เอพี/เอเจนซีส์ – รัฐบาลโปแลนด์ ฝรั่งเศสและเยอรมันวันจันทร์(12 ก.พ) แถลงจับมือจะสร้างอำนาจทางทหารป้องกันและความมั่นคงให้ยุโรปพร้อมความสามารถเพิ่มช่วย “ยูเครน” ประกาศนำกลุ่มสามเหลี่ยมไวมาร์ (Weimar Triangle ) กลับมาอีกครั้ง เตรียมรับวิกฤตอเมริกาสมัยทรัมป์ 2.0 แถลงบนเวทีหาเสียงเปิดทางให้ปูตินส่งทหารบุกดินแดนนาโตถ้ายุโรปไม่จ่ายเพิ่ม
เอพีรายงานวันนี้(13 ก.พ) นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ อดีตประธานรัฐสภายุโป พบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ที่กรุงปารีส และนายกรัฐมนตรีเยอรมัน โอลาฟ ชอลซ์ ที่กรุงเบอร์ลินในวันจันทร์(12) ประกาศต้องการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันแข็งแกร่งมากขึ้นกับชาติพันธมิตรสำคัญในยุโรป หลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณแรงช็อกทั่วยุโรปประกาศหากได้เป็นผู้นำอเมริกันรอบ 2 จะไม่ส่งกำลังทหารช่วยยุโรปพร้อมจะเปิดทางให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน บุกชาตินาโตหากไม่จ่ายค่าการทหารให้นาโตเพิ่ม
รัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ชาติจากโปแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมันวานนี้(12)พบกันที่ La Celle-Saint-Cloud ย่านชานกรุงปารีสหารือเกี่ยวกับยูเครนและประเด็นอื่นๆ
ส่วนที่สำคัญทั้ง 3 ชาติตกลงรื้อฟื้นกลุ่มสามเหลี่ยมไวมาร์( Weimar Triangle ) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความร่วมมือระหว่างโปแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน
กลุ่มสามเหลี่ยมไวมาร์ตั้งขึ้นเมื่อปี 1991 ในช่วงเวลาที่โปแลนด์ผงาดจากการอยู่ภายใต้การปกครองคอมมิวนิสต์ของอดีตสหภาพโซเวียต
รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส สเตฟาน เซฌูร์เน (Stéphane Séjourné) แถลงว่า “ ทุกนาทีที่นับได้ในการทำให้ยุโรปพร้อมต่อการช็อกของสถานการณ์ที่บรรยายได้เป็นอย่างดีจากโดนัลด์ ทรัมป์"
ความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ได้แถลงถึงจุดยืนกลางเวทีหาเสียงเรียกยุโรปว่า “พวกเกเร” สร้างความตกตะลึงให้กับคนจำนวนมากในยุโรปโดยเฉพาะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯถึงขั้นประกาศเชิญชวนให้รัสเซียบุกเข้ายุโรป หากไม่จ่ายการป้องกันประเทศเพิ่ม
สถานีโทรทัศน์ MSNBC ของสหรัฐฯรายงานวันอังคาร (13) เรียกคำประกาศวันเสาร์(10)ของทรัมป์ที่จะยุให้รัสเซียบุกยุโรปว่า เขาเป็น “ชายแก่ที่สามารถทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทัสก์ซึ่งชนะการเลือกตั้งโปแลนด์เมื่อธันวาคมปีที่แล้วกล่าววันจันทร์(12)ว่า ไม่มีหนทางอื่นต่อ EU และพันธมิตรข้ามแอตแลนติกก่อนที่เขาจะร่วมการประชุมซัมมิตที่หารือกันถึงการกระชับความสัมพันธ์มากขึ้นทางการทหารกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส
โปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่เทงบการทหารสูงสุด โดนัลด์ ทัสก์ ผู้นำได้กล่าวว่า
“สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส และโปแลนด์ ต้องแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นและพร้อมที่จะปกป้องพรมแดนของพวกเราและปกป้องและสนับสนุนพันธมิตรของพวกเราและเพื่อนของพวกเราจากภายนอกสหภาพ”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง แถลงว่า ฝรั่งเศสและโปแลนด์จะทำการเจรจาในสนธิสัญญาใหม่ครอบคลุมการป้องกันประเทศ พลังงาน และประเด็นด้านวัฒนธรรม และยุโรปจำเป็นต้องเพิ่มการผลิตอาวุธให้ยูเครนระหว่างที่พรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสสหรัฐฯยังคงขวางแพกเก็จช่วยเหลือทางการทหาร 61พันล้านดอลลาร์
มาครงแถลงว่า การผลิตอาวุธจะเป็นการสร้างฐานอุตสาหกรรมให้ยุโรปและบทบาททางการทหาร และเสริมต่อว่า “นี่ถือเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในการสร้างความมั่นคงให้ยุโรปและอำนาจทางการทหารต่อนาโต เสาหลักยุโรปของพันธมิตรข้ามแอตแลนติก”