xs
xsm
sm
md
lg

เปิดฉากเลือกตั้ง ‘ปธน.อินโดนีเซีย’ ลุ้นเต็งหนึ่ง ‘ปราโบโว ซูเบียนโต’ คว้าชัย-กรุยทางสืบทอดอำนาจลูกชาย ‘โจโกวี’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปราโบโว ซูเบียนโต ผู้สมัครประธานาธิบดีเต็งหนึ่งของอินโดนีเซีย เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งในเมืองโบกอร์ (Bogor) จังหวัดชวาตะวันตก
ชาวอินโดนีเซียกว่า 200 ล้านคนทยอยเดินทางเข้าคูหาเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ (14 ก.พ.) โดยมีพลโทปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เป็นผู้สมัครเต็งหนึ่งที่คาดว่าจะคว้าเก้าอี้ผู้นำแดนอิเหนาคนใหม่

ผู้สมัครเกือบ 259,000 คนลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาบริหารส่วนท้องถิ่นรวมทั้งสิ้นราว 20,600 ตำแหน่งทั่ว 17,000 เกาะของอินโดนีเซีย ทว่าสิ่งที่ผู้คนจับจ้องมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี รวมถึงอนาคตของโครงการต่างๆ ที่ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด หรือ "โจโกวี" ได้วางรากฐานเอาไว้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ครองอำนาจบริหารประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างเต็งหนึ่งอย่าง ปราโบโว ซูเบียนโต อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ และอดีตลูกเขยของนายพลซูฮาร์โต อดีตผู้นำจอมเผด็จการของอินโดนีเซีย กับผู้สมัครอีก 2 ราย คือ กันจาร์ ปราโนโว (Ganjar Pranowo) อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง และอานีส บาสเวดัน (Anies Baswedan) อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา

โนวัน มาราโดนา ผู้ประกอบการธุรกิจวัย 42 ปี ให้สัมภาษณ์หลังเดินออกจากคูหาเลือกตั้งที่กรุงจาการ์ตาว่า “อยากได้ผู้สมัครที่จะเข้ามาสานต่อนโยบายดีๆ ที่ทำไว้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถ้าต้องเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่ มันเสียเวลา”

ประชาชนชาวอิเหนาจะมีเวลา 6 ชั่วโมงในการไปหย่อนบัตรเลือกตั้งหลังเปิดหีบ โดยอินโดนีเซียนั้นมีพื้นที่ครอบคลุม 3 เขตเวลา และคาดว่าหน่วยเลือกตั้งทางตะวันตกสุดของประเทศจะปิดหีบในเวลาประมาณ 6.00 น. GMT

อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิเลือกตั้งที่กรุงจาการ์ตาในวันนี้ (14) ต้องเผชิญปัญหาจากพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนีเซียออกมาประกาศเตือนล่วงหน้าว่าการโหวตอาจจะล่าช้าใน 10 หมู่บ้านของจังหวัดชวากลาง เนื่องมีปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน

กีบราน รากาบูมิง รากา บุตรชายคนโตของประธานาธิบดีโจโกวี ซึ่งลงสมัครชิงรองประธานาธิบดีคู่กับปราโบโว ซูเบียนโต
สำหรับ ปราโบโว นั้นลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เคยพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ประธานาธิบดี วิโดโด มาแล้ว 2 ครั้ง ขณะที่ วิโดโด เองก็หันมาใช้ยุทธศาสตร์หนุนหลังอดีตคู่แข่งเพื่อปูทางส่งมอบอำนาจต่อให้กีบราน รากาบูมิง รากา (Gibran Rakabuming Raka) บุตรชายคนโตวัย 36 ปี ของตนเอง ซึ่งลงสมัครชิงรองประธานาธิบดีคู่กับ ปราโบโว ในครั้งนี้

วิโดโด ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำมาแล้ว 2 สมัยและไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อีก ไม่เคยประกาศชัดเจนว่าสนับสนุนผู้สมัครคนใด แต่การที่เขาส่งบุตรชายเป็นคู่หูชิงรองประธานาธิบดีคู่กับ ปราโบโว ก็ถือเป็นสัญญาณหนุนหลังกลายๆ ที่ช่วยให้เพิ่มคะแนนนิยมให้แก่รัฐมนตรีกลาโหมผู้นี้ โดยผลสำรวจความคิดเห็น 2 ชิ้นที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า ปราโบโว จะคว้าชัยชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง

ผลสำรวจดังกล่าวพบว่า ปราโบโว มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 51.8% และ 51.9% ตามลำดับ ขณะที่ อานีส และ กันจาร์ มีคะแนนตามมาห่างๆ อยู่ที่ 21% และ 31% โดยผู้สมัครประธานาธิบดีที่จะชนะขาดนั้นต้องได้คะแนนโหวตเกิน 50% ขึ้นไป และจะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 20% ในครึ่งหนึ่งของจำนวนจังหวัดทั้งหมดของอินโดนีเซีย

อานีส บาสเวดัน ชูนโยบายหาเสียงด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้การปฏิรูประบอบประชาธิปไตยในอินโดนีเซียตลอด 25 ปีที่ผ่านมาหลังหมดยุคนายพลซูฮาร์โตต้องถดถอยลงไป

ด้าน กันจาร์ ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซียเพื่อการต่อสู้ (Democratic Party of Struggle) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ประธานาธิบดี วิโดโด เองก็เป็นสมาชิกอยู่ ชูแคมเปญหาเสียงว่าจะสานต่อนโยบายต่างๆ ที่ประธานาธิบดีเคยทำไว้ ทว่าก็ยังไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเท่าที่ควร

สำหรับ ปราโบโว วัย 72 ปี นั้นพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองจากนายพลผู้มีประวัติพัวพันการละเมิดสิทธิมนุษยชนกลายมาเป็น “คุณปู่ใจดี” ที่กระตือรือร้นและชอบออกลีลาท่าเต้นบนเวทีหาเสียง คลิปวิดีโอใน TikTok ที่เผยให้เห็น ปราโบโว ในมุมอ่อนโยนยังทำให้เขาได้ใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 204.8 ล้านคนในแดนอิเหนา

ที่มา : รอยเตอร์

ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด และภริยา ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งในกรุงจาการ์ตา




กำลังโหลดความคิดเห็น