เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมาเตือนวานนี้ (15 ก.พ.) ว่าเมืองอัฟดิอิฟกา (Avdiivka) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในแคว้นโดเนตสก์ (Donetsk) ทางภาคตะวันออกของยูเครน เสี่ยงที่จะถูกกองทัพรัสเซียยึดเร็วๆ นี้ สืบเนื่องจากการที่ทหารยูเครนขาดแคลนเครื่องกระสุนในการสู้รบ
จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว อ้างถึงสถานการณ์ของยูเครนที่กำลังขาดแคลนกระสุนอย่างหนัก โดยบอกว่า “อัฟดิอิฟกาเสี่ยงที่จะตกไปอยู่ในการควบคุมของรัสเซีย”
ปัจจุบันเมืองแห่งนี้แม้จะอยู่ในสภาพเสียหายยับเยินจากผลของสงคราม แต่ก็ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากเป็นประตูไปสู่เมืองโดเนตสก์ (Donetsk) เมืองอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกซึ่งถูกกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออกบุกยึดไว้ในปี 2014 และต่อมาได้ถูกมอสโกประกาศผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย
เวลานี้กองทัพรัสเซียกำลังรุกคืบเข้าปิดล้อมเมืองอัฟดิอิฟกา ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนก็ประกาศว่าจะทำทุกอย่าง “เพื่อปกป้องชีวิตพลเมืองยูเครนไว้ให้ได้มากที่สุด”
เคอร์บีย์ ระบุในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาววานนี้ (15) ว่า สาเหตุที่อัฟดิอิฟกาจะแตกพ่าย “ก็เนื่องจากทหารยูเครนในพื้นที่เหลือกระสุนปืนใหญ่น้อยลงทุกที”
“รัสเซียส่งกองกำลังทหารเกณฑ์เข้าไปโจมตีฐานที่มั่นของยูเครนอย่างต่อเนื่อง และเพราะสภาคองเกรสยังไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณเสริม เราจึงไม่สามารถส่งเครื่องกระสุนที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้อย่างยิ่งในการต้านทานกองทัพรัสเซีย”
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติแพกเกจงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า 95,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงวงเงินราว 60,000 ล้านดอลลาร์ที่จะให้ยูเครน ทว่าร่างกฎหมายนี้ยังจะต้องฝ่าด่านพวก ส.ส.รีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรที่คัดค้านการจ่ายเงินช่วยเหลือยูเครนไปให้ได้เสียก่อน
ยูเครนจำเป็นต้องพึ่งพาอาวุธจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกเพื่อให้สามารถทำสงครามต่อต้านการบุกของรัสเซีย ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจที่มีแสนยานุภาพเหนือกว่าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านกำลังพลหรืออาวุธยุทโปกรณ์ต่างๆ
เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาเตือนวานนี้ (15) ว่า การที่สหรัฐฯ ยังคงล้มเหลวในการอนุมัติงบช่วยเหลือยูเครนก้อนใหม่เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของสงครามแล้ว
ที่มา : BBC