ชายคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาหลังลักลอบขึ้นเครื่องบินโดยสารจากลอนดอน มุ่งหน้าสู่นิวยอร์ก เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยไม่มีทั้งตั๋วและพาสปอร์ต ในเหตุการณ์ซึ่งกระตุ้นให้มีการสืบสวนกันยกใหญ่
เครก สเติร์ท เล็ดลอดผ่านจุดคัดกรองด้านความมั่นคงหลายด่านและจุดควบคุมพาสปอร์ตโดยไม่ได้แสดงเอกสารใดๆ เลย ณ สนามบินฮีทโธรว์ ก่อนขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ในช่วงก่อนคริสต์มาส
อย่างไรก็ตาม ชายวัย 46 ปีรายนี้ถูกสกัดไว้ตอนที่เดินทางมาถึงสนามบินเจเอฟเค และโดนส่งตัวกลับไปยังสหราชอาณาจักร ก่อนถูกจับกุมตัวและตั้งข้อหาฉ้อฉล รวมถึงกระทำผิดต่างๆ ภายใต้กฎหมายความปลอดภัยด้านการบิน
อ้างอิงจากข้อกล่าวหา ระบุว่า สเติร์ท เข้าไปยังเขตการบิน ณ อาคารผู้โดยสาร 5 ของสนามบินฮีทโธรว์ และขึ้นเครื่องบินโบอิ้ง 787-10 ดรีมไลเนอร์ "โดยไม่ได้จ่ายค่าตั๋ว" และบันทึกของศาลพบว่าเขายอมรับสารภาพว่ากระทำผิดต่างๆ กับศาลแขวงอูกซ์บริดจ์ ซึ่งเขามีกำหนดรับฟังบทระวางโทษในเดือนมกราคม แต่เขาไม่ยอมมาปรากฏตัว ทำให้เวลานี้ศาลได้มีการออกหมายจับเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีรายงานว่า สเติร์ท ไม่ได้ไปรายงานตัวกับตำรวจเธมส์ วัลเลย์ ในวันที่ 25 มกราคม และทางตำรวจนครบาลอนดอนจึงรับคดีนี้มาจัดการต่อในวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเวลานี้ทางตำรวจนครบาลได้รับผิดชอบเป็นแกนนำในการสืบสวน
"เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2023 ตำรวจได้รับแจ้งเกี่ยวกับคำกล่าวหาการละเมิดความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ และต่อมาชายคนหนึ่งถูกจับ และจากนั้นถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและกระทำผิดกฎหมายความปลอดภัยด้านการบิน" ตำรวจระบุในถ้อยแถลง "เราเดินหน้าทำงานกับหน่วยงานพันธมิตรของเรา เพื่อทบทวนและเสริมมาตรการความปลอดภัยที่เข้มแข็งอยู่ก่อนแล้ว และอยู่ภายใต้การตรวจสอบทบทวนอยู่เป็นประจำ โดยพันธมิตรด้านความมั่นคงในวงกว้างของเรา"
ตำรวจนครบาลลอนดอน ระบุว่า สเติร์ท ถูกจับกุมตอนเวลา 20.00 น. ในวันคริสต์มาส หลังถูกส่งตัวจากนิวยอร์ก กลับมาถึงสหราชอาณาจักร และถูกตั้งข้อหาเข้าถึงการบริการต่างๆ ด้วยการหลอกลวง เข้าไปในเขตการบินอย่างผิดกฎหมาย และขึ้นเครื่องบินโดยไม่ได้รับอนุญาต
โฆษกของสนามบินฮีทโธรว์ระบุว่า "ทุกคนที่เข้าไปยังเขตการบินจะต้องผ่านการคัดกรองด้านความปลอดภัย ในนั้นรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย เราสนับสนุนการสืบสวนของพวกเจ้าหน้าที่" ส่วนโฆษกของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส เปิดเผยว่า "เรากำลังให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าหน้าที่ที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
(ที่มา : สกายนิวส์)