โจมตีร่วม (JDAM) KMU-572 ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์นำวิถีที่สามารถแปลงระเบิดทั่วไปให้กลายเป็นระเบิดแบบ “สมาร์ทบอมบ์” รวมถึงระบบชนวนระเบิด FMU-139 ซึ่งทั้งหมดนี้มีมูลค่ารวมกัน “หลายสิบล้านดอลลาร์”
รายงานระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างทบทวนแผนจัดส่งระบบอาวุธเหล่านี้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก จนกว่าวอชิงตันจะส่งหนังสือแจ้งไปยังเหล่าประธานคณะกรรมการสภาคองเกรสเพื่อขอการอนุมัติส่งออก
กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รวมถึงกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) และกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ยังไม่ออกมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับรายงานชิ้นนี้
จนถึงเดือน ธ.ค. ปี 2023 รัฐบาล ไบเดน ได้ใช้อำนาจฉุกเฉินส่งออกอาวุธให้อิสราเอล โดยไม่ผ่านขั้นตอนการอนุมัติของสภาคองเกรสมาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยกัน
สหรัฐฯ โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ยังคงส่งอาวุธช่วยอิสราเอลไม่หยุดหย่อน ทั้งที่มีเสียงร้องเรียนว่าอาวุธจากอเมริกากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีและเข่นฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในกาซา
สงครามใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ปะทุขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสซึ่งกุมอำนาจปกครองกาซาบุกโจมตีภาคใต้ของอิสราเอล และสังหารผู้คนไปราว 1,200 คนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว อีกทั้งยังจับพลเมืองอิสราเอลและต่างชาติไปเป็นตัวประกันอีก 257 คน
กองทัพอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินมานานกว่า 4 เดือน ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 28,775 คน และยังทำให้ประชากรกาซาที่มีอยู่กว่า 2 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตาย
ที่มา : รอยเตอร์