xs
xsm
sm
md
lg

‘เซเลนสกี’เปลี่ยนตัว ผบ.สูงสุดกองทัพยูเครนตามคาด แต่เขาจะได้อะไรจริงๆ จากการกระทำเช่นนี้?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สตีเฟน ไบรเอน


พลโทโอเลคซานดร์ ซีร์สกี ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพยูเครนคนใหม่ (กลาง-ซ้าย) สวมกอดทักทายอดีตผู้บัญชาการ พลเอกวาเลรี ซาลุจนี (กลาง-ขวา) ในงานมอบรางวัลให้แก่สมาชิกในกองทัพยูเครน ณ ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนในกรุงเคียฟ (ภาพนี้ถ่ายและเผยแพร่โดยสำนักงานสื่อมวลชน ของทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 9 ก.พ.)
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Zaluzhny out, Oleksandr Syrsky in, to what purpose?
By STEPHEN BRYEN
09/02/2024

เซเลนสกีที่เคยเป็นนักแสดงตลกทางทีวีก่อนลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน โดยมิได้เคยมีประวัติประสบการณ์ด้านการทหารใดๆ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครน เพื่อที่เขาจะได้สามารถสั่งการต่างๆ ในสมรภูมิได้ตามใจปรารถนา
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี สุดท้ายแล้วก็ประสบความสำเร็จสามารถปลดพลเอกวาเลรี ซาลุจนี (Valery Zaluzhny) ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครน ตามรายงานข่าวที่ออกมาจากกรุงเคียฟ ในครั้งนี้ซาลุจนียอมรับคำสั่งและกล่าวขอบคุณชาวยูเครนสำหรับความเสียสละของพวกเขา มาถึงตอนนี้เซเลนสกีจะต้องปลดพวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูงส่วนใหญ่ในกองทัพซึ่งจับกลุ่มเป็นพันธมิตรอยู่กับซาลุจนี กระนั้น การที่เขาเลือก (พลโท)โอเลคซานดร์ ซีร์สกี (Oleksandr Syrsky) ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนที่ ต้องถือว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะ ซีร์สกี กับ ซาลุจนี เป็นเพื่อนกัน

ในอีกด้านหนึ่ง ซีร์สกีไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือในเรื่องการมีชัยชนะในศึกสงคราม เขาเป็นนายพลที่เคลื่อนไหวช้าๆ และมีอายุมากกว่าคนอื่นๆ (ซีร์สกีอยู่ในวัย 58 ปี ขณะที่ซาลุจนีอายุ 50 ปี) โดยที่ก่อนได้เลื่อนตำแหน่งคราวนี้ เขาเป็นผู้บังคับบัญชาทหารภาคพื้นดินของยูเครน แล้วก็เป็นพวกหน่วยทหารภาคพื้นดินนี่แหละที่กำลังประสบความพ่ายแพ้สูญเสียตามแนวเส้นปะทะระหว่างฝ่ายยูเครนกับฝ่ายรัสเซีย

ไม่มีใครสามารถพูดอออกมาอย่างมั่นใจว่า เซเลนสกีจะได้อะไรจากการปลดซาลุจนี และตั้งซีร์สกีขึ้นแทนในครั้งนี้ แน่นอนทีเดียว เคียฟกำลังประณามว่าการรุกตอบโต้ที่ประสบความล้มเหลวนั้นเป็นความผิดของซาลุจนี นอกจากนั้นเซเลนสกียังกำลังเตรียมพร้อมเพื่อประณามซาลุจนีเช่นกัน สำหรับการสูญเสียเมืองอัฟดิอิฟกา (Avdiivka) (ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้)

ทีมผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูงทีมใหม่ จะสามารถสร้างความแตกต่างอะไรได้แน่หรือไม่ ยังเป็นเรื่องยากที่จะพูดให้แน่ชัดลงไป เซเลนสกีปลดซาลุจนีเพื่อที่เขาจะได้สามารถสั่งการในสมรภูมิได้อย่างเต็มที่

แต่เซเลนสกีไม่ได้มีภูมิหลังทางการทหารใดๆ เลย ก่อนลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาเป็นนักแสดงตลกทางทีวี

วอชิงตันตอนแรกไม่เห็นชอบด้วยกับการโยนซาลุจนีลงถังขยะ เนื่องจากพิจารณาว่าเขาเป็นผู้นำทางทหารที่มีความสามารถและเอาจริงเอาจัง (อย่างที่ฝ่ายรัสเซียก็เห็นเช่นเดียวกัน) การปลดซาลุจนี หากพิจารณาเทียบกับระบบของสหรัฐฯแล้ว ก็เหมือนกับการปลดประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม

สิ่งที่กำลังแอบแฝงซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังของความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านี้ ได้แก่ร่างกฎหมายเกณฑ์ทหารฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาเข้มงวดดุดันมาก เวลานี้ร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาของ เวอร์โคฟนา ราดา (Verkhovna Rada) หรือรัฐสภายูเครน ในวาระแรกไปแล้ว [1] สัปดาห์หน้า ราดาจะประชุมพิจารณาในวาระสอง แล้วจากนั้นมันก็จะถูกส่งไปให้เซเลนสกี เพื่อลงนามประกาศใช้

ซาลุจนีนั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ความสนับสนุนกฎหมายเกณฑ์ทหารนี้ และเขาปฏิเสธเช่นกันไม่ขอเดินทางไปยังราดา เพื่อใช้อิทธพลเกลี้ยกล่อมผลักดันพวกสมาชิกรัฐสภาให้ผ่านมันออกมาบังคับใช้

ภาพที่ถ่ายและเผยแพร่โดยโดยสำนักงานสื่อมวลชน ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 แสดงให้เห็นประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จับมือกับพลเอกวาเลรี ซาลุจนี ที่ตอนนั้นยังเป็นผู้บัญชาการกองทัพยูเครน ขณะทั้งคู่พบหารือกันในกรุงเคียฟ
นอกเหนือจากพวกที่เดินทางออกไปนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว (โดยที่ตอนนี้ชายแดนก็ถูกสั่งปิดไม่อนุญาตให้ชายที่อยู่ในวัยเกณฑ์ทหารเดินทางไปต่างประเทศแล้ว) กฎหมายฉบับใหม่นี้จะส่งผลกระทบถึงพวกชนชั้นนำของยูเครน หรือบรรดาลูกหลานของชนชั้นนำเหล่านี้ นี่น่าที่จะก่อให้เกิดแรงกระแทกกลับอย่างมหาศาลย้อนมาที่กรุงเคียฟ มีรายงานว่าสมาชิกราดาบางคนได้ออกจากประเทศไปแล้วหรือไม่ก็กำลังวางแผนเดินทางออกนอกประเทศ โดยสามารถสันนิษฐานได้ว่าพวกเขาก็ต้องการที่จะปกป้องคุ้มครองครอบครัวของพวกเขาเช่นเดียวกัน ถ้าหากเซเลนสกีบังคับใช้มาตรการแซงก์เอากับชนชั้นนำเหล่านี้อย่างจริงจังแล้ว เขาก็น่าจะพบว่าวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาต้องหดสั้นลงอย่างน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว

ชนชั้นนำในยูเครนยังต้องเผชิญกับการท้าทายอย่างอื่นๆ อีก การขาดแคลนเงินสนับสนุนจากพวกประเทศนาโตในระดับหลายพันหลายหมื่นล้านดอลลาร์อย่างในเวลานี้ หมายความว่าจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือน เงินบำนาญ และผลประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ข้าราชการลูกจ้างรัฐบาล ตลอดจนให้แก่ฝ่ายทหาร ขณะที่สหภาพยุโรปมีความพรักพร้อมแล้วสำหรับการเจียดเงินทองบางส่วนให้แก่ยูเครน (ในช่วงเวลา 4 ปีข้างหน้า) ทว่าอียูก็ยังจำเป็นจะต้องหาเงินจำนวนดังกล่าว โดยที่ต้องมีการแบ่งสรรกะเกณฑ์เอามาจากพวกรัฐสมาชิกของตนนั่นเอง ดังนั้นมันยังจะต้องเผชิญกับความยุ่งยากต่อไปอีก
(หมายเหตุผู้แปล – คณะมนตรีแห่งยุโรป European Council ซึ่งเป็นที่ประชุมของบรรดาผู้นำรัฐสมาชิกอียู ตกลงกันได้แล้วในการประชุมวิสามัญเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เรื่องจัดสรรงบช่วยเหลือยูเครนจำนวน 50,000 ล้านยูโรในช่วง 4 ปีข้างหน้า และจากนี้ไปต้องมีการจัดทำรายละเอียดว่ารัฐสมาชิกแต่ละรายต้องแบ่งรับรับผิดชอบจำนวนเท่าใด ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.consilium.europa.eu/en/meetings/european-council/2024/02/01/)

ทางด้านสหรัฐฯนั้น มีแนวโน้ม “กำลังมาแรง” ด้วยเช่นกันที่จะไปสู่การผ่านร่างกฎหมายในบางลักษณะในวุฒิสภาเพื่อช่วยเหลือยูเครน ทว่าจะถึงขั้นสามารถผ่านตลอดออกจากทั้งสองสภาได้หรือไม่นั้นยังคงไม่มีความแน่นอน น่าจะเป็นไปได้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะดึงเรื่องลากยาวการอนุมัติเรื่องนี้ออกไปก่อนขณะที่สิ่งต่างๆ กำลังอยู่ระหว่างคลี่คลายเผยโฉมให้เห็นกันชัดเจนยิ่งขึ้นในยูเครน

สำหรับสถานการณ์ในสมรภูมินั้น ฝ่ายรัสเซียยังคงเป็นฝ่ายรุกคืบมีความได้เปรียบ และผลักดันการโจมตีตอบโต้ของฝ่ายยูเครนให้ถอยหลังกลับไป

อัฟดิอิฟกาเวลานี้แทบถูกแบ่งออกเป็นสองครึ่ง และพวกที่มั่นของฝ่ายยูเครนในเมืองนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเป็นอาคารสูงๆ กำลังถูกทหารยูเครนวางกับระเบิดเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะถอนตัวถอยออกไป เมืองนี้มีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากมันอยู่ใกล้มากติดกับเมืองโดเนตสก์ และถัดไปจากอัฟดิอิฟกา มันก็ไม่ได้มีแนวป้องกันอะไรมากมายแล้ว
(โดเนตสก์เป็นเมืองเอกของแคว้นชื่อเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของฝ่ายรัสเซียแล้ว ทั้งนี้แคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์รวมกันก็คือภูมิภาคดอนบาส ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Donbas -ผู้แปล)

มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกันที่รัสเซียจะเปิดการรุกขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก บางทีจะเป็นการบุกในทิศทางมุ่งสู่เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ) มีรายงานว่ากองทหารใหม่ของรัสเซียจำนวนราว 40,000 คนได้จัดวางกำลังกันแล้วเพื่อปฏิบัติการสิ่งที่อาจจะเรียกได้อย่างถูกต้องที่สุดว่า เป็นการรุกระดับย่อยๆ

ทางเลือกอีกทางหนึ่งคือ ฝ่ายรัสเซียอาจตัดสินใจรุดหน้าไปทางกรุงเคียฟ พวกเขาเวลานี้ก็ได้เพิ่มการโจมตีด้วยจรวดซึ่งรวมถึงการถล่มกรุงเคียฟด้วย [2] และถ้ากองทัพยูเครนเริ่มทำท่ายันไว้ไม่ไหว ฝ่ายรัสเซียก็จะทุ่มกำลังทหารมากขึ้นอีกเข้าไปในการสู้รบซึ่งมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เคียฟ

ซาลุจนี อาจจะตัดสินใจลงมือก่อน เวลานี้เขาคงจะได้รับฟังข้อเสนอแนะจำนวนมากให้เข้ายึดประเทศเอาไว้ ซีร์สกีไม่น่าที่จะต้องการปกป้องเซเลนสกีหรอก และพวกกองกำลังอาวุธชำนาญพิเศษ บางส่วน (อย่างเช่น หน่วยอาซอฟ Azov, หน่วยคราเคน Kraken) ก็น่าที่จะถูกจัดวางกำลังเอาไว้ป้องกันรัสเซียในทิศทางคาร์คิฟ ทำให้ถอนตัวออกมาทำอะไรอย่างอื่นได้ลำบาก นอกจากนั้นฝ่ายรัสเซียยังอาจจะเริ่มการโจมตีซึ่งพุ่งเป้าเจาะจงไปที่พวกเขา เพื่อหาทางทำให้หน่วยพิเศษเหล่านี้อ่อนแอลงก่อนการรุกใหญ่ครั้งใหม่ใดๆ

ในกรุงเคียฟเวลานี้มีเสียงคำรามแสดงความไม่พอใจกันมากมายทีเดียว พวกนักการเมืองที่เคยปิดปากเงียบระหว่างสงคราม ในเวลานี้ต่างกำลังออกมาพูดว่าพวกเขาสามารถแทนที่เซเลนสกีได้ นายกเทศมนตรีเคียฟ วิทาลี คลิตชโก (Vitali Klitschko) กำลังกล่าวหาเซเลนสกีว่าทำตัวเป็นจอมเผด็จการ ชาวยูเครนที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ยูเลีย ทิโมเชนโก (Yulia Tymoshenko) กำลังเริ่มแสดงตัวเหมือนเป็นผู้ลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ถึงแม้ว่าเซเลนสกีเตรียมการที่จะขยายเวลาการประกาศใช้กฎอัยการศึกออกไปอีก ซึ่งจะทำให้สามารถเลื่อนการจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีออกไปก่อน [3]

วอชิงตันเวลานี้ทราบแล้วว่า อย่างดีที่สุดที่จะสามารถวาดหวังได้ก็คือว่า สงครามยังจะดำเนินต่อไป และฝ่ายรัสเซียประสบความล้มเหลวในความพยายามที่จะสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งให้แก่ดินแดนที่พวกเขายึดมาได้ ทว่านี่ดูจะเป็นเพียงการวาดหวังอนาคตแบบสร้างภาพมายาขึ้นมาเท่านั้น เพราะฝ่ายรัสเซียย่อมไม่ใช่ยอมจ่ายด้วยราคาแพงลิบลิ่วเพียงเพื่อจะกลับมานั่งดูเฉยๆ และปล่อยให้สิ่งต่างๆ หลุดลอยออกไปอีก ในความเป็นจริงแล้ว พวกผู้นำรัสเซียกำลังเริ่มลงมือกระทำการราวกับว่าพวกเขาสูดได้กลิ่นคาวเลือดของเหยื่อแล้วด้วยซ้ำ

ไบเดนอาจจะต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในสองสิ่งนี้ นั่นคือถ้าหากไม่ใช่การพังครืนของยูเครนเพราะพวกเขาพ่ายแพ้รัสเซีย ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ ยูเครนมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ที่มีความเป็นมิตรกับมอสโก

ในยุโรปมีการพูดกันถึงเรื่องจัดส่งทหารเข้าไปช่วยชีวิตยูเครนให้อยู่รอดต่อไป หากพิจารณากันจากทัศนะมุมมองในแง่การปฏิบัติการล้วนๆ การจัดส่งกองกำลังอาวุธของยุโรปเข้าไปสู้รบในยูเครน เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะกองกำลังอาวุธเหล่านี้ตั้งอยู่ห่างไกลเกินไปกว่าที่จะสามารถใช้งานอะไรได้ แล้วถึงยังไงก็ตาม นี่คือการพูดจาแบบหมดสิ้นความหวังอย่างที่สุดเสียมากกว่า ไม่ใช่การหารืออย่างอิงอยู่กับความเป็นจริง

พวกนายพลเกษียณอายุชาวโปแลนด์ และชาวสหราชอาณาจักรบางราย กำลังผลักดันไอเดียเรื่องการใช้กำลังทหารเข้าไปกอบกู้ช่วยเหลือยูเครนให้พ้นภัย ทว่าอย่างที่ผู้คนซึ่งมีความจริงจังทั้งหลายในยุโรปทราบกันดีอยู่แล้ว นาโต้นั้นขาดแคลนทั้งรถถังและยานเกราะ, เครื่องกระสุน และกระทั่งกองทหารที่จะแบกรับการปฏิบัติการใดๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าช่วงไม่กี่วัน

นาโต้อาจจะพยายามหาทางลงโทษรัสเซียด้วยแสนยานุภาพทางอากาศ ทว่ารัสเซียนั้นมีการป้องกันภัยทางอากาศที่ดี และมีกองทัพอากาศซึ่งทรงศักยภาพ ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่มีหลักประกันใดๆ เลยว่าจะประสบความสำเร็จ และมีโอกาสอย่างมากที่ฝ่ายรัสเซียจะตอบโต้เอาคืนด้วยการเล่นงานฐานทัพต่างๆ ของนาโต้ และกระทั่งเมืองใหญ่ต่างๆ ของนาโต้

ถ้าหากสหรัฐฯ ซึ่งนำเอาแสนยานุภาพทางอากาศออกมาใช้แล้ว ยังกำลังพบว่าตัวเองประสบความลำบากในการหยุดยั้งพวกข้าศึกโลว์เทคต่ำชั้นระดับสามในอิรักและซีเรีย แล้วมีหลักคิดหลักเหตุผลอะไรที่จะทำให้สหรัฐฯและนาโต้คิดหวังว่าพวกเขาสามารถจะมีชัยเหนือข้าศึกที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับตัวเองได้?

วอชิงตันและพวกเพลเยอร์นาโต้อื่นๆ ควรที่จะต้องขบคิดเรื่องการหาทางออกจะดีกว่า เนื่องจากการผลักดันมุ่งจัดส่งอาวุธให้แก่ฝ่ายยูเครนต่อไปเช่นนี้มันอาจจะไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใดๆ ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากหาใครไม่ได้สักคนมาเป็นผู้ยิงปืนเหล่านี้

สตีเฟน ไบรเอนเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเจ้าหน้าที่ของคณะอนุกรรมการตะวันออกใกล้ แห่งคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ รวมทั้งเคยเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมด้านนโยบายของสหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute

ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ใน Weapons and Strategy ที่เป็นบล็อกบนแพลตฟอร์ม Substack ของผู้เขียน

เชิงอรรถ

[1]https://www.aljazeera.com/news/2024/2/7/ukraine-aims-to-bolster-troops-with-new-law
[2]https://www.reuters.com/world/europe/russia-launches-missile-attack-kyiv-other-ukrainian-cities-ukraines-air-force-2024-02-07/#:~:text=KYIV%2C%20Feb%207%20(Reuters),energy%20infrastructure%2C%20Ukrainian%20officials%20said.
[3] https://www.rferl.org/a/zelenskiy-ukraine-martial-law-mobilization-leadership/32806028.html
กำลังโหลดความคิดเห็น